posttoday

ซีเรียเดือด อิหร่านส่งทัพลุย

05 ตุลาคม 2558

สถานการณ์ในซีเรียตึงเครียดหนัก อิหร่านได้เข้าร่วมกับรัสเซียในปฏิบัติการถล่มซีเรียแล้ว ขณะที่ฝรั่งเศสโวยอย่าโจมตีพลาด

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

สถานการณ์ในซีเรียตึงเครียดหนัก อิหร่านได้เข้าร่วมกับรัสเซียในปฏิบัติการถล่มซีเรียแล้ว ขณะที่ฝรั่งเศสโวยรัสเซียอย่าโจมตีพลาดโดนคนของพันธมิตรตะวันตกอีก

วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ทางการอิหร่านได้ตัดสินใจเพิ่มบทบาททางการทหารในซีเรีย แม้การตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลให้อิหร่านอยู่ขั้วตรงข้ามกับสหรัฐและชาติพันธมิตรแถบอ่าวเปอร์เซียก็ตาม ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าอิหร่านเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารมาโดยตลอด ในขณะที่สหรัฐและชาติพันธมิตรอย่าง ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ต้องการให้อัสซาดออกจากตำแหน่ง

สื่อชื่อดังของสหรัฐรายงานอ้างแหล่งข่าวและนักวิเคราะห์ที่ใกล้ชิดกับอิหร่าน ว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มกองกำลังทางการทหาร ได้แก่ ทหารราบ ที่ปรึกษาด้านการทหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านการรบของอิหร่าน โดยการตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลอัสซาด

เวียม วาฮับ อดีตรัฐมนตรีของเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับอิหร่านและอัสซาด เปิดเผยว่า กองกำลังทางการทหารที่อิหร่านส่งเข้าไปในซีเรียส่วนมากมาจากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าขณะนี้มีกองกำลังไออาร์จีซีและทหารกองหนุนของอิหร่านในซีเรียแล้วกว่า 7,000 นาย และกองกำลังจากอิรักราว 5,000 นาย

ทั้งนี้ การเพิ่มบทบาททางการทหารและการสนับสนุนด้านงบ ประมาณของอิหร่านในซีเรียและเยเมน สร้างความกังวลต่อทางการสหรัฐถึงบทบาทของอิหร่านในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นอย่างมาก

ซีเรียเดือด อิหร่านส่งทัพลุย อาคารที่พังเสียหายจากการสู้รบในซีเรีย

ขณะเดียวกัน ทางด้านนายกรัฐมนตรี มานูเอล วอลส์ แห่งฝรั่งเศส ได้กล่าวย้ำว่า รัสเซียจะต้องยึดในเป้าหมายภารกิจในรัสเซียอยู่ที่การจัดการกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) เท่านั้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้พันธมิตรชาติตะวันตก 7 ประเทศ นำโดยสหรัฐ เปิดเผยว่าเป้าหมายของรัสเซียไม่ใช่ไอเอส แต่เป็นกลุ่มต่อต้านประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียต่างหาก

ท่าทีของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านั้น ประธานา ธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ก็ได้ย้ำเตือนต่อประธานา ธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ณ การประชุมสุดยอดที่ปารีส เมื่อ วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ว่าเป้าหมายของรัสเซียคือกลุ่มไอเอส หรือดาอิซ ในภาษาอาหรับเท่านั้น

นอกจากนี้ วอลส์ยังเรียกร้องให้รัสเซียคำนึงถึงชีวิตของประชาชนชาวซีเรียด้วย โดยได้ตำหนิประธานา ธิบดีอัสซาดในกรณีที่รัฐบาลซีเรียสังหารประชาชนของตัวเองหลายหมื่นคน ด้วยการทิ้งระเบิดในพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏ

“เราไม่ควรโจมตีพลเรือนของเราเอง แต่รัฐบาลอัสซาดกลับเดินหน้าทิ้งระเบิดถังน้ำมันและอาวุธเคมีต่อประชาชนซีเรียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” วอลส์ กล่าวเสริม ทั้งนี้ ทางการฝรั่งเศสยังยืนยันจุดยืนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในซีเรีย ซึ่งรวมถึงตัวอัสซาดเองด้วย

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ นิยามการกระทำของรัสเซียว่า “สูตรหายนะ” โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเหนือน่านฟ้าซีเรีย โดยมีเป้าหมายที่กลุ่มไอเอส แต่พันธมิตรชาติตะวันตกเชื่อว่ารัสเซียใช้ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายเป็นข้ออ้างในการโจมตีกลุ่มต่อต้านประธานาธิบดีอัสซาด ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่ารัสเซียและอัสซาดเป็นพันธมิตรต่อกัน

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย อ้างว่า การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดสามารถทำลายศูนย์บัญชาการ และโรงงานผลิตระเบิดของไอเอสใกล้เมืองมาเร็ต อัล-นูมาน จังหวัดอิดลิบ ได้อย่างราบคาบ นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายจัดการศูนย์กลางในจังหวัดฮามาอีกด้วย

ด้านแหล่งข่าวทางทหารและผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของซีเรีย กล่าวว่า พื้นที่ที่รัสเซียโจมตีนั้นอยู่ใต้อิทธิพลของกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ไอเอส อีกทั้งกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ เปิดเผยว่า การโจมตีของรัสเซียเพียง 5% เท่านั้นที่โดนไอเอส

วันเดียวกัน ทางด้านองค์การแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษย ธรรมชื่อดัง เปิดเผยว่า การโจมตีทางอากาศของสหรัฐที่เมืองคุนดุซ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกา นิสถานเกิดความผิดพลาดโดนโรงพยาบาล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งแพทย์ไร้พรมแดนและผู้ป่วยอย่างน้อย 19 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 37 ราย

ด้านทางการสหรัฐออกมายอมรับว่ามีคำสั่งโจมตีทางอากาศจริง ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้กลุ่มกบฏตาลีบันที่แฝงตัวในโรงพยาบาล

เซอิด ราอัด อัล-ฮุสเซ็น ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แถลงว่า การโจมตีทางอากาศต่อโรพยาบาลถือเป็นเรื่องน่าเศร้าและไม่สามารถให้อภัยได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการก่ออาชญากรรม

ด้าน บันคีมุน เลขาธิการสห ประชาชาติ เรียกร้องให้มีการสอบสวนสหรัฐอย่างเต็มที่และยุติธรรม

ภาพ...เอเอฟพี