posttoday

สุทธิมนต์ โอ้รา คนติดธรรมชาติ

30 เมษายน 2559

ประสบการณ์วัยเยาว์มีผลอย่างมากต่อรสนิยมการเดินทาง อย่างนักร้องนำวงโซมีเดย์ บี-สุทธิมนต์ โอ้รา

โดย...รอนแรม ภาพ... สุทธิมนต์ โอ้รา

ประสบการณ์วัยเยาว์มีผลอย่างมากต่อรสนิยมการเดินทาง อย่างนักร้องนำวงโซมีเดย์ บี-สุทธิมนต์ โอ้รา ที่เติบโตมาในป่าคอนกรีต แต่เพราะได้เข้าป่าแต่เด็กจึงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในธรรมชาติ ส่งผลให้วันนี้ที่กลายเป็นคนเมืองเต็มขั้น เขาก็ยังไม่เลิกเสพติดสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์

พ่อปลูกฝัง

คำตอบที่ทำให้ประหลาดใจที่สุดคือ แทนที่คนเมืองจะชอบไปห้าง ไปโรงหนัง แต่เขากลับชอบไปสวนสัตว์ เพราะนั่นคือสถานที่ที่ทำให้ผ่อนคลายที่สุด เขาเล่าว่า “ผมชอบไปดูยีราฟ ไปดูนกกระจอกเทศ ไปดูกวาง สิ่งมีชีวิตพวกนี้มันทำให้เรามีความสุข มองยีราฟเดิน มองกวางกินหญ้า แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เวลาเครียดมากๆ รู้สึกว่าจะทำงานต่อไปไม่ได้ก็จะพาตัวเองไปสวนสัตว์ ดูแล้วหายเครียด”

สุทธิมนต์ โอ้รา คนติดธรรมชาติ

 

ถ้าย้อนกลับไปถึงชีวิตวัยเด็ก นิสัยชอบไปสวนสัตว์อาจติดมาจากพ่อที่มักพาเข้าป่าอยู่เรื่อยๆ โดยในช่วงมัธยมฯ เด็กชายบีจะตามพ่อเข้าป่า จ.กาญจนบุรี ประมาณสองเดือนครั้ง ซึ่งตอนนั้นพ่อไม่ได้บังคับว่าต้องไปด้วยกัน แต่เขาขอไปเอง “ก่อนเข้าป่าจะได้นอนบนแพ” บีให้เหตุผล “ได้ไปนอนในเขื่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก รอบตัวเราเป็นน้ำหมดเลย อยากกระโดดเล่นน้ำตอนไหนก็ได้ มีเรือหางยาวติดเครื่องให้ขับเล่น มันคือความสนุกในวัยเด็กของผมมาก”

จากนั้นเมื่อเข้าไปในป่า หน้าที่ของผู้ใหญ่คือทำบังไพรและขึ้นไปส่องสัตว์ ส่วนหน้าที่ของเขาและคนในวัยเดียวกันคืออยู่รอบกองไฟและเฝ้าเต็นท์ด้านล่าง เขาจำได้ว่าไม่รู้สึกกลัวป่า แต่จะมีบ้างที่ไม่ชอบ โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่ต้องเฝ้าเต็นท์กับเพื่อน ทุกคนต้องระมัดระวังตัวเอง เพราะในป่าเงียบและมืดสนิท ทำให้ไม่มีทางรู้ว่าสัตว์ป่าจะเข้ามาตอนไหน

สุทธิมนต์ โอ้รา คนติดธรรมชาติ

 

นอกจากนี้ การเข้าป่าแต่ละครั้งใช้เวลานานเกือบอาทิตย์ ดังนั้นการใช้ชีวิตต้องกินง่ายอยู่ง่าย เรื่องอาหารต้องกินจากป่า “อาหารแปลกๆ แถวนั้นเพียบ อย่างตัวอ่อนผึ้ง ปลาแม่น้ำแปลกๆ อะไรที่กินได้ก็ลองกิน” เขายกตัวอย่าง ส่วนเรื่องการอยู่ก็ต้องนอนบนต้นไม้ใบหญ้า ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติที่คนอยู่ป่าต้องปรับตัวให้ได้

