posttoday

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ

19 กันยายน 2558

หลังจากรายชื่อของนักแสดงและทีมงานของภาพยนตร์เรื่องโปรดที่พลาดโอกาสชมในโรงภาพยนตร์ทยอยปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา

หลังจากรายชื่อของนักแสดงและทีมงานของภาพยนตร์เรื่องโปรดที่พลาดโอกาสชมในโรงภาพยนตร์ทยอยปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ตามด้วยเสียงของกัปตันแจ้งว่า ขณะนี้เครื่องบินของเราได้เดินทางมาถึงสนามบินซวงหลิง นครเฉิงตู มณฑลเสฉวนของประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย เป็นสัญญาณว่า ทริปการเดินทางเยือนนครเฉิงตู-เมืองเล่อซาน ขึ้นเขาง้อไบ๊ เป็นเวลา 4 คืน 5 วันที่รอคอยกำลังจะเริ่มต้นขึ้น  

วันที่ 1 เฉิงตู… มาแล้วถึงรู้ว่าแต่งงานเร็วไป

ว่ากันว่า…

ใครมาเยือนกรุงปักกิ่ง…ถึงได้รู้ว่า ตำแหน่งที่ตัวเองมีเล็กเกินไป

ใครมาเยือนกวางตุ้ง…ถึงได้รู้ว่า ตัวเองไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่คิด

ใครมาเยือนเฉิงตู…ถึงได้รู้ว่า ตัวเองแต่งงานเร็วเกินไป

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ นมัสการพระสมันตภัทร โพธิสัตว์ผู่เสียน บนเขาง้อไบ๊

 

จั่นเจา ไกด์หนุ่มนิสัยดี แต่รูปลักษณ์อาจห่างไกลจากองครักษ์จั่นเจาสุดเท่ของท่านเปาบุ้นจิ้นในซีรี่ส์ ไขความหมายของคำพูดนี้ว่า “ผู้หญิงเฉิงตูสวย ผิวดี เพราะเมืองนี้ไม่ค่อยมีแดด อากาศจะอึมครึมแทบทั้งปี ว่ากันว่าปีหนึ่งเมืองนี้มีแดดไม่ถึง 150 วัน ถึงขนาดมีคำเปรียบเปรยกันว่า ถ้าแดดออก หมาถึงกับเห่าเลยทีเดียว

“วันไหนแดดออกชาวเมืองเฉิงตูแทบไม่อยากออกไปทำงาน อยากไปนั่งจิบน้ำชาหรือเล่นไพ่นกกระจอกมากกว่า ซึ่งที่นี่ไม่ผิดกฎหมาย แถมทุกปีรัฐบาลยังจัดให้มีการแข่งขันหาเซียนไพ่นกกระจอก ด้วยความนิยมนี้เองทำให้มีคนบอกว่า มาถึงเมืองเฉิงตูไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาถึงแล้ว เพราะได้ยินเสียงไพ่นกกระจอกดังกระทบกันก่อน”

หลังจากแนะนำเมืองเฉิงตูพอประมาณ คณะของเราก็เดินทางมาถึงจุดหมายแรก นั่นคือ ศาลขงเบ้ง ซึ่งได้รับสมญานามว่า “ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์สามก๊ก” ศาลเจ้าแห่งนี้ประกอบด้วย สุสานเล่าปี่ ศาลขงเบ้ง และบ้านจิ๋นหลี่ ความพิเศษคือเป็นที่เดียวในประเทศจีนที่มีทั้งศาลของจักรพรรดิและขุนนางอยู่ในรั้วเดียวกัน ไหว้ขอพรเสร็จอย่าลืมแวะไปเดินเล่น ชมถนนวัฒนธรรมจิ๋นหลี่ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับถนนตรงศาลเจ้าขงเบ้ง เดินเพลินๆ เก็บบรรยากาศร้านอาหารและร้านน้ำชา โรงเตี๊ยม และโรงงิ้วที่ตกแต่งแบบย้อนยุค ต่อด้วยชมถนนโบราณควานจ๋ายเซี่ยวจื่อ (ซอยกว้าง-ซอยแคบ) ซึ่งถือเป็นถนนเอกลักษณ์ที่มีสีสันที่สุดของเฉิงตู

