‘อาหารอร่อย’ 25 เมืองของโลก 5 เมืองในไทย แรงดึงดูดใจเมืองท่องเที่ยว

เรื่อง : พริบพันดาว

เมื่อผู้เดินทางจากทั่วโลกมองหาจุดหมายถัดไปสำหรับทริปของพวกเขา ส่วนใหญ่ 75% เลือกเดินทางไปยังสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารและเครื่องดื่มรสเลิศ

ทั้งนี้ ผู้เดินทางกลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เกิดในช่วงระหว่างปี 2523 ถึงปี 2543 นับเป็น กลุ่มผู้บริโภคที่กลายเป็นที่สนใจอย่างมากของ นักการตลาดทั่วโลก ด้วยเหตุที่คนกลุ่มนี้มีลักษณะความคิด ความเชื่อที่แปลกใหม่

คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นด้านอาหารสูงที่สุด โดย 79% ของผู้เดินทาง ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-34 ปี วางแผนที่จะเดินทางไปสถานที่สักแห่ง ซึ่งเปี่ยมด้วยสุนทรีย์แห่งรสชาติอาหาร

นอกจากนี้ ผู้เดินทางเกือบ 1 ใน 10 คน หรือ 8% ที่เดินทางในปีที่แล้ว ได้เดินทางเพื่อเฟ้นหาอาหารแสนอร่อย ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดโปรดของพวกเขา และบางส่วนหรือ 7% ก็ได้ออกเดินทางตามความหลงใหลของตนในการลิ้มลองไวน์รสเลิศ ผู้เดินทางกลุ่มมิลเลนเนียลมีความกระตือรือร้นที่สุดในการเสาะแสวงหาอาหารอร่อยใหม่ๆ มาลิ้มลองระหว่างเดินทาง ซึ่งผู้เดินทาง 1 ใน 10 คนของกลุ่มมิลเลนเนียล 10% ผสานความชื่นชอบของพวกเขาที่มีต่อสตรีทฟู้ดเข้ากับทริปเดินทาง หากเทียบกับกลุ่มผู้เดินทางที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป มีเพียง 4% เท่านั้นที่มีพฤติกรรมเช่นนี้

เมืองยอดนิยมด้านอาหาร 25 เมืองทั่วโลก และ 5 เมืองของไทย

บุ๊กกิ้งดอทคอม (Booking.com) ได้เปิดเผยผลสำรวจพบ 3 ใน 4 (ร้อยละ 75) ของผู้เดินทางทั่วโลกว่า เมื่อต้องตัดสินใจเลือกจุดหมายสำหรับทริปเดินทางครั้งต่อไป พวกเขาอยากเดินทางไปยังจุดหมายที่มีชื่อเสียงในเรื่องเครื่องดื่มและอาหารเลิศรส โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่บุ๊กกิ้งดอทคอมรวบรวมจากผู้ตอบแบบสำรวจ 12,781 คน ใน 13 ประเทศช่วงเดือน ก.ย. 2559 ทั้งนี้ผู้ตอบแบบสำรวจจะต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และเคยเดินทางอย่างน้อยครั้งหนึ่งในปี 2559 รวมถึงมีแผนที่จะเดินทางอย่างน้อยครั้งหนึ่งในปี 2560 อนึ่ง ผู้ตอบแบบสำรวจทุกท่านจะต้องมีส่วนในขั้นตอนตัดสินใจเมื่อวางแผนการเดินทางของตนเอง

จึงไม่น่าแปลกใจที่การท่องเที่ยวเพื่อไปลิ้มลองอาหารใหม่ๆ นั้น กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความสุขที่ได้จากการลิ้มลองเมนูใหม่ๆ สุดแสนอร่อยในระหว่างการเดินทางนั้นยังช่วยให้ทริปนั้นๆ เป็นทริปที่น่าจดจำยิ่งขึ้นอีกด้วย บุ๊กกิ้งดอทคอมได้เผยจุดหมายยอดนิยมทั่วโลก ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องอาหาร โดยในการจัดอันดับ 25 เมืองยอดนิยมด้านอาหารทั่วโลก โดยอ้างอิงจากการบอกต่อของผู้เดินทางทั่วโลกที่จองผ่านบุ๊กกิ้ง ดอทคอม ซึ่งแต่ละจุดหมายนั้นจะต้องได้รับการบอกต่อเรื่องอาหารอย่างน้อย 300 คำแนะนำ ในระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2559-31 ธ.ค. 2559

