posttoday

ดิษย์ดนัย ชนารัศมิ์นภปภา Biker on the Way

22 ตุลาคม 2559

เขาเกิดในครอบครัวธุรกิจโลจิสติกส์ แต่ด้วยนิสัยรักการเดินทางและความหลงใหลรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์

โดย...รอนแรม

เขาเกิดในครอบครัวธุรกิจโลจิสติกส์ แต่ด้วยนิสัยรักการเดินทางและความหลงใหลรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ เชย์-ดิษย์ดนัย ชนารัศมิ์นภปภา จึงแยกตัวออกมาทำตามฝันด้วยการเป็นพิธีกรรายการ Biker on the Way เดินทางไปบนฮาร์เลย์คู่ใจในเส้นทางที่ไกลที่สุดในชีวิต

ขี่ฮาร์เลย์ไปดูเมอร์ไลออน

“ผมชอบมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ ผมชอบเสียงเครื่องยนต์ ผมชอบไลฟ์สไตล์ในการแต่งตัว คันแรกผมเก็บเงินซื้อตอนเรียนอยู่ปริญญาตรี ต้องแอบแม่ซื้อด้วย (หัวเราะ)” เขากล่าว

ล่าสุดเขาได้ขี่ไปทริปที่ยาวที่สุดในชีวิต คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-มาเลเซีย-สิงคโปร์ เดินทางคนเดียวข้าม 3 ประเทศ ใช้เวลาทั้งหมด 11 วัน วันแรกเขาขี่ลงใต้ไปค้างคืนที่หาดใหญ่ท่ามกลางฝนและสภาพถนนที่กำลังทำทาง พอไปถึงได้ส่งรถเข้าศูนย์เช็กสภาพก่อนข้ามประเทศ แต่ได้พบกับปัญหาลูกปืนแตก

ดิษย์ดนัย ชนารัศมิ์นภปภา  Biker on the Way

 

จากนั้นเขาได้นัดเจอเพื่อนชาวสยามในมาเลเซียเพื่อช่วยประสานงานเรื่องการขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามประเทศ เมื่อข้ามไปได้ ได้หยุดพักแรมที่มาเลเซีย 2 คืน โดยคืนสุดท้ายพักที่เมืองโจโฮ แต่ก่อนที่จะได้ไปต่อ เขาได้เจอปัญหาใหม่และใหญ่กว่าเดิม

“อาการเดิมกลับมา ลูกปืนแตกไปต่อไม่ได้ แต่โชคดีเจอพี่ณรงค์ ชาวสยามที่อยู่ในโจโฮช่วยประสานพาผมไปหาช่าง พอซ่อมเสร็จผมดีใจมาก คิดว่าคืนนี้จะได้เข้าสิงคโปร์แล้ว จากนั้น 2 ทุ่มครึ่ง ผมขี่ไปที่ด่านเกิดปัญหาอีก ผมเข้าสิงคโปร์ไม่ได้ เพราะกฎหมายสิงคโปร์เปลี่ยนใหม่จากที่นำเอกสารไปทำที่ด่านได้เลย ปรากฏว่าทำไม่ได้ ต้องทำอินชัวรันส์ (ประกันการเดินทาง) ในประเทศสิงคโปร์ และนำอินชัวรันส์นั้นมาทำออโต้พาส ซึ่งเป็นบัตรอนุญาตใช้รถให้วิ่งในประเทศเขา สรุปแล้วผมต้องกลับมานอนที่โจโฮอีกคืน และต้องรบกวนพี่ภพ ชาวสยามในสิงคโปร์มารับผมที่ด่านตอนเช้า เพื่อพาผมเข้าไปทำอินชัวรันส์ในสิงคโปร์แล้วกลับมาทำเรื่องที่ด่านอีกที”

การเดินทางข้ามประเทศไปยังสิงคโปร์ค่อนข้างยุ่งยาก เพราะหนึ่ง ข้อมูลอัพเดทในอินเทอร์เน็ตไม่มี ทำให้เตรียมตัวเตรียมเอกสารได้ยาก สอง ไม่ค่อยมีคนขี่หรือขับรถข้ามจากมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ทำให้บริษัทประกันไม่มาเปิดที่ด่าน และสาม หากไม่มีคนรู้จักในสิงคโปร์จะยิ่งยากเข้าไปอีก เพราะจะไม่มีใครช่วยเหลือในการเข้าไปทำประกันในประเทศ

ดิษย์ดนัย ชนารัศมิ์นภปภา  Biker on the Way

 

“ผมนับถือน้ำใจคนสยามที่มาเลย์และที่สิงคโปร์มาก ผมเป็นแค่นักเดินทาง ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่ญาติ แต่พวกเขาช่วยเหลือเหมือนผมเป็นคนสำคัญทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน เขาบอกว่า เขาเห็นความมุ่งมั่นความตั้งใจของผมที่ขี่รถข้ามประเทศมาคนเดียว เขาเลยอยากให้ผมประสบความสำเร็จ เขาเลยช่วย”