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ ไข่ต้มชา อาหารเติมพลัง ระหว่างขึ้นเขาง้อไบ๊

 

เสน่ห์ของการเดินตามซอยนี้ก็ตรงตัวตามชื่อ คือ เดินจากซอยกว้างขนาดรถยนต์วิ่งผ่านได้ไปตามซอยที่แคบลงเรื่อยๆ เหลือแค่คนเดินได้ แต่ที่ขาดไม่ได้คือ อย่าลืมแวะมาชมร้านสตาร์บัคส์ ซึ่งได้รับการโหวตว่าสวยติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว

ปิดท้ายด้วยโปรแกรมโชว์เปลี่ยนหน้ากาก ที่ขอสรุปเอาเองว่าเป็นโชว์ที่ผสมผสานระหว่างงิ้วของจีนกับมายากล ดูแล้วก็ตื่นตาตื่นใจ ถึงจะได้รับคำเฉลยตอนหลังว่า กลในการเปลี่ยนหน้ากากคืออะไรก็ตาม

วันที่ 2 ตะลุยชิงเฉิงซาน-เดินเลาะเขื่อนดินใหญ่ที่สุดในโลก

ก่อนออกเดินทางวันนี้ ชาวคณะได้รับคำเตือนให้กินอาหารเช้าให้อิ่ม เพราะเส้นทางวันนี้แอดเวนเจอร์สุดๆ ทั้งเดินเท้า นั่งเรือ ขึ้นกระเช้า กว่าจะถึงจุดหมาย จุดหมายแรกวันนี้ คือเขาชิงเฉิงซาน เราต้องนั่งรถออกจากตัวเมืองไปราว 68 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จั่นเจาเล่าว่า ภูเขาชิงเฉิงซานมีธรรมชาติอันงดงาม จึงได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่านักพรตจางเต้าหลิง ผู้ให้กำเนิดศาสนาเต๋าเดินทางมาบำเพ็ญพรต ณ ที่แห่งนี้จนสำเร็จเป็นเซียนเหาะขึ้นสวรรค์ไป ภูเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาเต๋า

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ เส้นทางแห่งศรัทธา ในการเดินทางขึ้นเขาง้อไบ๊

 

การเดินทางขึ้นเขาชิงเฉิงซาน ต้องเดินเท้ามาประมาณ 20 นาที จนเจอทะเลสาบ ต้องขึ้นเรือข้ามไปอีกฝั่ง ใช้เวลาข้ามฟากแค่ชั่วอึดใจ จากนั้นต่อไปขึ้นกระเช้าเพื่อไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ตลอดการเดินทางวันนี้จะเห็นว่าไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวฝรั่งเท่าที่ควร จั่นเจาบอกว่านักท่องเที่ยวฝรั่งนิยมเที่ยวสถานที่ที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมอย่างสุสานจิ๋นซี พระราชวังต้องห้ามมากกว่ามาเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ตามธรรมชาติ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่จึงเป็นชาวไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และไต้หวัน

เสร็จสิ้นภารกิจพิชิตเขา ชาวคณะเตรียมเดินทางต่อไปสัมผัสกับเขื่อนโบราณตูเจียงเยี่ยน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขาชิงเฉิงซาน เขื่อนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเขื่อนดินชลประทานแห่งแรกของโลก ในปี 2000 ยูเนสโกยกย่องให้เขื่อนแห่งนี้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ มีอายุราว 2,000 ปี และยังคงใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งเป็นต้นแบบในการสร้างเขื่อนยักษ์ของจีนจนถึงทุกวันนี้

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ นักท่องเที่ยวพากันเก็บภาพ หน้าผาแห่งความตายบนเขาง้อไบ๊

 

การเดินทางมาชมเขื่อน รถบัสจะมาส่งนักท่องเที่ยวที่จุดชมวิวด้านบน เพื่อให้ได้ชมเขื่อนจากมุมสูง ได้เห็นถึงความคิดอันชาญฉลาดของคนจีนสมัยโบราณในการแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเขื่อนดินแห่งนี้ตั้งอยู่กลางแม่น้ำหมินเจียง แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ คันแบ่งน้ำรูปปากปลา ฝายน้ำล้น และประตูน้ำรูปปากขวด