จุดหมายสุดโปรดของนักชิม ตัวเลือกยอดนิยมทั่วโลก จากการรีวิวกว่า 118 ล้านรายการของผู้เดินทาง ข้อมูลยังเผยให้เห็นว่าจุดหมาย 10 อันดับแรกที่โดดเด่นด้านอาหารส่วนใหญ่แล้ว ล้วนอยู่ในโซนเอเชียและอเมริกาใต้ โดยมีประเทศกรีซ ออสเตรเลีย และสเปน รวมอยู่ด้วย ส่วนจุดหมายซึ่งติด 3 อันดับแรกนั้น ประกอบด้วย ฮ่องกง ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องติ่มซำ เซาเปาโลที่มีบาร์บีคิวสไตล์บราซิเลียนที่อร่อยไม่แพ้ใคร และโตเกียว ซึ่งมีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์มากกว่าในนิวยอร์กและปารีสรวมกันเสียอีก

25 เมืองยอดนิยมด้านอาหารทั่วโลก แนะนำโดยผู้เดินทางซึ่งจองผ่านบุ๊กกิ้งดอทคอม 1.ฮ่องกง 2.เซาเปาโล ประเทศบราซิล 3.โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 4.เอเธนส์ ประเทศกรีซ 5.กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 6.เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย 7.กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 8.กรานาดา ประเทศสเปน 9.ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐ 10.บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา 11.สิงคโปร์ 12.วอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ 13.ปอร์โต ประเทศโปรตุเกส 14.บาเลนเซีย ประเทศสเปน 15.ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี 16.มิลาน ประเทศอิตาลี 17.ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย 18.คราคูฟ ประเทศโปแลนด์ 19.อิสตันบูล ประเทศตุรกี 20.ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส 21.มิวนิก ประเทศเยอรมนี 22.โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก 23.เซบีญา ประเทศสเปน 24.บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม 25.โรม ประเทศอิตาลี

ส่วนการลองลิ้มชิมรสทั่วไทย อาหารสุดโปรดของคนท้องถิ่น 5 เมืองยอดนิยมด้านอาหารในประเทศไทย จากคำแนะนำของผู้เดินทางชาวไทย ซึ่งจองผ่านบุ๊กกิ้งดอทคอม คือ 1.พัทยา ที่มีชื่อเสียงด้านเมนูอาหารทะเลสดใหม่ 2.ภูเก็ต ซึ่งโด่งดัง ในเรื่องอาหารใต้รสชาติเผ็ดร้อน 3.กรุงเทพฯ ที่พรั่งพร้อมและเรียงรายไปด้วยร้านอาหารชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลกพร้อมให้คุณเลือกลิ้มลองได้ตามความต้องการ 4.กระบี่ และ 5.เชียงใหม่

เปแปน แรฟเวอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด Booking.com กล่าวว่า การท่องเที่ยวพร้อมลิ้มลองอาหารนั้นเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม โดยผู้เดินทางจำนวนมากวางแผนการเดินทางโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อการสำรวจและชิมอาหารใหม่ๆ ตลอดจนมองหาวิธีที่จะดื่มด่ำวัฒนธรรมท้องถิ่นซึ่งมีอาหารเป็นส่วนสำคัญ

"โดยผู้เดินทางไม่ได้ต้องการเพียงแค่สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารในร้านสุดหรูเท่านั้น แต่พวกเขายังอยากลองชิมอาหารท้องถิ่นริมทางอีกด้วย การที่เราใช้รีวิวจากผู้เดินทางจริง ซึ่งมีมากกว่า 118 ล้านรายการบนบุ๊กกิ้งดอทคอม และยังคงเพิ่มขึ้นทุกวันนั้น ทำให้เราสามารถช่วย ผู้เดินทางให้ค้นพบสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับโจทย์ การเดินทางแต่ละครั้ง ซึ่งได้รับการแนะนำโดย ผู้เดินทางท่านอื่นๆ รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับย่านที่ยอดเยี่ยมที่สุดและเมนูที่อร่อยที่สุดไปจนถึงการค้นพบขุมทรัพย์ด้านอาหารที่ซ่อนอยู่นอกเหนือจากจุดหมายเดิมๆ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารที่ใครๆ ก็ทราบกันดีอยู่แล้ว"

มุมมองนักวิชาการสายการท่องเที่ยวและการโรงแรม

ภวภาวัน ล้อมมหามงคล ประธานสาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร วิเคราะห์ว่า อาหารน่าจะเป็นตัวดึงดูดใจนักท่องเที่ยวในการตัดสินใจมาเที่ยวอยู่เหมือนกัน ซึ่งอาหารก็ต้องเป็นอาหารที่นักท่องเที่ยวสามารถกินได้และเข้าใจวัฒนธรรม

