เตชินท์-จิรัฐชัย ชยุติ ผมจะเที่ยวจนกว่าจะพอ
หนุ่มนักเดินทาง เตชินท์-จิรัฐชัย ชยุติต้องเรียกว่าตัวจริง เพราะเขาเดินทางจริงจัง ดำน้ำจริงจัง
โดย...รอนแรม ภาพ... สานฟ้า
หนุ่มนักเดินทาง เตชินท์-จิรัฐชัย ชยุติต้องเรียกว่าตัวจริง เพราะเขาเดินทางจริงจัง ดำน้ำจริงจัง และใช้ชีวิตอย่างจริงจัง ถึงขนาดตั้งปณิธานไว้ว่า ต้องเที่ยวจนสะใจถึงจะแต่งงาน!
งานเที่ยว
“ผมเสียนิสัยตั้งแต่ได้เที่ยวกับพี่จ๊อบ” เตชินท์เปิดประโยคด้วยการเล่าถึงพี่ชายนิธิ สมุทรโคจร พิธีกรคู่หูในรายการ สมุดโคจรOn the way โดยทริปแรกของทั้งคู่ไปที่ประเทศบัลแกเรีย เตชินท์ไปในฐานะดัชชี่บอยส่วนจ๊อบไปถ่ายทำรายการ
“ตอนเด็กๆ ไม่เคยไปต่างประเทศไกลๆ จะอยู่แต่ระนอง หรือไกลสุดก็แค่เกาหลี” เขากล่าว “พอเราไปกับรายการท่องเที่ยวเชิงสารคดี มันทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วการท่องเที่ยวไม่มีแค่จุดถ่ายรูปแล้วจบ แต่การไปถ่ายรายการทำให้รู้อะไรหลายอย่างเยอะขึ้นและทำให้โลกของเรากว้างมาก หลังจากทริปนั้นกลับมาก็บอกกับตัวเองเลยว่า จะขอเที่ยวก่อนและค่อยมีครอบครัว ผมรู้สึกว่ายังเที่ยวไม่พอ โลกเรายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ยังไม่รู้จัก และผมก็อยากออกไปหามัน”
หลายความลับค้นพบมันผ่านรายการท่องเที่ยว ยกตัวอย่าง เมืองคานาสือ ประเทศจีนเมืองที่คนจีนเองยังไม่รู้จัก ตั้งอยู่ติดชายแดนรัสเซีย ประชาชนเป็นคนจีนแต่หน้าตาละม้ายชาวตุรกีและรัสเซีย อาหารหลักคือ เนื้อแพะ เนื้ออูฐ และสภาพอากาศ (ขณะที่เขาไป) ติดลบ 25 องศาเซลเซียส
“โหดมากครับ” เขาย้ำ “แต่คุ้มมาก เพราะวิถีชีวิตของคนคานาสือน่าสนใจ เขาใช้ชีวิตอยู่กับความหนาวได้ยังไง การทำปศุสัตว์ ยิ่งที่ตลาด ทุกอย่างดิบมาก ขายหนังแพะเป็นตัวๆ เดินลึกเข้าไปหน่อยมีขายม้าขายอูฐนั่นคือสิ่งที่เราเดินทางมา”
นอกจากนี้ เขายังบอกด้วยว่า เคยตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่าจะมาที่นี่ทำไม แต่เพราะความชอบมีมากกว่าสิ่งไหนๆ จึงทำให้เขายังเดินทางไปยังที่แปลกถิ่นใหม่และไม่ว่าโหดแค่ไหนก็สู้
ประสบการณ์ในประเทศจีนยังมีที่ อูรูมูฉี เมืองติดลบ 33 องศา จนสามารถเดินบนผิวทะเลสาบได้ ภูเขาหิมะมังกรหยก เจอหิมะตกหนักและความโหดของการปีนเขา นับไปถึงภูเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน เมืองแชงกรีลา ยอดเขาที่มีลมแรงและความหนาวเหน็บ
ไล่เรียงแล้วเตชินท์เคยไปเยือน พม่า ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น บัลแกเรีย ออสเตรีย เช็ก อเมริกา และแน่นอนว่ารวมหลายจังหวัดในประเทศไทย เช่น ยอดเขาพ่อตาโชงโดง จ.ระนอง ที่ต้องปีนพิชิตเพื่อขึ้นไปชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองฝนแปดแดดสี่