หลังจากเก็บวิวทิวทัศน์ด้านบนเรียบร้อย เราต้องเดินลงบันไดไปชมเขื่อนด้านล่าง ระหว่างทางมีจุดท่องเที่ยวคือ วัดเอ้อหวังเมี่ยว (วัดสองกษัตริย์) สร้างขึ้นเพื่อสดุดีคุณงามความดีของหลี่ปิงและลูกชาย ผู้สร้างเขื่อนแห่งนี้ จากวัดนี้เดินเท้าต่อมาอีกนิดจะมองเห็นสะพานไม้ทอดยาวข้ามแม่น้ำ สะพานแห่งนี้บางคนเรียกสะพานคู่รัก หรือสะพานผัวเมีย เพราะสร้างโดยสองผัวเมียใจบุญ ใครที่กลัวความสูงอาจต้องทำใจกล้าๆ หน่อย เพราะเส้นทางเดินค่อนข้างยาว แถมยังมีแกว่งๆ พอให้ตื่นเต้นบ้าง ข้ามมาอีกฝั่งจะได้เก็บบรรยากาศของเขื่อนในอีกมุม ส่วนขากลับเดินข้ามสะพานกลับมา แล้วรถบัสจะมารอรับที่จุดนี้ ไม่ต้องเดินกลับขึ้นไปทางเดิม

วันที่ 3-4 ล่องวารีชมมรดกโลก พิชิตเขาง้อไบ๊

และแล้วไฮไลต์ของทริปนี้ก็มาถึง วันนี้ทุกคนต้องเตรียมสัมภาระสำหรับพักค้างคืนบนเขาง้อไบ๊ 1 คืน การเดินทางวันนี้เริ่มต้นด้วยการเดินทางไปยังเมืองเล่อซาน ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง เพื่อล่องเรือชมหลวงพ่อโตเล่อซาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับเขาเอ่อเหมยซาน (เขาง้อไบ๊) เมื่อปี 1996

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ มุมโรแมนติกของคู่รัก ที่สะพานคู่รัก

 

ตามประวัติเล่าว่า เดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำที่เชี่ยวกราก 3 สาย ทำให้เกิดเหตุเรืออับปางบ่อยครั้ง ในฤดูน้ำหลากมักเกิดอุทกภัย ชาวบ้านล้มตายจำนวนมาก หลวงจีนไห่ทงจึงตั้งใจสร้างพระพุทธรูปขึ้น โดยหวังว่าอานิสงส์ครั้งนี้จะช่วยลดเภทภัยและเศษหินจากการแกะสลักจะช่วยปรับระดับร่องน้ำให้ตื้นเขิน ลดความแรงของกระแสน้ำ แต่พอสร้างถึงพระอังสา (บ่า) หลวงจีนมรณภาพ โชคดีได้แม่ทัพอีกหลายท่านมาช่วยสร้างต่อ กว่าจะแล้วเสร็จใช้เวลาร่วม 90 ปี การเดินทางมากราบขอพรนักท่องเที่ยวต้องลงเรือ เพื่อล่องมาชมความงามขององค์หลวงพ่อโตเขาเล่อซาน

จากนั้นรถบัสพาชาวคณะเดินทางต่อไปยังเขาง้อไบ๊ ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที จากนั้นต่อรถท้องถิ่นและลงเดินเท้าเป็นระยะทางอีกราว 1 กิโลเมตรกว่าๆ จากนั้นต่อกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขา ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นราว 2 ชั่วโมงครึ่ง

เขาง้อไบ๊อยู่ห่างจากเฉิงตูประมาณ 160 กิโลเมตร เป็นสถานที่บำเพ็ญบารมีของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ผู้เป็นเลิศทางจริยาและเป็นตัวแทนของจริยาบารมี เขาแห่งนี้จึงได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีของจีน มาถึงเขาง้อไบ๊นักท่องเที่ยวต้องไปเยี่ยมชมยอดเขาจินติ่ง (ยอดทอง) สูงจากระดับน้ำทะเล 3,079 เมตร เป็นจุดชมวิว 360 องศา ที่งดงามที่สุด สามารถชมทั้งพระอาทิตย์ ทะเลเมฆ ทะเลหมอกได้ที่เดียวครบ อีกทั้งยังได้นมัสการพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ผู่เสียน ได้ชมความงามของวิหารเงิน วิหารทอง และวิหารทองแดง