"ในการสร้างมูลค่าให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่ามาแล้วพลาดอาหารชนิดนี้ไม่ได้ อย่างมาอีสานก็ต้องเป็นส้มตำในแต่ละที่ สิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจริงๆ ก็คือสถานที่ แต่อาหารจะเป็นตัวส่งให้โดดเด่นมากขึ้น และให้นักท่องเที่ยวเริ่มมองในสิ่งแปลกใหม่สำหรับแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีอาหารพิเศษเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งก่อให้เกิดคุณค่าและมูลค่าความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่และการให้บริการ"

อาหารการกิน ซึ่งมีส่วนประกอบในการตัดสินใจให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในสถานที่นั้นๆ ภวภาวัน ชี้ว่า ตอนนี้เรียกว่าเป็นเทรนด์ เรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองมีเพิ่มมากขึ้น สื่อโซเชียลมีเดียหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ก็มีส่วนช่วย

"นักท่องเที่ยวจากเดิมที่อาศัยบริษัททัวร์ แต่ปัจจุบันทุกคนสามารถไปไหนมาไหนได้ง่าย และโลกอินเทอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวิร์ก ค่อนข้างที่จะทั่วถึงและกระจายตัว จึงเป็นอิทธิพลอย่างหนึ่งให้คนเดินทางเองได้ง่ายขึ้น คนที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษเป็นเบื้องต้นอยู่แล้วเขาก็เดินทางง่ายในประเทศที่ปลอดภัย

"ถ้าในเรื่องของอาหารการกิน รวมไปถึงเรื่องการใช้โซเชียลมีเดีย อาหารน่าจะรวมอยู่ในเรื่องของปัจจัย 4 การกิน โรงแรมที่พัก เป็นเบสิกของนักเดินทางหรือนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ถ้ามองในเชิงวิชาการเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ สำหรับเรื่องพวกนี้ เพียงแต่ว่ามีความเปลี่ยนแปลง คือเมื่อก่อน "กินหรูอยู่ดี" อยู่โรงแรมกินในโรงแรม แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวไม่ต้องใช้เงินเยอะแล้ว โลว์คอสต์ก็เยอะ เดินทางสะดวกขึ้น และเข้าถึงสื่อและสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น"

ภวภาวัน บอกว่า โดยเฉพาะไต้หวันหรือฮ่องกงจะเน้นของกินเป็นพิเศษ และจะไม่โฟกัสไปที่บรรดาภัตตาคารหรูต่างๆ

"อาจจะมีบ้าง แต่จะเน้นว่าไปแล้วกินอะไร น่าจะเป็นเรื่องของความแปลกใหม่ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เมื่อก่อนพอไปกับทัวร์เขาก็กินข้าวในโรงแรม หรือกินแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ซึ่งบ่อยๆ ก็เบื่อ นักท่องเที่ยวในปัจจุบันต้องการเรียนรู้ถึงชีวิตจริงๆ วัฒนธรรมท้องถิ่น ไปเดินตลาดต่างๆ หรือไนต์มาร์เก็ต ก็ได้เห็นความเป็นจริง เห็นอะไรที่ไม่มีขายในห้าง ได้กินได้เห็นอาหารการกินที่ไม่เคยกินมาก่อน ได้เห็นอะไรที่เป็นของพื้นถิ่นจริงๆ ถ้า นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ ก็ช่วยกระตุ้นเขาได้เหมือนกัน

"อย่างเช่นนักท่องเที่ยวมาเมืองไทย สิ่งที่ ชาวต่างชาติคิดถึงก็คือผัดไทยกับส้มตำ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจะไปหาของกินริมทาง อย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิก็จะเจอนักท่องเที่ยวเยอะมาก เพราะเขาสนุกกับการได้เลือกซื้อได้ลองชิม อย่างเช่นอาหารตามรถเข็น นักท่องเที่ยวต่างชาติจะสนใจมากขึ้น น่าจะเป็นเรื่องการเรียนรู้วัฒนธรรมและอยากเห็นของกิน แต่ที่คิดว่าเป็นปัญหาก็คือวิธีการกิน กินอย่างไร อาหารบางอย่างก็มีน้ำจิ้มหรือกินให้ถูกวิธี จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสนุกกับการกินได้อย่าง มีอรรถรสมากขึ้น บางทีแปลกแต่กินไม่ได้ ทำให้ไม่ประทับใจ รู้สึกไม่อร่อย" n