ธรรมชาตินิสัย

หลังจากพ่ออายุมากขึ้น ประกอบกับเขาเองโตเป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ จึงมีโอกาสเที่ยวแบบลุยๆ น้อยลง แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ทิ้งทางนี้ เพราะสถานที่ที่เลือกไปเที่ยวยังเน้นไปทางธรรมชาติ

สุทธิมนต์ โอ้รา คนติดธรรมชาติ

 

“ชีวิตในเมืองมันวนลูป ทำงานแล้วเจอแต่อะไรเดิมๆ เลยพยายามพาตัวเองไปในที่ที่เราไม่เคยไป ขึ้นดอย น้ำตก กางเต็นท์ ดูดาว หรืออะไรก็ได้ที่หนีจากเมือง ตอนนี้ผมไม่ได้เดินป่าจริงจังเหมือนแต่ก่อน แต่แค่อยากพาตัวเองไปในที่ที่ผ่อนคลาย” เขากล่าว “ที่ชอบมากเป็นพิเศษคือ ขึ้นไปนอนกางเต็นท์บนดอยอะไรก็ได้ ไปสัมผัสบรรยากาศ ไปสัมผัสความเงียบ ไปอยู่นิ่งๆ เพื่อเก็บทุกสิ่งทุกอย่างทั้งอุณหภูมิ เสียง อากาศ แม้ว่าเราจะเก็บบรรยากาศผ่านภาพถ่ายแล้ว แต่ยังไงมันก็เก็บความรู้สึกไม่ได้ เวลาเรากลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ วนลูปเดิมๆ เมื่อไหร่จะได้ย้อนกลับไปคิดถึงมัน”

เขายังกล่าวด้วยว่า หลายคนขยาดการเที่ยวแบบธรรมชาติ เพราะความลำบาก ความเหนื่อย ความร้อน แต่เขายังรักวิถีนี้ เพราะมันคือประสบการณ์ บีกล่าวว่า “ถ้าไม่พาตัวเองออกไป ก็จะไม่เห็นสิ่งที่รออยู่ข้างบนนั้น ถามว่ามันลำบากจนเกินแรงเราไหม ผมคิดว่าถ้าเราตั้งใจจะไปให้ถึง จะไม่มีคำว่ามากเกินไป ถ้าเดินไปเรื่อยๆ ยังไงก็ไปถึง และสร้างความภูมิใจให้ตัวเองด้วย”

สุทธิมนต์ โอ้รา คนติดธรรมชาติ

 

นอกจากนี้ การเดินทางเป็นวิธีเดียวที่จะได้มาซึ่งประสบการณ์ และสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะและงานดนตรี “เพราะธรรมชาติจะช่วยล้างสมอง” บีให้เหตุผล “ช่วยล้างสิ่งที่ระเกะระกะในความคิด และเป็นวัตถุดิบในการสร้างอุปกรณ์ชิ้นใหม่ให้กลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ”

สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ คือ ความบริสุทธิ์ และความสดชื่น ซึ่งเป็นความรู้สึกที่สิ่งประดิษฐ์หรือเทคโนโลยีใดๆ ไม่สามารถทดแทนได้

สุทธิมนต์ โอ้รา คนติดธรรมชาติ

 

โลกของสุทธิมนต์

ถ้ามีโลกของตัวเองหนึ่งใบ อยากให้โลกใบนั้นเป็นอย่างไร เขาตอบแทบจะในทันทีว่า “ผมอยากให้โลกของเราไม่แก่งแย่งชิงดีกัน ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องแข่งขันกันทำอะไร ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันใช้ อยากให้โลกใบนั้นไม่เหมือนเมืองหลวงอย่างในวันนี้”

ติดตามซิงเกิ้ลใหม่ของวงโซมีเดย์ได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า แว่วมาว่างานนี้สมาชิกในวงมีส่วนร่วมเกือบทุกขั้นตอน อัพเดทได้ทาง www.facebook.com/someday.y