ชิลีแจ้งเตือนทั่วประเทศ งดใช้ถุงยางจากจีน

คำประกาศจากรัฐบาล หลังพบว่าถุงยางที่แจกจ่ายให้แก่ประชาชนมีปัญหา โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญรณรงค์ต้าน HIV

คำประกาศใหม่จากรัฐบาลชิลี ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ถุงยางอนามัยที่นำเข้าจากจีน โดยถุงยางจำนวน 1.2 ล้านชิ้นดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญรณรงค์จากรัฐบาลที่ช่วยหยุดการตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม และการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ

สถาบันสาธารณสุขชิลีกล่าวว่า ประชาชนคนใดก็ตามที่ได้รับถุงยางยี่ห้อ Kaiju จากรัฐ ให้หลีกเลี่ยงที่จะใช้มันจนกว่าปัญหาข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์จะได้รับการแก้ไข

คำประกาศนี้มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังการแสดง "วิธีการใช้ถุงยางที่ถูกต้อง" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ แต่ถุงยางเกิดรั่วและแตกขึ้น ในขณะที่ใช้ร่วมกับสารหล่อลื่น

ชิลีมีอัตราผู้ป่วย HIV สูงขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วงสิบปีมานี้ ด้านเจ้าหน้าที่กล่าวว่าจากรายงานมีประชาชนชาวชิลีจำนวน 25,000 คนที่กำลังทำการรักษา ในขณะที่อีก 14,000 คนนั้นไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้อ HIV

ทั้งนี้ตัวเลขผู้ป่วยที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากความคิดแบบอนุรักษ์นิยมที่มักไม่กล้าพูดคุยเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือกับเพื่อนร่วมงานก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้รัฐบาลชิลีเองก็ถูกตำหนิเช่นกัน จากการประชาสัมพันธ์ที่ไม่หนักแน่นมากพอ

อเลจานโดร อฟานี ผู้อำนวยการศูนย์ HIV ประจำมหาวิทยาลัยชิลีกล่าวว่า วัฒนธรรมการปิดบังเรื่องเพศนั้น ไม่ใช่แค่พบในชิลี แต่เป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในอเมริกาใต้ ซึ่งรัฐบาลคิดว่าสิ่งนี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่จริงจัง นอกจากนั้นเขายังสนับสนุนให้ใครก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากถุงยางที่ไม่มีมาตราฐานเหล่านี้ สามารถฟ้องร้องรัฐเพื่อเรียกร้องสิทธิของพวกเขาได้

ด้านบริษัทผู้ผลิตถุงยาง Kaiju จากจีนได้เขียนคำแถลงการณ์ลงในเฟสบุ๊คว่า สินค้าทุกชนิดนั้นผ่านการตรวจรับรองมาตราฐาน และสินค้าก็มีความเหมาะสมกับขนาดของอวัยวะเพศชายชาวชิลี นอกจากนั้นทางบริษัทยังกล่าวว่า สินค้าที่มาจากประเทศจีนทุกอันไม่จำเป็นต้องหมายความวว่าสินค้าเหล่านั้นไม่ได้มาตราฐาน