เที่ยวบันดาลใจ
เพราะการเดินทางทำให้ได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ร้านอาหารญี่ปุ่น เตชินท์ไปเที่ยวโอซากา และต้นเหตุของเรื่องก็ไปเจอโดยบังเอิญ เขาและแฟนไปกินอาหารเย็นในร้านที่ขายทั้งซูชิ เทปันยากิ ยากิโทริ ปิ้งย่าง และแบบต้ม เขาเลยหันไปถามแฟนที่เปิดร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แซลมอนอยู่แล้วว่า ทำไมไม่ขายอาหารหลากหลายแบบร้านนี้ แต่คุยไปคุยมากลับได้ข้อสรุป ทำไมเตชินท์ไม่ทำเอง หลังจากทริปนั้น เขาก็เริ่มก่อร่างสร้างร้านอาหารจนกลายมาเป็นร้าน เนตะ ฟิช แอนด์ มีท รวมถึงบรรยากาศภายในร้านอาหาร เขาก็ตั้งใจออกแบบให้เหมือนออนเซ็น
“การออกไปเห็นในสิ่งที่ยังไม่เคยเห็นคือความสุขของผม” เขากล่าว “และยังทำให้เห็นว่า ความสุขของแต่ละคนไม่เท่ากัน เพราะการได้เที่ยวทำให้ได้เห็นความสุขของแต่ละคน เราสุขที่ตรงนี้ เขาสุขที่ตรงนี้ ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง สำหรับตัวผมเองก็อยากเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เพราะโลกนี้มันกว้างเกินกว่าจะหยุดเดินทางได้”
โลกใต้น้ำ
นอกจากจะเป็นนักร้อง นักแสดง พิธีกร เจ้าของร้านอาหาร นักเดินทาง บทใหม่ล่าสุดเขาเพิ่งเป็น นักดำน้ำ กิจกรรมที่เขาอยากทำมาตลอด แต่ไม่มีบัดดี้ งานนี้เขาเลยพาแฟนไปดำน้ำด้วยกันและจับคู่เป็นบัดดี้กับเขาทุกไดฟ์
“พออยู่ใต้น้ำมันกลายเป็นคนละโลก” นักดำน้ำมือใหม่กล่าว “พอลงไปลึกๆ ในระดับที่น้ำนิ่งมากๆ มันจะรู้สึกเหมือนอยู่ในอวกาศ เห็นแพลงตอนค่อยๆ ลอยเข้ามาแล้วเหมือนกับตัวเองกำลังลอยได้”
เรื่องนี้เตชินท์วางแผนไว้หมดแล้วว่าจะไปไดฟ์ไหนบ้าง อย่างปลายปีนี้เขาได้จองทริปอันดามันใต้ เลือกการใช้ชีวิตอยู่บนเรือ เพื่อจะได้ดำน้ำทั้งเช้าสายบ่ายเย็น และปีหน้ายังมีทริปดำน้ำที่ มัลดีฟส์ ไปหาปลา 7 วัน 7 คืน อยู่บนเรือตลอดทริป ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่ฝูงฉลามนับร้อยตัวที่ถูกการันตีว่าได้เจอแน่นอน
โลกของเตชินท์
ถ้ามีโลกของตัวเองหนึ่งใบ เตชินท์อยากให้โลกใบนั้นทันสมัย มีโซเชียลมีเดีย แต่อยากให้มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ “อยากให้ความเจริญอยู่กับธรรมชาติให้ได้ อยู่คู่กันไป อย่าไปทำลายป่าไม้เพื่อให้เทคโนโลยีมันเพิ่มพูน อยากให้วัฏจักรชีวิตของสิ่งมีชีวิตและคนอยู่คู่กันไปได้ ไม่ต้องเบียดเบียนกัน” เขาทิ้งท้าย
ดูบันทึกการเดินทางของเตชินท์ได้ที่อินสตาแกรม techin_ji หรือไปพบปะเถ้าแก่ร้านอาหารญี่ปุ่นได้ที่ร้าน เนตะ ฟิช แอนด์ มีท ชั้น 4 โครงการ เดอะ สตรีท รัชดา