จักรยานท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้กิจกรรมเอาต์ดอร์ต่างๆ เป็นที่นิยมในประเทศนิวซีแลนด์ นอกจากความได้เปรียบด้านสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมแล้ว
โดย...Withaya Heng
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้กิจกรรมเอาต์ดอร์ต่างๆ เป็นที่นิยมในประเทศนิวซีแลนด์ นอกจากความได้เปรียบด้านสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมแล้ว ความเข้มแข็งของชุมชนก็เป็นกลจักรสำคัญอย่างหนึ่งในความสำเร็จนี้
เส้นทางจักรยาน The New Zealand Cycling Trail ที่มีโครงข่ายอยู่ทั่วประเทศ เป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและชุมชนท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยภาครัฐจะสนับสนุนเงินทุนให้องค์กรหรือหน่วยงานของแต่ละแคว้นวางเส้นทางจักรยานในท้องถิ่นของตน และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ป้ายบอกทาง ห้องน้ำประจำจุดต่างๆ ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการนักท่องเที่ยว รวมถึงการจัดทัวร์จักรยานท่องเที่ยวไปในเส้นทางเหล่านี้ด้วย เมื่อนำเส้นทางของทุกภูมิภาคมารวมกันจึงกลายเป็นโครงข่ายทางจักรยานที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ทำให้นิวซีแลนด์กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักปั่นจากทั่วโลกได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องมาปั่นที่นี่ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
เส้นทางจักรยานส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางสำหรับเสือภูเขา เพราะสภาพภูมิประเทศอำนวยเสียเหลือเกิน ซ้ายก็เขา ขวาก็เขา ไม่มีเราเลย และในหนึ่งเส้นทางอาจมีทั้งถนนคอนกรีต ถนนลาดยาง ถนนลูกรังหรือหินคลุก ไปจนถึงเข้าป่าเข้าพงลุยน้ำข้ามลำธาร จึงต้องการจักรยานที่พร้อมลุยไปทุกสภาพถนน รองลงมาจะเป็นจักรยานทัวริ่ง เดินทางไกลแบกสัมภาระกันแบบ Full Load ท่องไปได้ตั้งแต่เกาะเหนือยันเกาะใต้
ในแคว้น Canterbury และ Otago ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เทือกเขา Mt.Cook ทอดตัวอยู่เคียงข้างด้วยทะเสสาบทั้งสามคือ Ohau Pukaki และ Tekapo มีองค์กร Alps2Ocean เป็นผู้วางเส้นทางจักรยานในภูมิภาคนี้โดยทำเป็นเส้นทางจักรยานเชื่อมต่อกันระหว่างสองฟากมหาสมุทร คือปั่นข้ามเกาะจากฝั่งไปอีกฝั่งเป็นระยะทางกว่า 300 กม. แบ่งเส้นทางออกเป็น 9 ช่วง ใช้เวลาปั่นทั้งหมด 6 วัน ซึ่งตลอดเส้นทางได้วาง
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งป้ายบอกทาง ห้องน้ำประจำจุดต่างๆ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว รวมทั้งประสานกับธุรกิจในท้องถิ่นทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางทั้งทางรถ ทางเรือ เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินเล็ก รวมถึงการจัดทัวร์จักรยานท่องเที่ยวไปในเส้นทางเหล่านี้ด้วย เรียกว่าครบครันทุกความต้องการ
เส้นทาง Twizel-Lake Pukaki-Lake Tekapo ระยะทาง 60 กม.
เราจะขอแนะนำหนึ่งในเส้นทางของ Alps2Ocean ที่คิดว่าไม่ยากเกินไป สามารถปั่นได้ทั้งครอบครัวและได้วิวทิวทัศน์สองข้างทางที่เป็นขีดสุดแห่งความสวย คือเส้นทางปั่นจากเมืองทไวเซิลไปยังทะเลสาบ Pukaki และต่อไปยังทะเลสาบ Tekapo ระยะทางรวมประมาณ 60 กม. โดยมีจุดเริ่มต้นจากเมืองทไวเซิล เมืองเล็กๆ ในหุบเขาที่ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาสูงทอดยาวไปตามขอบฟ้าถือเป็นประตูสู่ความสวยงามทางธรรมชาติ เราปั่นออกจากเมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร จะถึงทะเลสาบ Pukaki ทะเลสาบที่มีน้ำเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยส์เกิดจากการละลายของหิมะและธารน้ำแข็งจากเทือกเขาเมาท์คุ้ก ผืนน้ำสีฟ้าจัดจ้านตัดกับเทือกเขาเมาท์คุ้กที่มีหิมะและธารน้ำแข็งปกคลุมตลอดปีเป็นฉากหลัง เกิดเป็นวิวที่สวยงามจนเรียกได้ว่ายิ่งกว่าวิวหลักล้าน เพราะที่นี่ต้องเป็น Million NZ Dollar View บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจะเป็นจุดแวะถ่ายรูปที่จะเห็นเมาท์คุกในแบบพาโนรามาที่สวยที่สุด
เราออกเดินทางต่อโดยปั่นเลียบทะเลสาบ Pukaki ชมความอลังการของเทือกเขาเมาท์คุ้กไปอีกประมาณ 20 กม. จะพบกับฟาร์มปลาแซลมอนของท้องถิ่น แหล่งเลี้ยงปลาแซลมอนที่มีชื่อที่สุดในนิวซีแลนด์ เราแวะพักขาและไม่พลาดชิมซาชิมิแซลมอน ที่หวาน สด ละมุนลิ้น จากนั้นเราจะปั่นต่อไปตามเส้นทางเลียบคลองส่งน้ำไปยังทะเลสาบ Tekapo เส้นทางช่วงนี้ยาวประมาณ 30 กม. จะเป็นทางเฉพาะจักรยานเท่านั้นไม่มีรถยนต์มาให้กวนใจ จุดหมายปลายทางของเราคือทะเลสาบ Tekapo ที่นี่สีของน้ำในทะเลสาบจะต่างกันกับที่ Pukaki คือเป็นสีฟ้าพาสเทลคล้ายสีน้ำนม ยิ่งในช่วงกลางวันเมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์จะสวยงามมากจนแทบไม่อยากละสายตา มุมที่พลาดไม่ได้ของที่นี่คือ อนุสาวรีย์สุนัขดอลลี่ ที่เปรียบเหมือนเพื่อนยากของบรรดาเจ้าของฟาร์มในการต้อนแกะ และโบสถ์ที่เล็กที่สุดในนิวซีแลนด์ Church of Good Shepherd โบสถ์ประจำเมืองที่ยังคงใช้ประกอบพิธีทางศาสนาจนถึงปัจจุบันนี้
ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน การท่องเที่ยวด้วยจักรยานคือการเดินทางที่ช้าลง เมื่อช้าลงก็เห็นมากขึ้นมองได้นานขึ้น จนสัมผัสจับต้องได้ถึงแก่นความงามที่แท้จริงไม่ใช่ปล่อยผ่านเพียงแค่ชะโงกดู...
สองมือจับแฮนด์ สองเท้าก้าวออกจากบ้าน มาปั่นจักรยานกันดีกว่าครับ