posttoday

ประท้วงฮ่องกงทำสังคมแบ่งฝ่าย

14 ธันวาคม 2557

กูรูชี้เหตุประท้วงครั้งใหญ่ในฮ่องกงทำให้สังคมแตกแยกอย่างหยั่งรากลึกถึงระดับครอบครัว

กูรูชี้เหตุประท้วงครั้งใหญ่ในฮ่องกงทำให้สังคมแตกแยกอย่างหยั่งรากลึกถึงระดับครอบครัว

แม้ว่าการชุมนุมประท้วงของกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงจะยุติลงไปเรียบร้อยหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าเก็บกวาดสิ่งกีดขวางและเต๊นท์ของผู้ชุมนุม แต่สิ่งที่เหลือไว้คือความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกในสังคมฮ่องกงที่ลามลงไปถึงระดับครอบครัวทีเดียว

สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างนักวิเคราะห์จากหลายสำนักว่า ปรากฏการณ์การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในฮ่องกงได้แบ่งสังคมฮ่องกงออกเป็นสองฝ่าย โดยขณะที่กลุ่มชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงมองว่าความเคลื่อนไหวปะทุจากความตื่นตัวด้านการเมืองของกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่ก็เป็นการสร้างความขุ่นเคืองให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นผู้มีอายุ ผู้ผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากในการสร้างฮ่องกง จึงมีความเห็นว่าความมีเสถียรภาพในสังคมซึ่งเกื้อหนุนเศรษฐกิจนั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด จึงไม่เห็นว่าการประท้วงซึ่งเป็นการทำลายเสถียรภาพของสังคม

ซอนนี โหล่ นักวิเคราะห์จากสถาบันการศึกษาฮ่องกงแสดงความเห็นว่า  ความขัดแย้งในสังคมฮ่องกงได้ขยายตัวกว้างเกินขอบเขตของระดับการเมือง ลงไปสู่ระดับสังคม

"สังคมมีความแตกแยกหยั่งรากลึก ทั้งในระดับความสัมพันธ์ในครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน และระหว่างพรรคการเมืองเอง ซึ่งแน่นอนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว สร้างความไม่มีเสถียรภาพ" โหล่ กล่าว

ก่อนหน้านี้ วอลสตรีท เจอร์นัล สื่อชื่อดังเมืองลุงแซมเคยทำรายงานพิเศษในประเด็นความขัดแย้งของสังคมฮ่องงหลังจากเหตุการณ์ประท้วงปะทุขึ้น โดยเสนอเรื่องราวของชายหนุ่มผู้สมาชิกกลุ่มประท้วง ซึ่งขัดแข้งกับพ่อที่ไม่เห็นด้วยกับการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ทำลายความสงบเรียบร้องของเกาะฮ่องกง

อย่างไรก็ดี บทความพิเศษยังเสนอว่าความยัดแย้งดังกล่าวยังไม่ถือว่ารุนแรงมากนัก เมื่อเทียบกับความเป็นจริงที่ความแตกแยกทางความคิดระหว่างคนสองรุ่นที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่นกรณีของเด็กชายผู้ร่วมการชุมนุมซึ่งอยากเป็นช่างภาพอิสระ ขณะที่พ่อต้องการให้สืบทอดกิจการร้านขายเพชรที่บ้าน

นักวิเคราะห์หลายสำนักระบุตรงกันว่า สถานการณ์ที่กลุ่มผู้ประท้วงยืนยันจะเคลื่อนไหวต่อไป รัฐบาลกลางที่กรุงปักกิ่งจะจะเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดเขตบริหารพิเศษแห่งนี้มากขึ้น และความตึงเครียดในสังคมฮ่องกงจะดำเนินต่อไป