posttoday

มองผ่านตัวตนที่สวนเซน กับวาราบิโมจิ

14 มิถุนายน 2558

แม้จะเดินทางไปญี่ปุ่นบ่อยๆ แต่เพราะส่วนใหญ่ไปทำงานแล้วรีบกลับ จึงไม่ค่อยมีเวลาได้ใช้เวลาในวัดญี่ปุ่นมากนัก

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ สิตานัน วุตติเวช

แม้จะเดินทางไปญี่ปุ่นบ่อยๆ แต่เพราะส่วนใหญ่ไปทำงานแล้วรีบกลับ จึงไม่ค่อยมีเวลาได้ใช้เวลาในวัดญี่ปุ่นมากนัก จิ๊บ-สิตานัน วุตติเวช เจ้าของร้านสปูนฟูล สักกะ แอนด์ คาเฟ่เล่าให้ฟังถึงหนึ่งในทริปประทับใจของเธอ ที่สวนเซนกับวาราบิโมจิ แห่งเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อันที่จริงรอบนี้ก็มาเรื่องงาน แต่เนื่องจากพอจัดสรรเวลาให้ตัวเองได้บ้าง อีกท้องฟ้าอากาศเป็นใจ อากาศสดใส อุณหภูมิ 9 องศาจึงนัดแนะกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นไปเดินเล่น และแน่นอนว่าเมื่อมาถึงเกียวโตแล้ว จะต้องไปเยี่ยมเยือนวัดเซนสักแห่งให้ได้

มองผ่านตัวตนที่สวนเซน กับวาราบิโมจิ

 

หลังจากรับประทานอาหารเช้าอิ่มอร่อยทั้งคู่เดินลัดเลาะกันไปตามถนนต่างๆ ในเกียวโต ที่ว่าจะเข้าใจง่ายก็ง่าย เพราะผังเมืองที่เป็นบล็อกๆ แต่เผลอๆ เดินไปเดินมาก็มีหลงได้เหมือนกัน โชคดีที่วันนี้มีเพื่อน(ญี่ปุ่น)มาด้วย เจ้าถิ่นย่อมไม่พาหลง (ฮา)

จิ๊บ เล่าว่า บ่ายๆ ออกเดินกันมาถึงแถวย่านท่องเที่ยวที่เรียกว่า กิอง (Gion) ในถนนสายที่ชื่อ ฮานามิโคจิ (Hanami Koji Dori)เป็นย่านที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและร้านรวงเล็กๆ จำนวนมาก เดินเข้ามาในถนนสายนี้ ก็แวะซ้ายทีขวาที จนไปถึงวัดเคนนินจิ(Kenninji Temple)

วัดเคนนินจิ ได้รับการยกย่องว่า เป็นวัดเซนที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น วัดสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1202 หรือประมาณ 813 ปีมาแล้ว โดยท่านโยเซ พระนิกายเซนผู้นำลัทธิความเชื่อแบบเซนเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น และยังได้รับการกล่าวถึงว่า เป็นผู้เริ่มพิธีการชงชาญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอีกด้วย นับเป็นผู้มีบทบาทในการปลูกชาและเริ่มต้นวัฒนธรรมการดื่มชาในญี่ปุ่น

มองผ่านตัวตนที่สวนเซน กับวาราบิโมจิ

 

“เกียวโตนั้นเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น นับว่าเป็นเมืองที่มีวัดสำคัญๆจำนวนมากกว่า 3,000 แห่ง รวมถึงวัดเคนนินจิแห่งนี้” จิ๊บ เล่า

บรรยากาศภายในวัดที่จิ๊บได้สัมผัส ขณะนั้นเริ่มมีนักท่องเที่ยวให้เห็นบ้าง เพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกว่า ดีแล้วที่มาเที่ยวช่วงนี้ เพราะคนยังไม่หนาแน่นมาก ถ้าดอกซากุระบานแถวนี้จะไม่อาจเรียกได้ว่า “เดิน” แต่จะต้องเรียกว่า “ไหล” ตามกันไปเป็นสายๆ จิ๊บได้แต่พยักหน้า นึกภาพคนมหาศาลออกเลยทีเดียวหรือนี่อาจเป็นเพียงคำปลอบใจที่มาเที่ยวก่อนซากุระบานก็เป็นได้

จิ๊บบอกว่า เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณวัดเคนนินจิ ทั้งที่มีผู้เข้าชมเดินไปมาพอสมควรบ้างแล้ว หากสิ่งที่สัมผัสได้ในทันทีคือ ความเงียบสงบ และความเย็นสบาย และแม้ซากุระจะยังไม่บาน แต่ก็เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นดอกบ๊วยบานสวยสะพรั่งเต็มต้น

มองผ่านตัวตนที่สวนเซน กับวาราบิโมจิ

 

ก่อนจะเล่าเรื่องวัดเคนนินจิ ขอพูดถึงดอกบ๊วย (Ume) สักนิด สมัยโบราณหรือสมัยนาราเป็นต้นมา ก่อนที่จะมีการชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ หรือที่เรียกว่า ฮานามิ (Hanami)นั้น เมื่อพูดถึง “ดอกไม้” จะหมายถึงดอกบ๊วยสำหรับซากุระมาได้รับความนิยมในสมัยหลังหรือตั้งแต่สมัยเฮอันเป็นต้นมา

เมื่อเข้ามาในวัด ได้เดินชมภาพวาดสมัยโบราณในห้องต่างๆ จนมาถึงโบสถ์ ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่า Hattou ต้องตกตะลึงกับความอลังการของภาพเขียนขนาดใหญ่ที่ติดอยู่บนเพดาน