การขับขี่รถในประเทศสิงคโปร์ต้องทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับราคาแพง ซึ่งช่วงเวลาที่อยู่สิงคโปร์ 3 วัน เขาได้ไปดูการแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน และขับรถเที่ยวรอบสิงคโปร์ 3 วันเต็ม จนกระทั่งขากลับก่อนออกนอกประเทศ เขาไม่วายเจออีกปัญหา เขาตั้งใจที่จะไม่ออกจากประเทศตามเวลาที่กำหนด เพราะอยากทราบว่าถ้าช้าไป 1 วันจะเกิดอะไรขึ้น และแน่นอนว่าปัญหาเกิดขึ้นจริงๆ เขาต้องชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ว่า ทำไมถึงออกมาช้ากว่ากำหนดที่แจ้งไว้ ซึ่งถ้าคำชี้แจงไม่สมเหตุสมผล เขาอาจต้องเสียค่าปรับ หรือรุนแรงถึงขั้นทะเบียนรถติดแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศอีกก็เป็นได้

ชาวสยาม

ขากลับเชย์แวะค้างแรมที่รัฐเประ บ้านไทเปง ประเทศมาเลเซีย หมู่บ้านที่มีชาวสยามอาศัยอยู่ 9 หลังคาเรือน ซึ่งเขาได้ให้ข้อมูลว่า ในมาเลเซียมี 4 ชาติพันธุ์หลักๆ ได้แก่ แขกมาเลเซีย จีน อินเดีย และคนสยาม ซึ่งคนอินเดียในแหลมมลายูเป็นชนชั้นแรงงานชนชั้นล่างที่สุด ตรงกันข้ามกับแขกมาเลเซียที่เป็นชนชั้นสูง และมักจะได้สิทธิพิเศษเหนือใคร ส่วนชาวสยามนั้น พวกเขาเป็นคนไทยที่ครั้งหนึ่งดินแดนเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยาม ก่อนจะถูกแบ่งแยกตามข้อตกลงในสนธิสัญญา ซึ่งแม้ว่าดินแดนจะถูกเปลี่ยนชื่อไป พวกเขาก็ยังมั่นคงเป็นคนสยามจนถึงทุกวันนี้ พวกเขายังพูดภาษาไทยโดยใช้คำโบราณ ยังปลูกข้าว ปลูกผัก ล่าสัตว์ประทังชีวิต และยังนับถือศาสนาพุทธตามแต่เดิมที่เคยทำมา

ดิษย์ดนัย ชนารัศมิ์นภปภา  Biker on the Way

 

“เขาพูดกับผมว่า เขารักแผ่นดินไทย เขารักในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่เขาไม่มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินไทย เขาเสียใจที่เวลามาเมืองไทยแล้วคนไทยมองเขาว่าเป็นไทย-มาเลเซีย เขาอยากให้คนไทยเปลี่ยนทัศนคติ อยากให้มองว่าเขาเป็นคนสยาม เขาแค่อยากได้รับการยอมรับจากคนไทย” ชาวสยามฝากเขามาบอกเช่นนี้

ประเทศไทย

เชย์ขี่ฮาร์เลย์ตะลอนทั่วประเทศไทย โดยเขาได้ยกตัวอย่างถนนที่เหล่าไบเกอร์ต้องห้ามพลาดอย่างเส้นเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เส้นเชียงราย หรือเส้นเลียบแม่น้ำโขงทางภาคอีสาน

“มอเตอร์ไซค์ของผมไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่มันคือชีวิต มันได้พาผมไปเจอความหมายของคำว่ามนุษย์ ไปเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น และที่สำคัญคือ ผมได้ไปเจอมิตรภาพใหม่ๆ ที่ไม่มีวันสิ้นสุด”

นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าชีวิตบนสองล้อจะเสี่ยงและเกือบทำให้เขาสิ้นลมหายใจ แต่เขากลับมองว่า มันคือตัวเตือนสติที่ทำให้เขามีสมาธิ และมีสติตลอดเวลาบนมอเตอร์ไซค์

ดิษย์ดนัย ชนารัศมิ์นภปภา  Biker on the Way

 

โลกของเชย์

ถ้ามีโลกของตัวเอง อยากให้โลกใบนั้นเป็นอย่างไร เชย์ ตอบว่า อยากให้โลกของเขามีแต่คนที่มีความสุข

“ผมอยากให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของชีวิตของตัวเอง อย่าให้คนอื่นมากำหนดทิศทางชีวิต ไม่ยึดติด ไม่ตกเป็นทาสใครหรือสิ่งใด เป็นคนที่มีเหตุผล รักความถูกต้อง และมีเป้าหมายสูงสุดของชีวิตเป็นความสุข ไม่ใช่เงินหรืออำนาจชื่อเสียงจอมปลอม” เขากล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามชีวิตบนสองล้อของหนุ่มเชย์ได้ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Disdanai Chanaratnaphapapha

ดิษย์ดนัย ชนารัศมิ์นภปภา  Biker on the Way