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ วิหารทองคำบนเขาง้อไบ๊

 

งานนี้ไกด์จั่นเจาเตือนชาวคณะก่อนว่า ช่วงที่เดินทางขึ้นเขาแม้เส้นทางที่นั่งรถจะคดเคี้ยว โค้งเยอะ ต้องเดินขึ้นไปไกลก็อย่าบ่น เพราะชาวจีนเชื่อว่าระหว่างทางที่เดินขึ้นไปพระผู้เป็นเจ้ากำลังมองเราอยู่

หนึ่งคืนที่ง้อไบ๊ ไม่น่าเชื่อว่าช่วงค่ำอากาศจะหนาวเย็นได้ใจ เพราะช่วงค่ำอุณหภูมิเหลือเพียง 12 องศาเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ห้องพักของโรงแรมบนเขาจะมีฮีทเตอร์ไว้ให้บริการ แต่ที่น่าประหลาดใจคือ ถึงอยู่บนเขาแต่สัญญาณไว-ไฟบนเขาง้อไบ๊ค่อนข้างดีทีเดียว

เช้ารุ่งอีกวัน เสียดายที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยฝน แผนการชมพระอาทิตย์ขึ้นตอน 06.29 น. เลยต้องข้ามไป หลังจากเติมพลังด้วยอาหารเช้า ชาวคณะก็เดินทางลงเขาโดยใช้เส้นทางเดิม ก่อนจะลงมาถึงตีนเขา เราแวะวัดว่านเหนียน (วัดหมื่นปี) เพื่อสักการะพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ประทับเหนือบัลลังก์บัวบนหลังช้างเผือกหกงาก่อน

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ สะพานคู่รักที่เขื่อนโบราณตูเจียงเยี่ยน

 

วันที่ 5 เที่ยวห้างที่สร้างในอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หลังจากอิ่มบุญ เต็มอิ่มกับธรรมชาติมาหลายวัน ถึงเวลาที่ชาวคณะรอคอย นั่นคือการช็อปปิ้งซื้อของฝากก่อนกลับ โชคดีที่โรงแรมที่พักในเฉิงตูใกล้กับย่านถนนคนเดิน ตกเย็นเลยออกมาเดินเล่นได้สบาย ถนนคนเดินที่นี่อารมณ์คล้ายๆ สยามสแควร์ผสมกับแพลทินัมบ้านเรา มีสินค้ามากมายให้เลือกสรร แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนและสังเกตตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเฉิงตู คือบ้านเมืองสะอาดมาก ไม่มีขยะแม้แต่น้อย มาถึงบางอ้อเมื่อไกด์จั่นเจาบอกว่า รัฐบาลลงทุนจ้างคนกวาดถนนมาดูแลโดยเฉพาะ

นอกจากถนนคนเดิน ทริปนี้เรายังได้ออกนอกเฉิงตูมาเที่ยวห้าง New Century Global Center ห้างที่สร้างในอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ห้างนี้เปิดเมื่อปี 2002 มีทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงหนัง สวนน้ำ ร้านอาหาร และห้องประชุมในที่เดียว เดินเพลินๆ เหนื่อยแล้วก็ยังไม่ทั่วห้าง เรียกว่ามาเฉิงตูครั้งนี้ครบรส ได้มาสัมผัสความเป็นที่สุดในหลายๆ ด้านจริงๆ

เสียงกัปตันทำลายความเงียบอีกครั้ง แสงไฟจากสนามบินสุวรรณภูมิในยามพลบค่ำกำลังโบกมือต้อนรับ หัวใจที่ชุ่มฉ่ำกำลังยิ้มรับเบาๆ 5 วันอาจเป็นเวลาสั้นๆ ในการทำความรู้จักเมืองเล็กๆ ของจีน แต่ก็ไม่น้อยเกินไปที่จะตกหลุมรักเมืองแห่งนี้เข้าเต็มเปา

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ ภาพมุมสูงของเขื่อนโบราณตูเจียงเยี่ยน

 

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ บริการลูกหาบสำหรับขึ้นเขาง้อไบ๊

 

5 วันในเสฉวน มาแล้วไม่อยากกลับ ล่องวารีชมความยิ่งใหญ่ ขององค์หลวงพ่อโตเล่อซาน