posttoday

Along Way Home เพื่อนเดินทางสุดขอบโลก

09 เมษายน 2559

สองสาวนักเดินทางเจ้าของรายการสองข้างทาง (Along way Home) ขิม-มนิสร์พรรษ์ ไชยะเดชะ และ หลิว-อ้อมใจ ศรีชู

โดย...รอนแรม ภาพ Along way Home

สองสาวนักเดินทางเจ้าของรายการสองข้างทาง (Along way Home) ขิม-มนิสร์พรรษ์ ไชยะเดชะ และ หลิว-อ้อมใจ ศรีชู คู่เพื่อนซี้ที่ออกเดินทางตามฝัน ครั้งแรกพวกเธอเดินทางจากดูไบกลับเมืองไทยโดยไม่ใช้เครื่องบิน ส่วนครั้งนี้มีความฝันครั้งใหม่บนเส้นทางจากเปรูสู่เมืองอูซัวยาเพื่อไปแตะสุดขอบโลก

เพื่อนเดินทาง

สถานภาพเพื่อนจำแนกได้หลายประเภท เมื่อหลิวและขิมชอบเดินทาง ก็คงอยู่ในประเภทไหนไม่ได้ถ้าไม่ใช่ “เพื่อนเดินทาง” เธอทั้งสองพบกันครั้งแรกเพราะมีเพื่อนสนิทคนเดียวกัน เวลานั้นพวกเธอทำงานเป็นแอร์โฮสเตสเหมือนกัน อยู่สายการบินเดียวกัน และอยากลาออกจากงานเหมือนกัน เมื่อทุกอย่างลงตัวพวกเธอจึงยื่นใบลาออกและบอกลาเครื่องบิน ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านด้วยวิธีนั่งรถลงเรือต่อรถไฟจากดูไบกลับกรุงเทพฯ

Along Way Home เพื่อนเดินทางสุดขอบโลก

 

“ขิมเป็นคนหน้าตาสวยแต่ลุย” หลิว กล่าว “เคยไปทริปเนปาลด้วยกันครั้งแรกแล้วรู้สึกคลิก เลยชวนกันเดินทางกลับบ้านจากดูไบโดยไม่ใช้เครื่องบินอยากเห็นโลกอีกแบบหนึ่งที่ไม่ต้องเร่งรีบ” ถ้านั่งเครื่องบินจากดูไบ-กรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 5.5ชั่วโมง แต่ทริปนั้นพวกเธอใช้เวลา 4 เดือนเศษ

รายการสองข้างทางออกอากาศครั้งแรกปี 2554 ทางช่องไทยพีบีเอส ทำให้ชื่อหลิวและขิมถูกพูดถึงในโลกออนไลน์และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่จำนวนมาก กระทั่งเมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซีซั่น 2 กลับมาพร้อมจุดหมายใหม่สู่เมืองอูซัวยา ประเทศอาร์เจนตินา ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสุดขอบโลก โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ป่าอะเมซอน เมืองมาเนาส์ ประเทศบราซิล

Along Way Home เพื่อนเดินทางสุดขอบโลก

 

“มากสุดเราได้ไปแค่อะเมซอนใกล้ๆ เมือง เพราะซื้อแพ็กเกจทัวร์เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป เลยไม่ได้เห็นอะนาคอนดา แต่ก็ยังได้เดินป่าอะเมซอนที่คล้ายกับป่าภาคใต้บ้านเรา แต่ต่างกันตรงที่ทุกอย่างมีมากกว่า เช่น ต้นไม้ใหญ่กว่า ความชื้นสูงกว่าแมลงเยอะกว่า ซึ่งโดยรวมแล้วช่างเหมือนประเทศไทย” หลิว กล่าว

จากนั้นได้เดินทางข้ามประเทศจากมะเนาสู่เปรูด้วยเรือโดยสาร “เป็นประสบการณ์ที่ประหลาดมาก” เธอเล่าต่อ “จากที่อ่านข้อมูลมา ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าจะเป็นสัปดาห์ที่แสนน่าเบื่อที่สุดในโลก ซึ่งก็เบื่อมาก (ลากเสียงยาว) จริงๆ มันเป็นความซ้ำซากจำเจในพื้นที่จำกัดทุกวันเหมือนเดิม ไม่มีอะไรใหม่ เขียนไดอารี่จนไม่มีอะไรจะเขียนแล้วก็ยังไม่ถึงเปรูสักที”

เมื่อพาร่างกายอันแสนบอบช้ำถึงฝั่งเปรู พวกเธอให้เวลากับมาชูปิกชูมากที่สุดโดยได้ไปทำงานเป็นอาสาสมัครที่หมู่บ้านชาวอินคา (คนพื้นเมือง) ซึ่งงานอาสาสมัครถือเป็นความตั้งใจแรกของทั้งคู่
ด้วยเหตุผลต้องการประหยัดงบประมาณและอยากหาประสบการณ์ให้มากที่สุด

สำหรับเส้นทางมาชูปิกชูเป็นประสบการณ์ครั้งที่ 2 จากครั้งแรกที่รู้สึกว้าวกับความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม ครั้งนี้พวกเธอกลับเข้าใจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวอินคามากขึ้น

Along Way Home เพื่อนเดินทางสุดขอบโลก

 

