posttoday

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

13 กันยายน 2558

การเดินทางท่องเที่ยวสำหรับใครหลายคนนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต เพราะมันคือการไปเติมพลัง

โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ ศิรินภา พากิโต

การเดินทางท่องเที่ยวสำหรับใครหลายคนนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต เพราะมันคือการไปเติมพลัง การได้ไปเรียนรู้โลกสู่บรรยากาศใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น สาวประชาสัมพันธ์จากบริษัทโฆษณา เดนท์สึ (ประเทศไทย) ที่ชอบเดินทางเพื่อมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตและการทำงาน

น๊อต-ศิรินภา พากิโต เล่าว่าทุกปีเธอและเพื่อนๆ จะมีทริปเดินทางไปต่างประเทศปีละครั้งกับเพื่อนสนิท 4-5 คน โดยจะเดินทางไปกันเองแล้วเช่ารถขับ เช่นทริปล่าสุดของเธอเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการเลือกไปประเทศนี้เพราะบังเอิญว่าได้ดูสารคดีท่องเที่ยวจากโทรทัศน์ช่องหนึ่งแล้วเกิดความประทับใจ ก็เลยถามเพื่อนๆ ว่าจะไปไหม ทุกคนตกลงเห็นตามกัน การวางแผนการเดินทางจึงเริ่มต้นขึ้น

เมื่อรู้ประเทศแล้วก็หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่าจะไปยังไง ไปเมืองไหนกันบ้าง ใช้งบประมาณเท่าไหร่ และจะไปกันกี่วันดี เธอเล่าว่าข้อมูลหาไม่ยากแต่การจะเริ่มเดินทางนั้นยาก เนื่องจากประเทศโครเอเชียไม่มีสถานทูตที่ประเทศไทย มีที่ประเทศอินโดนีเซีย

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

 

เธอจึงต้องส่งข้อมูลทุกอย่างไปทางไปรษณีย์เพื่อขอวีซ่าผ่านไปยังอินโดนีเซีย และต้องใช้เวลาตอบกลับมาถึง 2 วีก หลังจากนั้นก็เริ่มจองตั๋ว เธอใช้เวลาไปเที่ยวประเทศโครเอเชีย 13 วัน ใช้งบประมาณ 6.5 หมื่นบาท รวมทุกอย่างกินหรูอยู่สบายเช่ารถขับ แม้กระทั่งช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของฝากต่างๆ

ประเทศโครเอเชีย ถือว่าเป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งแยกตัวมาจากประเทศยูโกสลาเวีย เมื่อปี 1995 นี้เองแค่ 10 กว่าปีเท่านั้นเป็นประเทศในกลุ่มยุโรปตะวันออกที่ดูสวยงามเงียบสงบ สถาปัตยกรรมต่างๆ สวยงามตึกเก่าเมืองเก่า เป็นเมืองที่มีเสน่ห์อากาศดี แต่ละเมืองของประเทศนี้จะเป็นเมืองเล็กประชากรหลวมๆ ไม่หนาแน่น แม้ในวันทำงานของเขาในเมืองก็ไม่พลุกพล่านจนคิดว่ารึนี่เป็นวันหยุด

เธอไปทั้งหมด 4 เมือง โดยบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่เมืองซาเกร็บซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชียอยู่ที่นี่ 3 คืน เดินชมบ้านชมเมือง ถือว่าเป็นเมืองหลวงที่เงียบสงบ รถโล่งถนนว่างรถไม่ติดเมืองหลวมๆ มีคนแค่ 7 แสนคน ทั้งประเทศนี้มีทั้งหมดเพียง 5 ล้านคน เป็นเมืองที่เศรษฐกิจดี เป็นเมืองเก่า มีแหล่งประวัติศาสตร์ยาวนานมีทะเลสวยยาวเลียบเมืองชื่อทะเลอะเดรียติก ประเทศนี้ใกล้ๆ กับออสเตรเลีย กรีซ สโลวีเนีย มอนเตเนโกร

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

 

