posttoday

ดอลลาร์แข็งดันหนี้เน่าเอเชียพุ่งสุด 6 ปี

01 ธันวาคม 2558

กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เสี่ยงประสบปัญหาผิดนัดชำระหนี้ จากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐ

โดย....ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เสี่ยงประสบปัญหาผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐ ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ระบุความเสี่ยงที่กลุ่มประเทศดังกล่าวจะผิดนัดชำระหนี้สูงถึง 40% สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009

ทั้งนี้ ยังนับเป็นครั้งแรกของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้สูงกว่าประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐ

ข้อมูลจากธนาคารบาร์เคลย์ส เปิดเผยตัวเลขความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 3.8% ในขณะที่สหรัฐอยู่ที่ 2.5% โดยเมื่อปี 2011 ตัวเลขดังกล่าวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อยู่ที่ 0.7% ส่วนสหรัฐอยู่ที่ 2.1% ซึ่งความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างภาคธุรกิจและผู้ปล่อยกู้

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ) ระบุว่า ภาคธุรกิจที่มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน สิงคโปร์ โดยต้นปี 2015 กลุ่มประเทศเกิดใหม่มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้มูลค่าราว 23.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่มาจากประเทศในเอเชีย

ทั้งนี้ หนี้สินที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเข้าไปลงทุนในประเทศเกิดใหม่มากขึ้น เนื่องจากประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในขณะเดียวกันภาคธุรกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ก็ต้องการระดมทุนสูงขึ้น เพื่อขยายธุรกิจแข่งขันกับประเทศพัฒนาแล้ว

อย่างไรก็ดี บรรดานักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าตัวเลขการผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในปี 2016 จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว โดยเฉพาะเงินหยวนที่อ่อนค่า อีกทั้งต้นทุนการกู้ยืมก็เพิ่มขึ้นด้วย จากการที่นักลงทุนหันไปลงทุนในพันธบัตรสหรัฐมากขึ้น จากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

ในขณะที่เศรษฐกิจกลุ่มประเทศในยุโรปปรับตัวดีขึ้น จากความคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ในการประชุมวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

จีนแย่ฉุดจีดีพีมาเก๊าร่วง 24%

รัฐบาลจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ไตรมาส 3 ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 24.2% จากไตรมาสก่อนที่ 26.4% ส่งผลให้เศรษฐกิจของมาเก๊าหดตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว และมาตรการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นของจีนสร้างความกังวลต่อเศรษฐีจีนอย่างมาก

สำนักงานสถิติและสำรวจทั่วไป ของมาเก๊า เปิดเผยว่า ภาคการส่งออกปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง รายได้จากการพนันลดลง 37.4% และภาคการท่องเที่ยวที่ลดลง 15.3% ส่งผลให้เศรษฐกิจมาเก๊าหดตัว

แบงก์ชาติเอเชียรับมือ ศก.ผันผวน

ธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ เน้นย้ำว่า การขยายเครื่องมือดำเนินนโยบายสาธารณะ และการประสานงานร่วมกัน จะเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านกา รขยายตัวทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคได้ โดยความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการค้า เงินตราต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ย และการเคลื่อนย้ายของเงินทุน

ทั้งนี้ บรรดาธนาคารกลางเสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ ท่ามกลางเงื่อนไขทางเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้