แก๊งฮอร์โมน ป่วนมาเลเซีย
เมื่อแก๊งฮอร์โมนถูกส่งตัวไปผจญภัยที่เกาะกินคน ทั้งความมันส์และความฮาจึงเกิดขึ้น
โดย...รอนแรม
เมื่อแก๊งฮอร์โมนถูกส่งตัวไปผจญภัยที่เกาะกินคน ทั้งความมันส์และความฮาจึงเกิดขึ้น ไมเคิล-ศิรชัช เจียรถาวร แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ และ ฟรัง-นรีกุล เกตุประภากร ดาราฮอร์โมนเดอะซีรี่ส์ เป็นตัวแทนเซเลบริตี้ในเมืองไทยเดินทางไปทำกิจกรรมและท่องเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย กับทริปรวมเซเลบ 10 ประเทศอาเซียน
การท่องเที่ยวมาเลเซียสานต่อทริป ASEAN Celebrity Explore Quest Malaysia (ACEQM) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อตอบสนองนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของมาเลเซียให้ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นในใจกับนิยาม Malaysia Truly Asia หรือมาเลเซียที่สุดแห่งเอเชีย โดยได้เชื้อเชิญเหล่าบรรดาเซเลบริตี้ชื่อดังจากทั้ง 10 ประเทศทั่วอาเซียน เข้าร่วมทริปสุดปังแห่งปี เน้นโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในเมืองหลวงอย่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเมืองโคตาคินาบาลู ทางเกาะบอร์เนียวที่เลื่องชื่อในฐานะเมืองแห่งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งปีนเขาระดับโลก ที่จะดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวอาเซียนรุ่นใหม่และกลุ่มครอบครัว
พวกเขาทั้งสามคนเริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯ ลงเครื่องบินที่กัวลาลัมเปอร์ เที่ยวสวนน้ำขนาดยักษ์ และบินลัดฟ้าไปลองใช้ชีวิตชนเผ่าที่โคตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ เป็นเวลา 8 วันเต็มที่ทั้งสามคนจะได้เจอเพื่อนใหม่ ได้เจอประสบการณ์ใหม่ และมีเรื่องเล่ามากมายที่อยากจะแชร์
แพรวา หลงใหลทะเลสีฟ้า
“มาเลเซียเป็นครั้งที่ 2 ของแพรวา” เธอเกริ่น แต่ครั้งแรกที่มาเธอยังเด็กนัก ทำให้ไม่มีภาพมาเลเซียอยู่ในความทรงจำ การมามาเลเซียครั้งนี้จึงเสมือนครั้งแรกสำหรับเธอ แพรวา เล่าว่า รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความทันสมัยและสถาปัตยกรรมในเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ และประทับใจเกาะโคตาคินาบาลูมากเป็นพิเศษด้วยมนต์์เสน่ห์ของท้องทะเลสีฟ้าใส
“เราต้องนั่งเครื่องบินจากกัวลาฯ ไป 2 ชั่วโมงเพื่อลงที่โคตาคินาบาลู เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลสวยมาก เราได้ไปดูวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนบนเกาะ การนอน การกินอาหาร การพ่นลูกดอกล่าคน จนทำให้มีสมญานามว่าเป็นเกาะมนุษย์กินคน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้จักประเทศมาเลเซียมากขึ้นมากๆ”
