posttoday

แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ การเดินทางแห่งความทรงจำ

15 พฤศจิกายน 2558

การไปเยือนอินเดียครั้งแรกของวิสุทธิพันธุ์ ศิวสัตตพร หรือเนม เลขาฯ ผู้บริหาร เธอเตรียมตัวดีมากคือเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงไว้ทุกอย่าง

โดย...พาแลง ภาพ วิสุทธิพันธุ์ ศิวสัตตพร

การไปเยือนอินเดียครั้งแรกของวิสุทธิพันธุ์ ศิวสัตตพร หรือเนม เลขาฯ ผู้บริหาร เธอเตรียมตัวดีมากคือเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงไว้ทุกอย่าง เพราะกิตติศัพท์ที่เลื่องลือของประเทศนี้ทำให้ไว้ใจอะไรไม่ได้ แต่การเดินทางไปจุดหมายที่แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ ทำให้เธอพบว่าที่จริงแล้วอินเดียในอีกมุมหนึ่งก็มีความน่ารักกว่าสิ่งที่เคยได้ยิน แม้จะมีเหตุการณ์ให้แก้ไขเฉพาะหน้าทุกวันก็ตาม

“เราเดินทางไปอินเดียประมาณเดือน พ.ค.ที่หิมะที่แคชเมียร์กำลังละลาย แต่ทริปนี้เราเจอทั้งร้อนและหนาวหมดเลย เริ่มต้นจากตั้งธงว่าจะไปลาดักห์ แต่เพื่อนในทริป 8 คนบอกว่าไหนๆ จะไปแล้ว ก็ไปให้ครบไปเลย ทริปก็เลยเริ่มจากกรุงเทพฯ-เดลี เดลี-แคชเมียร์ จากแคชเมียร์ไปลาดักห์เราจะขับรถขึ้นไป แล้วเราจะกลับลาดักห์-เดลี แล้วจึงจะกลับกรุงเทพฯ นั่นคือสิ่งที่เราวางแผน แต่ก็ไม่ได้เป็นตามแผนทั้งหมด”

แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ การเดินทางแห่งความทรงจำ

เนม เล่าถึงทริป 12 วันของพวกเธอว่า เริ่มจากภูมิประเทศที่ร้อนสุดคือกรุงนิวเดลี ประมาณ 40 องศา ทุกอย่างจัดการไปจากเมืองไทยคือจองรถ จองโรงแรม จากนั้นก็เริ่มเที่ยวจากพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท ใช้เวลาครึ่งวันเพราะโปรแกรมค่อนข้างแน่น “ถ้ามีเวลาควรไปฝังตัวอยู่ที่นั่นหนึ่งวัน เพราะที่นั่นสวยมาก จากนั้นกลุ่มเราก็ออกจากราชสถานไปอากราไปถึงก็ดึก วันต่อมาต้องตื่นไปทัชมาฮาลตั้งแต่เช้า แล้วก็ต้องรีบขึ้นเครื่องไปแคชเมียร์ เรียกว่าชีวิตเราถูกจำกัดด้วยเวลา”

อากาศที่แคชเมียร์ แม้จะเป็นช่วงเดือนที่หิมะละลายไปบ้าง และเตรียมสู่หน้าร้อนแล้วที่อากาศก็ยังคงหนาวอยู่ เลขาฯ สาว บอกว่า “วันแรกที่ไปถึงแคชเมียร์เราไปพักที่เมืองพาฮาลแกม (Pahalgam) ซึ่งที่นี่จะถูกเรียกว่าหุบแกะ เพราะเขาเลี้ยงแกะและอยู่ติดกับหิมาลัยมองไปก็เห็นเป็นภูเขาที่มีหิมะโอบล้อมและมีแม่น้ำไหลผ่านซึ่งสวยมากอีกนั่นแหละค่ะ ดูแล้วไม่เหมือนอินเดียเลย

แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ การเดินทางแห่งความทรงจำ

 

