แฉยับตัวเต็งผู้นำฟิลิปปินส์

ตัวเต็งผู้สมัครชิงผู้นำ ฟิลิปปินส์ถูกแฉจ้างงานลูกจ้างผีกว่าหมื่นอัตรา เสี่ยงเจอรัฐประหาร

อันโตนิโอ ตริลลาเนส ที่ 4 วุฒิสมาชิกของฟิลิปปินส์ เผยแพร่เอกสารลับ ระบุว่า ในปี 2014 โรดริโก ดูเตอร์เต ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ และนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา ได้จ้างงานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ไม่มีตัวตนถึง 1.1 หมื่นอัตรา คิดเป็นเงินเดือนทั้งหมดกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 527 ล้านบาท)

ต่อมาในปี 2015 คณะกรรมการตรวจสอบชี้ว่า ท้องถิ่นเมืองดาเวาขาดเอกสารที่ชัดเจนในการยืนยันการมีตัวตนของพนักงานดังกล่าว โดยขณะนี้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของฟิลิปปินส์จะรับช่วงสืบสวนคดีดังกล่าวต่อ ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงจะนำไปสู่การจับกุมดูเตอร์เตในข้อหาทุจริต

ก่อนหน้านี้ ตริลลาเนส ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แพร่หลักฐานเม็ดเงินมูลค่า 51 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1,793 ล้านบาท) ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวหลายบัญชีของดูเตอร์เต ระหว่างปี 2006-2015 ซึ่งดูเตอร์เตไม่สามารถอธิบายแหล่งที่มาของเงินได้

ทั้งนี้ เอเอฟพี ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่อาจเกิดการรัฐประหารหากดูเตอร์เตได้รับเลือกให้เป็นผู้นำประเทศ เนื่องจากนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาเคยลั่นวาจาว่าจะสนับสนุนกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์ในประเทศ แต่งตั้งหัวหน้ากลุ่มคอมมิวนิสต์ให้รับตำแหน่งในรัฐบาล และอาจมีการยุบสภา หรือจัดตั้งรัฐบาลปฏิวัติขึ้นมาบริหารประเทศแทน ซึ่งจะมีอำนาจสิทธิขาดในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่

“ผู้ชายคนนี้ไม่เคารพหลักการและสถาบันตามระบอบประชาธิปไตยเลย” ตริลลาเนส ระบุ พร้อมชี้ว่า นายทหารส่วนใหญ่ในกองทัพฟิลิปปินส์ไม่พอใจความสัมพันธ์ระหว่างดูเตอร์เตและกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์อย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ในอนาคต

นอกจากนี้ หากดูเตอร์เตดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ อาจก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับหลักนิติธรรม โดยเฉพาะการออกและการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากดูเตอร์เตเคยลั่นวาจาว่าจะสังหารอาชญากรนับพันชีวิต และไม่ถือว่าเป็นความผิดจากการสังหารหมู่ดังกล่าว ซึ่งก่อให้เกิดคำครหาว่าดูเตอร์เตเปรียบเหมือนเผด็จการของฟิลิปปินส์

สอดคล้องกับคำเตือนของประธานาธิบดี เบนินโญ อาคิโน ที่ระบุว่า ดูเตอร์เตมีแนวคิดเผด็จการสูง และหากดูเตอร์เตได้เป็นผู้นำประเทศ ระบอบประชาธิปไตยอาจตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก

ด้าน รอมเมล บันลอย ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจเกิดการแทรกแซงทางทหารภายใต้การบริหารประเทศของดูเตอร์เต และรัฐบาลของดูเตอร์เตก็มีแนวโน้มไร้เสถียรภาพสูง

ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์จะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งคะแนนความนิยมของดูเตอร์เตนำโด่งเหนือคู่แข่งที่ 31% ขณะที่ เฟอร์ดินานด์ บองบอง มาร์กอส ทายาทอดีตผู้นำมาร์กอส ก็เป็นตัวเต็งในศึกชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดี

ภาพเอเอฟพี