ทริปกัวลาลัมเปอร์-โคตาคินาบาลู ใช้เวลาทั้งหมด 8 วัน ซึ่งไม่ใช่แค่ความแปลกใหม่ของวิถีชีวิตชาวเกาะเท่านั้น เธอยังทึ่งกับความทันสมัยของเมืองกัวลาลัมเปอร์ “กัวลาฯ มีกิจกรรมสำหรับวัยรุ่นเยอะมาก ได้ไปสวนน้ำซันเวย์ลากูนที่แพรวาชอบมาก เหมือนได้เข้าไปอยู่ในอีกอาณาจักรหนึ่ง เป็นเมืองเมืองหนึ่งที่มีสวนน้ำ สวนสนุก ร้านอาหาร มหาวิทยาลัย ที่พัก มีทุกอย่างอยู่ในนั้น”
แพรวา เป็นสาวขาลุย ไปได้ทั้งเที่ยวธรรมชาติ ดำน้ำลึก เดินป่า และกิจกรรมกลางแจ้ง โดยมีคติว่า เธอจะเดินทางไปยังที่ที่ยังไม่เคยไป เพื่ออยากไปให้เห็นด้วยตาตัวเอง
“เสน่ห์ของการเที่ยวคือได้ไปในที่ที่เราไม่เคยไป การไปพบเจอคนที่นั่นว่าเขามีชีวิตยังไงไปเพื่อเมกเฟรนด์ อย่างที่มาเลย์ แพรวาชอบอาหารที่นั่นมาก แกงกะหรี่กับโรตีที่นั่นอร่อยมาก ได้ไปลิ้มรสชาติจริงๆ ทำให้รู้สึกว่าได้มาถึงมาเลย์แล้ว” เธอหัวเราะ
โดยส่วนตัวเธอ หากกล่าวถึงสถานที่ที่โปรดปรานในประเทศไทย เธอเลือกภูเก็ตเป็นอันดับแรก เพราะเป็นสถานที่ที่เธอและเพื่อนจะได้ไปดำน้ำด้วยกัน เช่น สิมิลัน ที่ได้ไปว่ายกับฉลามวาฬตัวยักษ์ครั้งแรกในชีวิต ซึ่งแพรวาจริงจังจนสามารถอยู่ในระดับแอดวานซ์ได้และมีความตั้งใจที่จะกลับไปท่องโลกใต้น้ำของมาเลเซีย
“แพรวาสงสัยมาตลอดว่ามาเลเซียมีอะไร ทำไมทุกคนถึงไปเที่ยวกัน การไปครั้งนี้จึงได้ตอบคำถามนั้น มาเลเซียมีหลายอย่างที่เราไม่เคยรู้จัก มีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าตึกแฝดที่เราเห็นในโปสต์การ์ด คิดว่าทุกการเดินทางจะทำให้เราค้นพบตัวเองและได้เพื่อนใหม่ อย่างครั้งนี้ได้ค้นพบว่าจริงๆ แล้วมาเลเซียเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ แค่ต้องไปใช้เวลาอยู่นานๆ ก็จะสัมผัสเสน่ห์นั้นเข้าเต็มๆ” เธอทิ้งท้าย
ไมเคิล สัมผัสธรรมชาติ
“สนุกครับ” คำแรกที่ไมเคิลกล่าวถึงมาเลเซีย “สนุกที่ได้ไปเห็นสิ่งที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน”
เขาอธิบายว่า การท่องเที่ยวในกัวลาลัมเปอร์เน้นความทันสมัย ความอลังการยิ่งใหญ่ และทำเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ต่างจากโคตาคินาบาลูที่เน้นวัฒนธรรมและวิถีชีวิต
ไมเคิลนั่งเครื่องบินสู่เกาะฝั่งประเทศบรูไน และแลนดิ้งบนโคตาคินาบาลู “สภาพบ้านเมืองคนละแบบกับที่ผ่านมา” เขากล่าวถึงปลายทาง “ตึกมีความเก่า สวย แลนด์สเคปคนละแบบกัน ซึ่งผมชอบ เราได้ไปที่หมู่บ้านที่รวบรวมชนเผ่าพื้นเมืองไว้ เขามีศูนย์การเรียนรู้ให้นักท่องเที่ยวศึกษา ไปดูว่าแต่ละเผ่าเขามีชีวิตแตกต่างกันยังไง ดูสัญลักษณ์ของการแต่งตัว อาหารของแต่ละเผ่า เรียกได้ว่าเป็นคนละโลกจากกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบธรรมชาติบนเกาะนี้มากกว่า”