“เวลาไปเที่ยวจะชอบดูตึกรามบ้านช่อง ดูวัดดูโบสถ์ ดูพิพิธภัณฑ์ ดูร่องรอยอารยธรรม ดูศิลปะ ประเทศนี้ในอดีตมีศิลปะที่ดูเรืองอำนาจสมัยโรมัน ศิลปะแบบกอธิก บ้านเมืองสวยงามสบายตามีสเน่ห์ แล้วเราก็ไปเที่ยวเมืองหลวงเก่าที่ชื่อวลาดีนเป็นเมืองเล็กๆ อาหารอร่อยคล้ายๆ อาหารอิตาลี คือข้ามแม่น้ำอะเดรียติกไปอีกฝั่งก็คือประเทศอิตาลี”

วันที่ 4 ออกเดินทางจากเมืองหลวงซาเกร็บเช่ารถขับไปเมืองลิเยก่า เป็นเมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ เมืองนี้เป็นเมืองชายทะเลอาหารอร่อยสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ถือว่าเป็นเมืองเศรษฐกิจของประเทศ เราเดินทางผ่านเมืองโรวีน แวะนอนที่นี่หนึ่งคืนเป็นเมืองทางผ่านอยู่ทางทิศตะวันตกติดทะเลใกล้กับประเทศอิตาลี มีฉายาว่าลิตเติ้ลเวนิส แต่เป็นเวนิสที่อยู่บนเขา เป็นเมืองน่ารักมีสีสันอยู่ริมทะเล ถือว่าเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมเก่ามีโบสถ์เก่าๆ สวยงามอยู่หลายแห่ง โบสถ์ที่นี่จะปูด้วยกระเบื้องโมเสกขนาดใหญ่อายุเก่าแก่ถึง 2,300 ปีสวยงามมาก เป็นโบสถ์เก่าสไตล์โรมัน เป็นเมืองที่มีเรือประมงเยอะมากๆ ขึ้นชื่อเรื่องนี้แม้กระทั่งในพิพิธภัณฑ์ก็มีเรื่องราวของเรือมากมาย เราแวะกินข้าวชมเมืองกันที่นี่ 1 คืนถือว่าเป็นเมืองตากอากาศที่คนรวยๆ ของประเทศจะต้องมาเที่ยว

ช่วงเวลาที่ไปเที่ยวที่ดีที่สุดของประเทศนี้ก็คือเดือน ก.ค.-ส.ค. ถือว่าเป็นไฮไลต์ แต่ถ้าอยากไปหนาวๆ หน่อยก็ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. หรืออีกช่วงคือ ก.ย.-ต.ค. หากไปประเทศนี้สิ่งที่ห้ามพลาดต้องไปให้ได้คืออุทยาน Plitvice ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ ถือเป็นมรดกโลกด้วย

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

 

“ถ้าไม่ไปอุทยานที่นี่ถือว่าไปไม่ถึงโครเอเชียนะคะ ใหญ่มากสวยมีทะเล มีน้ำตก ต้นไม้ มีทางเดินยาวหลายกิโลเมตรรอบทะเลสาบ สวยงามมาก ใช้เวลาเดินชมทั่วๆ อุทยานต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง ค่าเข้า 900 บาท แต่สวยงามคุ้มค่าต้องไปนะห้ามพลาด เราไปทริปนี้เราเช่าอพาร์ตเมนต์ทำอาหารกินเองด้วยทำง่ายๆ” เธอกล่าวอย่างมีความสุข

วันที่ 7 ก็ออกเดินทางไปที่เมืองซาด้า เป็นเมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่ง เป็นเมืองที่มีศิลปะโรมันเยอะมาก เป็นเมืองที่ดูสบายตาเป็นเมืองที่มีศิลปะโรมันเยอะมาก เมืองจะเก๋ๆ มีที่นั่งริมทะเล เขาจะเจาะที่นั่งริมทะเลให้มีช่องลมที่พอเจอแรงอัดออกมาเป็นเสียงดนตรีขึ้นมาเรียกว่า Sea Organ และมีโซลาร์เซลล์สร้างอยู่แถวนั้น พอตกกลางคืนพลังงานแสงที่เก็บก็จะออกมาเป็นแสงสีเสียงอยู่ริมทะเลสวยงามท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ

