งบทหารเวียดนามทะยานแรง

งบทหารเวียดนามพุ่งหลังพิพาททะเลจีนใต้ คาดซื้ออาวุธป้องกันชายฝั่ง-ทางทะเลเพิ่ม ชี้สหรัฐฟื้นค้าอาวุธทำค่าใช้จ่ายพุ่งแตะ1.78แสนล้าน

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เปิดเผยว่า งบประมาณทางการทหารของเวียดนามปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความขัดแย้งในทะเลจีนใต้กับจีน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลังสหรัฐยกเลิกมาตรการห้ามซื้อขายอาวุธกับเวียดนาม

สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (เอสไอพีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า ค่าใช้จ่ายทางการทหารของเวียดนามในปี 2015 อยู่ที่ 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.56 แสนล้านบาท) หรือคิดเป็น 8% ของค่าใช้จ่ายรัฐบาล

จอน กรีเวต นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมกลาโหมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไอเอชเอส เจนส์ นิตยสารการทหารของสหรัฐ คาดการณ์ว่างบประมาณทางการทหารของเวียดนามในปีนี้จะอยู่ที่ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.78 แสนล้านบาท) และขยับขึ้นเป็น 6,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.2 แสนล้านบาท) ภายในปี 2020

ทั้งนี้ ไอเอชเอส เจนส์ คาดการณ์ว่าเวียดนามจะใช้งบประมาณซื้ออาวุธราว 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 5.71 หมื่นล้านบาท) ในปีนี้ และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.14 หมื่นล้านบาท) ภายในปี 2020 ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เวียดนามจะสั่งซื้อเครื่องบินพิฆาตเรือดำน้ำ พี-3 โอไรออน จากล็อกฮีด มาร์ติน บริษัทด้านการทหารยักษ์ใหญ่ของโลก และระบบเรดาร์ชายฝั่งจากเรธีออน บริษัทขีปนาวุธนำวิถีรายใหญ่

ทางด้านประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ กล่าวถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน โดยย้ำว่ารัฐบาลเวียดนามควรให้ความสำคัญกับหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงออก การร่วมกลุ่ม และการพูด พร้อมระบุว่า หลักสิทธิมนุษยชนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของประเทศ แต่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพของประเทศและภูมิภาค

นอกจากนี้ โอบามา ยังระบุด้วยว่า สหรัฐจะให้การสนับสนุนกองทัพเวียดนามในการเพิ่มศักยภาพทางชายฝั่งและทางทะเล พร้อมระบุว่า เส้นทางในการเดินเรือควรเปิดอย่างเสรีสำหรับทุกประเทศ

"ประเทศที่ใหญ่กว่าไม่ควรรังแกประเทศที่เล็กกว่า และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นควรแก้ไขอย่างสันติ" ผู้นำสหรัฐระบุ

ขณะที่บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ระบุว่า ความพยายามของสหรัฐที่ใช้เวียดนามเป็นเครื่องมือในการโจมตีจีน จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเวียดนามไม่ควรคุกคามจีนและผลประโยชน์ของจีน

ภาพ เอเอฟพี