เขาชอบท่องเที่ยวอิงไปกับธรรมชาติ ภูเขา ทะเล และถ้าได้ไปในที่ที่ลำบากก็จะยิ่งชอบ เช่น การดำน้ำ เขาเคยดำน้ำที่แสมสาร สิมิลันเหนือ สิมิลันใต้ และฝันอยากไปดำดูปลาตัวใหญ่ที่สิปาดัน
“เป็นคนที่ชอบนำตัวไปแช่น้ำอยู่แล้ว และยิ่งพอไปดำน้ำ มันคือความรู้สึกแปลกๆ ที่รู้สึกเหมือนอยู่อีกโลก ได้สัมผัสทั้งหมด ภาพที่เราเห็นคือแลนด์สเคปใต้น้ำที่คนเดินดินไม่เคยเห็นรู้สึกเหมือนเราลอยได้ เป็นความรู้สึกที่ดีมากครับ”
นอกจากนี้ ไมเคิลได้ให้ความหมายของการเดินทางไว้ว่า เป็นการออกไปสู่พื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย“ถ้าเราอยู่ในที่ที่เราคุ้นเคยหรือรู้สึกปลอดภัย เราจะทำตามลูปเดิมทุกวัน แต่ถ้าได้เดินทางออกนอกที่ที่เราคุ้นเคย อย่างไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ มันจะทำให้เราได้เจออะไรใหม่ๆ ไปเจอเหตุการณ์ใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ เจออุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทางก็เป็นประสบการณ์ให้เราเรียนรู้ ผมได้มุมมองใหม่ๆ กลับมาทุกครั้งที่ได้ออกเดินทาง และทำให้โลกของผมกว้างขึ้น”
ฟรัง เปิดหูเปิดตา
“กัวลาลัมเปอร์เจริญคล้ายๆ กรุงเทพฯ เมืองไทย” ฟรังเอ่ยถึงเมืองหลวงแห่งประเทศมาเลเซีย “แต่ฟรังชอบความเป็นระเบียบของบ้านเมืองเขา เช่น มีทั้งขยะที่อยู่เป็นที่เป็นทาง และเมืองค่อนข้างสะอาดทำให้เดินเที่ยวได้สบาย”
จากเมืองหลวงของมาเลเซีย เธอและเพื่อนได้นั่งเครื่องบินสู่เกาะที่เธอไม่เคยรู้จัก ซึ่งความไม่รู้นี่เองที่ทำให้เธอประทับใจทุกอย่างของเกาะโคตาคินาบาลู
“ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ แต่พอได้เห็นแวบแรกก็ประทับใจมากๆ ทะเลสวย วัฒนธรรมน่าสนใจ มีการแต่งงานจำลองให้เราเห็นวิถีของเขา เป็นการมามาเลเซียครั้งที่ 2 ที่สนุกมาก ได้มากับเพื่อน และได้รู้จักเพื่อนใหม่อีก 9 ประเทศ ซึ่งถ้าให้เลือกสิ่งที่ประทับใจที่สุด ฟรังคิดถึงโรตี (หัวเราะ) โดยเฉพาะโรตีมัสมั่นอร่อยมากจริงๆ และพอเราได้กินอาหาร ก็เหมือนกับว่าเราเข้าใจประเทศนี้มากขึ้น”
ฟรัง เล่าว่า ทุกครั้งที่เธอเดินทางจะได้พบสิ่งใหม่ คนใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และยังได้พักผ่อนในบรรยากาศใหม่ๆ ทำให้เมื่อมีเวลาว่าง ฟรังชอบออกไปท่องเที่ยว “รู้สึกว่าอยากออกไปข้างหน้า อยากไปสนุกกับเพื่อน หรือไปพักผ่อนกับครอบครัว ซึ่งเธอเที่ยวได้ทุกรูปแบบ ทั้งแบบลุยๆ แบบสวยๆ ไปทัวร์กับครอบครัว หรือบางทีก็แบ็กแพ็ก
“เวลาเราไปเที่ยวที่มันยากหรือลำบาก จะทำให้เราได้คิดย้อนกลับไปถึงคุณค่าของชีวิตประจำวันที่มี ทำให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิต
ธรรมดาๆ นี้ต่อไป” เธอกล่าวปิดท้าย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคนวางแผนไว้ว่าจะไปดำน้ำใต้ทะเลมาเลเซียด้วยกัน เพื่อกลับไปยังสถานที่เดิมอีกครั้งแต่สัมผัสให้มากขึ้น