“พวกเรามีความเข้าใจในมาชูปิกชู” หลิว กล่าว “เราว้าวกับประวัติศาสตร์ของชาวอินคา รู้ว่าพระแม่ธรณีอยู่ในความเชื่อของชาวอินคามาตลอด เขานับถือธรรมชาติมาก ก่อนจะปลูกอะไรก็ต้องไหว้พระแม่ธรณี ก่อนดื่มเหล้าก็ต้องเทให้พระแม่ธรณีก่อนมาชูปิกชูก็เป็นสิ่งสะท้อนวิถีชีวิตทั้งหมดของชาวอินคา พวกเขาสามารถสร้างเมืองใหญ่โตบนไหล่เขาซึ่งสามารถคงอยู่มายาวนานเป็น 500 ปีได้ นั่นเพราะเขาสร้างเมืองที่โอนอ่อนต่อธรรมชาติ เป็นเพราะพวกเขาเข้าใจธรรมชาติของธรรมชาตินั่นเอง”

เมื่อได้ซึมซับวิถีแห่งธรรมชาติจนชุ่มใจก็เดินทางต่อไปผ่านโบลิเวีย ชิลี อาร์เจนตินา กระทั่งช่วงสุดท้ายก่อนถึงเมืองอูซัวยา พวกเธอใช้วิธีโบกรถจนไปถึงสุดขอบโลก “ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นขอบโลก ไม่รู้สึกอะไรเลย” หลิวกล่าว “เราเห็นสุดขอบโลกอยู่ตรงนั้นแล้ว แต่ไม่ได้ตื่นเต้นกับความเป็นสุดขอบโลก แต่เราดีใจที่ได้ไปถึง ถึงโดยวิธีการโบกรถมากกว่า”

ส่วนขิมในขณะที่ยืนมองมหาสมุทรที่ปราศจากแผ่นดินอีกต่อไป เธอกลับไม่ได้รู้สึกอะไรมากเช่นกัน“ดีใจที่มาถึงอย่างปลอดภัย สมบัติอยู่ครบถ้วน แต่ที่คิดอยู่ในขณะนั้นคือ นั่นเป็นการสิ้นสุดทริป แล้วเมื่อกลับประเทศไทยล่ะจะกลับไปทำอะไร” นั่นเป็นการปิดฉากทริปอันแสนยาวนานที่ใช้เวลากว่า 6 เดือน

ชีวิตหลังประสบการณ์

ตอนนี้หลิวเลือกเส้นทางชีวิตอยู่ในสวนมะพร้าว จ.ชุมพร ใช้ชีวิตแบบพอเพียงและยั่งยืนอย่างที่เห็นมาในหมู่บ้านชาวอินคา เธอพยายามปลูกทุกอย่างกินเอง ซื้อให้น้อย ปลูกให้มาก ซึ่งเป็นเป้าหมายในชีวิต“สิ่งที่เราได้พบได้เห็นมาตลอดทริปมันทำให้เราโตขึ้นอีกแล้ว เราได้เรียนรู้ในวิถีชีวิตที่เราชอบ ทำให้เรากรองว่าจริงๆ แล้วเราชอบอะไรมันทำให้เราชัดเจนกับความตั้งใจของเรา” หลิว กล่าว

Along Way Home เพื่อนเดินทางสุดขอบโลก

 

เช่นเดียวกับขิมที่อยากใช้ชีวิตเกษตรกรรมที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ “สมัยที่ทำงานเป็นแอร์ฯ เรารู้สึกว่าเงินคือทุกอย่างของชีวิต ถ้าเราไม่มีเงินแล้วจะทำอะไรได้ เพราะพื้นฐานครอบครัวก็เป็นคนเมืองที่ทำงานหาเงิน ซึ่งไม่รู้ว่าต้องหาเท่าไหร่ถึงจะพอ” เธอพรั่งพรู “แต่การเดินทางทำให้เราเห็นว่าจริงๆ แล้วชีวิตยังมีอีกหลายแบบที่ไม่จำเป็นต้องนำเงินมากำหนดชีวิต พอได้เห็นมากขึ้นมันก็หล่อหลอมให้เรามองโลกอีกแบบหนึ่ง เห็นว่าชีวิตเราก็มีทางเลือก” หลังจากสิ้นสุดการทำรายการสองข้างทางซีซั่น 2 เธอตั้งใจจะไปเรียนรู้วิถีเกษตรกรรมและฝันอยากมีชีวิตที่พอเพียง

โลกของเธอ

ถ้ามีโลกของตัวเอง หนึ่ง อยากให้โลกใบนั้นเป็นอย่างไร หลิว ตอบว่า อยากให้โลกใบนั้นมีผู้คนที่ยอมรับในดอกไม้หลายๆ สี ให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง แต่เคารพกันและกัน ส่วนขิมเธออยากให้เป็นโลกที่คนพึ่งพาธรรมชาติ เคารพคน เคารพสัตว์ เคารพต้นไม้ใบหญ้า เพราะตอนนี้เราอยู่กันแบบเบียดเบียนธรรมชาติมากเกินไป อย่างไรก็ตามพวกเธอตอบเหมือนกันอยู่อย่างคือ “อยากเห็นโลกมีความสุขโดยที่ยังมีธรรมชาติ”

Along Way Home เพื่อนเดินทางสุดขอบโลก