วันถัดมาเราขับรถต่อไปยังเมืองสเปนิก ที่เมืองนี้มีโบสถ์ที่ใหญ่มากชื่อโบสถ์เซนต์จาค็อบ เราพักที่นี่ 1 คืน เราเดินชมเมืองกันตอนกลางคืนเป็นเมืองที่ใช้ชีวิตกันช้าๆ เดินเที่ยวริมหาด คนท้องถิ่นเขาจะนิยมมาตกปลากัน ต่อจากนั้นเราไปที่เมืองพรีโมสเตนเป็นเมืองตากอากาศอีกเช่นกัน เป็นเมืองเล็กๆ ที่ดูอบอุ่นแนวครอบครัว เราแค่แวะกินข้าว

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

 

ต่อจากนั้นขับผ่านไปยังเมืองโตรเกีย เป็นเมืองโบราณสมัยกรีซโรมันสร้างก่อนคริสตกาล เมืองสวยเป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองในอดีตสร้างด้วยหินเรียกว่าเดอะสโตนบิวตี้ มีโบสถ์ที่มีศิลปินสร้างขึ้นมาเป็นศิลปินชื่อดังคือ โดโรแวน งานของเขาจะเป็นเอกลักษณ์มีมิติสวยงามแกะสลักนูนสูงลอยตัว ชื่อโบสถ์คือเซนต์โรเลน

ตลอด 2-3 วันหลังนี้เราจะขับรถชมเมืองไปเรื่อยๆ ไปยังเมืองท่องเที่ยวหลัก ชื่อเมืองสปลิท เป็นเมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโครเอเชีย ถือว่าเป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวมีการเดินเรือที่หนาแน่นมาก จุดเด่นของเมืองนี้ก็คือเป็นเมืองประวัติศาสตร์ “เล่ากันว่าเป็นเมืองที่กษัตริย์มาสร้างเพื่อจะมาอยู่ตอนสูงวัยชื่อวังไดโอคลีเชียนพาเลซ มีสวนที่เป็นใต้ดินและบนดิน อายุเมืองนี้เก่ากว่า 2,300 ปี โครงสร้างเป็นหิน”

ตลอดทริปนี้เราเน้นการขับรถชมวิว ดูบ้านดูเมือง ดูตึกสถาปัตยกรรม โบสถ์ ดูสวนใช้ชีวิตช้าๆ ดูศิลปวัฒนธรรม ดื่มกินแบบคนท้องถิ่นกินกันไม่รีบร้อน ไม่เน้นช็อปปิ้งอะไรนะ บางเมืองที่เราไปก็เป็นโลเกชั่นถ่ายหนังเกมออฟโทรนส์ด้วยคือเมืองดูบรอฟนิค ได้ฉายาว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลอะเดรียติก หลายเมืองได้รับเป็นมรดกโลกเป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองในอดีต บางเมืองก็เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานทั้งบาโรก เรอเนสซองซ์ กอธิก เมืองทางใต้ก็ติดทะเลสวยเป็นเมืองเก่า

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

 

“ที่ประทับใจคือเมืองเก่าที่มีกำแพงเมืองเป็นแนวยาวกว่า 2 กิโลเมตร คล้ายกำแพงเมืองจีน เป็นยุคหินกลางถือเป็นกำแพงที่สวยที่สุดในโลก ระหว่างทางจะเห็นเมืองในวิวสูงเห็นทะเลเห็นแนวเมือง ได้เห็นร่องรอยของสงคราม เห็นรอยกระสุนซากปรักหักพังเมื่อปี ค.ศ. 1991 ซึ่งเมืองเขามีการสู้รบหนักมาก คือถ้าชอบประวัติศาสตร์ชอบสถาปัตยกรรม ไปเดินเล่นชิลๆ ใช้ชีวิตช้าๆ ไม่สนใจการช็อปปิ้ง ที่นี่จะเป็นสวรรค์ได้เลย ไปดูวัฒนธรรมดูศิลปะ”

วันสุดท้ายก่อนกลับเราเดินขึ้นไปบนยอดเขา SRD-Hill เห็นเมืองจากมุมสูงๆ เราขึ้นไปด้วยเคเบิลคาร์ และขากลับเดินลงบนระยะทาง 5 กิโลเมตร ตลอด 2 ข้างทางก็สวยมีต้นไม้งดงามตึกรามสวยงาม จากนั้นเราก็นั่งรถกลับมาที่ซาเกร็บขึ้นเครื่องกลับประเทศไทย เป็นทริปประทับใจในรอบหลายปีก็ว่าได้

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

 

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

 

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...

 

โครเอเชีย เมืองในฝัน สถาปัตยกรรมงดงาม...