posttoday

"เกาหลี-ญี่ปุ่น"อัดงบ-ขยายจ้างงานกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

29 มิถุนายน 2559

เกาหลีใต้หั่นจีดีพี เล็งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหลังเบร็กซิต ญี่ปุ่นเตรียมช่วยรายย่อยพ้นผันผวน

เกาหลีใต้หั่นจีดีพี เล็งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหลังเบร็กซิต ญี่ปุ่นเตรียมช่วยรายย่อยพ้นผันผวน

กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ แถลงว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 2016 นี้ คาดว่าจะเติบโตได้เพียง 2.8% จากที่คาดการณ์ไว้เดิมเมื่อปลายปีที่แล้วที่ 3.1% ซึ่งจะถือเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปี และส่งผลให้รัฐบาลเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้

เอพี ระบุว่า เกาหลีใต้ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 4 ในเอเชีย เตรียมประกาศงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมอีก 10 ล้านล้านวอน (ราว 3 แสนล้านบาท) ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการจ้างงานเป็นหลักผ่านโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั่วประเทศ

นอกจากการขยายงบประมาณรายจ่ายเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว รัฐบาลประธานาธิบดี ปาร์กกึนเฮ ยังเตรียมแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่มเติม วงเงินรวม 20 ล้านล้านวอน (ราว 6 แสนล้านบาท) โดยแผนเหล่านี้กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของรัฐสภา

ยูอิลโฮ รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาด เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาที่กระทบต่อภาคการส่งออก โดยก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ลดคาดการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลกระทบจากการที่สหราชอาณาจักรที่นำโดยอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิต จะอยู่ในวงจำกัด

ทางด้าน โนบุเทรุ อิชิฮาระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยจะเน้นให้ความช่วยเหลือ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เพื่อรับมือกับผลกระทบจากเบร็กซิต ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นครั้งนี้อาจมีวงเงินอย่างน้อยถึง 10 ล้านล้านเยน (ราว 3.45 ล้านล้านบาท)

อิชิฮาระ กล่าวว่า แม้ความกังวลเรื่องเบร็กซิตจะเริ่มบรรเทาลง แต่ญี่ปุ่นต้องเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะการแข็งค่าขึ้นอย่างกะทันหันของเงินเยน ซึ่งอาจกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์ เบร็กซิตส่งผลให้นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยและทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นไปสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเทียบเหรียญสหรัฐ

ด้านธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ย้ำว่า ค่าเงินหยวนจะยังมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่นๆ หลังค่าเงินหยวนเพิ่งอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. แต่พีบีโอซีได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเพิ่มเติม 1 แสนล้านหยวน (ราว 5.3 แสนล้านบาท) ส่งผลให้หยวนแข็งค่าขึ้น 0.1% อยู่ที่ 6.6495 หยวน/เหรียญสหรัฐ วานนี้