เราขี่ม้าขึ้นภูเขาไปเพื่อดูหุบแกะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน หวาดเสียวเล็กๆ มีเหงื่อซึมหลังหน่อยๆ แต่พอได้เห็นวิวด้านบนก็ลืมหมดทุกอย่าง พอลงมาจากเขาแล้วเราก็เดินทางต่อไปที่ศรีนาคา (Srinagar) เมืองหลวงของแคชเมียร์ ผ่านทุ่งดอกมัสตาร์ด ไปทะเลสาบดาล แต่พวกเราไปนอนบนเรือในทะเลสาบนากิ้น ซึ่งเรือบ้านนี้ได้อิทธิพลมาตั้งแต่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ ทุกอย่างสะดวกสบายและตกแต่งแบบอังกฤษขนานแท้”

ถ้าตามตารางแล้ววันรุ่งขึ้นกลุ่มเพื่อนทั้งแปดคนจะต้องออกเดินทางจากศรีนาคาเพื่อไปยังลาดักห์ แต่ว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะว่าถนนที่เราจะไปลาดักห์ รถวิ่งไม่ได้ ถนนปิดเพราะมีพายุหิมะ “พวกเราเครียดมาก ทริปนี้ค่อนข้างเครียดและมีปัญหาให้แก้ตลอดเวลา เจ้าของบ้านที่เราไปพักแนะนำว่าให้เราเปลี่ยนแผนเที่ยวในแคชเมียร์แทน แต่จุดมุ่งหมายของเราคือลาดักห์ ยังไงก็ต้องไปให้ได้ ต่อให้เหลือเวลาแค่สามวันก็ต้องไป สุดท้ายพวกเราตัดสินใจว่าจะบินจากศรีนาคาเพื่อไปตั้งหลักที่เดลี แล้วบินจากเดลีไปที่ลาดักห์ แต่ปัญหาคือตั๋วเครื่องบินที่จะไปเดลีต้องรออีก 2 วัน เท่ากับเราต้องอยู่ในศรีนาคาต่อ”

แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ การเดินทางแห่งความทรงจำ

 

สองวันที่ศรีนาคา เพื่อนกลุ่มนี้ตะลุยเที่ยวที่กุลมาร์ค (Gulmarg) เพราะอยากไปเห็นฉากที่ถ่ายทำหนังอินเดีย ซึ่งกุลมาร์คมีทั้งหมด 3 ชั้นต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป แต่กว่าจะไปถึงทางขึ้นก็คือเดินผ่านโคลนของหิมะที่ละลายแล้วค่อนข้างแอดเวนเจอร์เล็กน้อย

“เราไปถึงแค่ชั้นสอง การไปค่อนข้างลำบากเพราะหนึ่งคิวยาวต้องแย่งชิงซื้อตั๋ว แต่พอไปถึงก็ต้องตะลึงเพราะวิวมันสวยจริงตามคำร่ำลือ วันต่อมาเราไปที่โซนามาร์ค (Sonamarg) ซึ่งไม่ต้องขึ้นกระเช้าแต่วิวก็สวยเหมือนกัน กลับจากโซนามาร์คพวกเราก็มาเที่ยวในเมืองศรีนาคา เดินตลาดสด ชมสวนพฤกษชาติ รอเวลาบินกลับไปเริ่มต้นที่เดลี”

แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ การเดินทางแห่งความทรงจำ

 

หนึ่งคืนในเดลี เลขาฯ สาวและเพื่อนๆ เลือกที่พักใกล้สนามบิน เพื่อเตรียมตัวไปจุดหมายสุดท้ายในอินเดีย “ทุกคนเฮตั้งแต่เครื่องออกจากสนามบิน และพอเข้าเขตลาดักห์ทุกคนจะฮือฮาตลอดทางเพราะมันสวยมาก (เน้นเสียง) เครื่องลงจอดทุกคนบนเครื่องปรบมือดีใจเกรียวกราว เรากรุ๊ปคนไทยไม่ทำเพราะมัวแต่ตะลึงกับความสวย