ในปี 2002 เพื่อเป็นการรำลึกถึงท่านโยเซที่จากไปครบ 800 ปี ได้มีจิตรกรชาวญี่ปุ่นนาม Koizumi Junsaku วาดภาพมังกรคู่เป็นการวาดด้วยหมึกโบราณบนกระดาษญี่ปุ่นแบบพิเศษขนาด 11.4X15.7 เมตรเนื่องจากเป็นภาพที่มีขนาดใหญ่มาก จึงใช้เวลาวาดถึง 2 ปี ภาพนี้ได้ถูกนำมาติดบนเพดานภายในโบสถ์ของวัดแห่งนี้ นับเป็นจุดที่ผู้คนจากหลากหลายประเทศให้ความสนใจมาชมจำนวนมาก

มองผ่านตัวตนที่สวนเซน กับวาราบิโมจิ

 

วัดเคนนินจิเป็นวัดนิกายเซนที่สำคัญภายในวัดมีสวนแบบเซนที่สวยงาม เรียบง่ายและมีพลังแห่งธรรมชาติอย่างแท้จริง พระแห่งนิกายเซนได้กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่เกิดจากความเรียบง่ายนั้น เป็นความหรูหราอย่างที่สุดแล้ว”จิ๊บเองก็เชื่อว่าจริงตามนั้นอย่างที่สุด

สวนหินที่วัดแห่งนี้ มีหลักการจัดจากรูปทรงพื้นฐานคือวงกลม สามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยมโดยสวนหินแต่ละจุดมีความแตกต่างกัน นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนควรมีเวลาที่ไม่เร่งรีบนัก เพื่อไม่พลาดการนั่งชมความเรียบง่ายของธรรมชาติที่นี่

“เมื่อนั่งลงสักครู่แล้ว จิตใจที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสารพันและความคิดที่พลุ่งแล่น จะกลับสงบลงอย่างง่ายดาย” จิ๊บเล่า

มองผ่านตัวตนที่สวนเซน กับวาราบิโมจิ

 

เมื่อเดินเลาะมาตามระเบียงทางเดิน หลังจากเดินชมด้านหน้าของวัดแล้ว จะพบกับสวนโชออนเท (The garden of the sound of thetide) เมื่อมองไปจะพบหินตั้งอยู่ 3 ก้อน โดยก้อนหนึ่งแสดงถึงพระพุทธเจ้า อีก 2 ก้อนแสดงถึงพระสงฆ์นิกายเซน 2 รูป วัดปลูกต้นชาโดยรอบทุกปีจะมีงานพิธีชงชาแบบดั้งเดิมด้วย

“ใครมาเที่ยววัดเคนนินจิ จะได้พลังจากธรรมชาติและความสงบแห่งธรรมชาติติดตัวกลับออกมา ด้วยหัวใจที่สดชื่น”

อีกวันหนึ่งยังพอมีเวลาว่าง จิ๊บบอกว่าตั้งใจจัดเต็ม ไปหาขนมอร่อยๆ กินกับเพื่อนตั้งใจมาก ซัดเค้กไป 4 ชิ้น! เดินออกจากร้านแล้วจึงเพิ่งเห็นว่าร้านข้างๆ เป็นร้านขนมน้ำชาญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มีสวนสวยงามมากม้เป็นร้านเล็กๆ แต่ก็น่านั่งที่สุด อิ่มมากแต่ก็พากันเดินเข้าไป ไม่ผิดหวังเลย

 

ทั้งคู่สั่งชาเขียว (Matcha) แบบดั้งเดิมพร้อมขนมวาราบิโมจิมากิน ได้ชมสวนญี่ปุ่นที่มีต้นบ๊วยดอกสีชมพูบานเต็มต้น วันนั้นมีแดดอน อุณหภูมิเย็นสบาย สระน้ำใสแจ๋วมีปลาคาร์ปแหวกว่าย เรียกว่า หลุดเข้าไปอีกในอีกโลกหนึ่ง ในชั่วขณะที่เราอยู่ที่นี่

การมาชมสวนเซนที่วัดเคนนินจิและการได้ลิ้มรสชาเขียวกับขนมวาราบิโมจิแสนอร่อยในครั้งนี้ สิ่งที่ได้คือ ความสงบแห่งใจ และการได้ใกล้ชิดกับตัวตนของตนมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

ชมวัดเคนนินจิ

ใครมีเวลามาเที่ยวเกียวโต มาเดินเล่นริมแม่น้ำคาโมหรือแถวๆ กิองแล้วอย่าลืมลองเข้ามาชมวัดเซนที่เก่าแก่ที่สุดแห่งนี้ วันเวลาที่เข้าชม 1 มี.ค.-31 ต.ค.(10.00-16.30 น. วัดปิด 17.00 น.)1 พ.ย.-28 ก.พ. (10.00-16.00 น.วัดปิด 16.30 น.) ค่าธรรมเนียมเข้าชม บุคคลธรรมดา 500 เยน นักเรียนชั้นมัธยม 300 เยน วัดจะปิดทุกปีวันที่ 28-31 ธ.ค.

วาราบิโมจิแสนอร่อย

สำหรับร้านนี้มีชื่อว่า Rakusyouตั้งอยู่ในตรอกเล็กๆ ชื่อ Nene nomichi อยู่ระหว่างทางเดินจากศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Jinja) ไปวัดน้ำใส(Kyomizudera) ใกล้ๆ ร้านมีวัดที่น่าแวะชมอีกแห่งหนึง่ คอื วดั Kodaiji แม้ทางเดินลัดเลาะไปมา แต่หาไม่ยาก เพราะเป็นทางเดินนักท่องเที่ยวร้านเปิดทุกวันตลอดทั้งปีตั้งแต่09.30-18.00 น.