"ปูติน"ฉุนเสริมเขี้ยวเล็บในซีเรีย

นาโต้-สหรัฐหนุนหลังตุรกี ด้านรัสเซียลั่นโจมตีทุกเป้าหมายที่คุกคามกองทัพ

เซอร์เกย์ โชยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ประกาศยุติความร่วมมือกับกองทัพตุรกี พร้อมส่ง เรือติดขีปนาวุธประจำการทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีภารกิจโจมตี "ทุกเป้าหมาย" ที่เป็นอันตรายต่อกองทัพรัสเซียในซีเรีย พร้อมระบุเป็นการยั่วยุที่วางแผนแล้ว และจะไม่เข้าสู่สงครามเพราะเหตุดังกล่าว

ขณะที่ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เตือนประชาชนงดเดินทางไปตุรกี โดยอ้างภัยคุกคามจากการก่อการร้าย

ด้าน เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) และประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ยืนยันอยู่ฝ่ายตุรกีและสนับสนุนสิทธิของตุรกีในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ พร้อมเรียกร้องทั้งสองประเทศลดความตึงเครียดเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย

"นาโต้พร้อมยืนหยัดเคียงข้างรัฐสมาชิกตุรกี และสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดงของชาติสมาชิกนาโต้" สโตลเตนเบิร์ก ระบุ

 ผู้นำสหรัฐเรียกร้องให้ตุรกีและรัสเซียลดความตึงเครียดเพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ความสงบ และใช้การเจรจาทางการทูตแทน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา กองทัพตุรกีได้ยิงเครื่องบินรบ ซู-24 ของรัสเซียตกบริเวณชายแดนซีเรียติดกับตุรกี โดยอ้างว่าเครื่องบินรบลำดังกล่าวรุกล้ำเข้าน่านฟ้าของตุรกี โดยมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าหลายครั้ง ส่งผลให้นักบินเสียชีวิต 1 ราย จากฝีมือกลุ่มกบฏซีเรีย ขณะที่นักบินอีกรายได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพซีเรีย

ด้านผู้นำรัสเซียยืนยันเครื่องบินไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าตุรกี โดยขณะถูกยิงเครื่องบินบินเหนือน่านฟ้าซีเรีย ห่างจากชายแดนตุรกี 1 กิโลเมตร และตกในฝั่งซีเรียห่างจากชายแดนดังกล่าว 4 กิโลเมตร ซึ่งนักบินยืนยันว่าไม่มีการแจ้งเตือน

ขณะที่สื่อรัสเซียรายงานก่อนหน้านี้ ตุรกีตัดสินใจยิงใส่เครื่องบินรัสเซียหลังจากที่แจ้งเตือนไปแค่ 17 วินาทีเท่านั้น

แม้ปูตินจะแสดงท่าทีแข็งกร้าว แต่นักการทูตรายหนึ่งเปิดเผยว่า รัสเซียยังคงต้องการจะเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ ฝรั่งเศส หรือแม้แต่กับตุรกี เพื่อจัดการกับกลุ่ม
รัฐอิสลาม หรือไอเอส และในเวลาต่อมา เซอร์เก ลัฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยืนยันว่า ไม่มีแผนการทำสงครามกับตุรกี และทัศนะต่อตุรกียังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่อาจต้องประเมินความสัมพันธ์ กันใหม่

ด้าน นายกรัฐมนตรี อาห์เหม็ด ดาวูโตกลู แห่งตุรกี ยังแสดงท่าทีโอนอ่อนลง โดยกล่าวว่า รัสเซียคือมิตรประเทศของตุรกี และไม่ควรที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายจะต้องมาถูกทำลายลงเพราะอุบัติเหตุจากการสื่อสารผิดพลาด พร้อมยืนยันว่า  ไม่ทราบว่าเครื่องบินรบดังกล่าวเป็นของชาติใด จนกระทั่งรัฐบาลรัสเซียยืนยันแล้วจึงทราบความจริง

ระหว่างที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศตกอยู่ในภาวะอึมครึม จนผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารพากันแสดงความเห็นว่า คงไม่แคล้วที่ทั้งสองประเทศจะเปิดศึกห้ำหั่นกัน อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดสงครามระหว่างสองประเทศ หรือสงครามโลกยังมีความเป็นไปได้ไม่มากนัก หากจะพิจารณาว่าทั้งคู่ได้ผลประโยชน์จากการค้าก๊าซธรรมชาติมหาศาล จนไม่คุ้มที่จะจุดชนวนความขัดแย้ง

ทั้งนี้ ตุรกีนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของการนำเข้าทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าการค้าขายเมื่อปีที่แล้ว สูงถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 350,000 ล้านบาท