พอถึงลาดักห์พวกก็ไปเจอปัญหาใหม่ที่นั่น เพราะว่าเหลือเวลาสำหรับที่นี่แค่ 3 วัน จากแต่เดิม 5 วัน โปรแกรมของเราก็เลยต้องร่นลงมา และต้องตัดโปรแกรมเที่ยวไปหลายที่ และปัญหาต่อมาก็คืออากาศที่เบาบางและอยู่บนที่สูง เนมก็เลยมีอาการแพ้ความสูง ต้องเข้าโรงพยาบาลที่นั่น อาการคือเวียนหัว อาเจียน ท้องเสีย กินอะไรไม่ได้ ซึ่งอาการทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากเราไปเที่ยวมาแล้วหนึ่งที่คือวัดธิคเซย์ (Thiksey Gompa) เป็นอารามเก่าแก่อายุ 600 ปี เราไปไหว้พระศรีอริยเมตไตรยองค์ใหญ่ ความสูง 15 เมตร หรือประมาณอาคาร 2 ชั้น เป็นองค์พระที่ใหญ่ที่สุดและเป็นงานศิลป์ชิ้นเอกในหุบเขาลาดักห์ เป็นความงามที่เรียบง่ายมาก ต่อมาไปที่พระราชวังเชย์ (Shey Palace) และสุดท้ายที่สันติสตูปา (Shanti Stupa) แล้วอาการแพ้ความสูงก็รุนแรงขึ้น เพราะว่าตอนนั้นเริ่มอาเจียนแล้ว

แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ การเดินทางแห่งความทรงจำ

 

ไม่เฉพาะเนมเท่านั้น ทุกคนในทริปจะเหนื่อยง่ายเพราะอากาศน้อย เมื่อเธอป่วยจึงต้องนอนพักนิ่งๆ หนึ่งวัน วันที่สองเพื่อนๆ ออกไปเที่ยวแม่น้ำสองสี “เจ้าของที่พักเป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลกคนหนึ่ง นอกจากจะพาเราไปหาหมอที่โรงพยาบาล จ่ายค่ายาให้แล้ว ยังอยู่ดูแลเราจนร่างกายดีขึ้น และยังให้คำแนะนำว่าในเวลาที่จำกัดนั้นเราควรไปที่ไหนบ้าง”

วันต่อมาของเราที่ลาดักห์ เนมและเพื่อนๆ มีจุดหมายที่ทะเลสาบแปงกอง (Pangong Lake) ทะเลสาบสีเทอร์ควอยส์ในอ้อมกอดของหุบเขาหลายสีตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของเขตลาดักห์ เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงที่สุดในโลก เส้นที่ไปแปงกองต้องผ่าน Chang la Pass ซึ่งเป็นเส้นทางที่สูงที่สุดอันดับสามของโลกสูง 5,360 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นเส้นทางที่สวยและคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ต้องไม่พลาดไปขี่บนถนนนี้

แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ การเดินทางแห่งความทรงจำ

“วันสุดท้ายเราไปที่บ้านฮุนเดอร์ เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขาเล็กๆ ได้ขี่อูฐโบราณมีสองหนอก เราเดินผ่านเนินทะเลทรายขาวละเอียด เป็นทิวทัศน์แปลกตาที่ไม่เคยเห็นในทะเลทรายที่ไหน ที่นี่ยังถือว่าเป็นเส้นทางสายไหมสมัยโบราณด้วย นอกจากความสวยของสถานที่ก็คือผู้คนน่ารักที่สุดในโลก เราเจอทั้งคนและสถานที่ที่แตกต่างกันสุดขั้วในอินเดีย ในเมืองอย่างเดลี อากาศร้อน ผู้คนก็วุ่นวาย พอขึ้นไปแคชเมียร์คนก็เริ่มน่ารักขึ้นมา และที่น่ารักที่สุดก็คือคนในลาดักห์ แม้จะมีปัญหามากมายแต่ก็ยากจะลืมทริปนี้ได้ลง ถามว่าถ้ามีโอกาสจะต้องไปอีกแน่นอน”

เนมแนะนำว่า สำหรับคนที่อยากไปแคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง เพราะว่าเราอาจจะเจอเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงได้เสมอ ต้องเตรียมถุงมือ แว่นตา หน้ากากอนามัย และยาประจำตัวไว้ เพราะว่าฝุ่นค่อนข้างเยอะ และที่สำคัญต้องเตรียมออกซิเจนกระป๋องไปด้วย ถ้ามีเวลาสำหรับเลห์ ลาดักห์ น่าจะมีเวลาสัก 1 อาทิตย์น่าจะดื่มด่ำกับลาดักห์ได้เต็มที่

แคชเมียร์-เลห์ ลาดักห์ การเดินทางแห่งความทรงจำ