posttoday

เดินรู้เส้นทางแห่งความสำเร็จ ของ ดร.ถาวร พรประภา

30 กรกฎาคม 2560

“อนุสรณ์เมื่อครั้ง เยาว์วัย อยู่เอย เคยขี่ควบขับไป ทั่วหล้า ลำบากบุกบั่น มิย่อ ดังหนึ่งอัศดรข้า ช่วงใช้นายตน” วรรคตอนจากกลอนหนึ่งที่บรรยาย

โดย...โยโมทาโร่

“อนุสรณ์เมื่อครั้ง เยาว์วัย อยู่เอย เคยขี่ควบขับไป ทั่วหล้า ลำบากบุกบั่น มิย่อ ดังหนึ่งอัศดรข้า ช่วงใช้นายตน” วรรคตอนจากกลอนหนึ่งที่บรรยายถึงช่วงชีวิตคนกับจักรยานคันเก่า ของ ดร.ถาวร พรประภา ผู้สร้างอาณาจักรสยามกลการจนยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน ที่มานะบากบั่นสร้างตัวด้วยจักรยานคันเล็กๆ ใช้เดินทางติดต่อเจรจาค้าขายเมื่อครั้งสมัยยังเป็นวัยรุ่น และจักรยานคันนี้เองยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ที่ หอเกียรติภูมิ ดร.ถาวร พรประภา ตั้งอยู่ในบริเวณสวนพฤกษชาติถาวร-อุษา ธานี พัทยา ใกล้กับสยามคันทรี คลับ พัทยา

หอเกียรติภูมิสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับคุณความดีของ ดร.ถาวร และลูกหลานสกุลพรประภา ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยภายใต้ชื่อ สยามกลการ และเป็นผู้ที่สร้างคุณประโยชน์และตอบแทนสังคมนานัปการ ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมทรงไทยสมัยใหม่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเปิดเป็นห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ อีกส่วนเป็นห้องประชุมสัมมนาใช้เป็นที่จัดประชุมและปฐมนิเทศพนักงานใหม่ก็จะมาจัดกันในสถานที่แห่งนี้

เดินรู้เส้นทางแห่งความสำเร็จ ของ ดร.ถาวร พรประภา

แต่ส่วนที่อยากชวนทุกคนได้มาศึกษาเรียนรู้ก็คือส่วนพิพิธภัณฑ์ หลายคนอาจจะคิดว่ามีแค่การจัดแสดงประวัติของ ดร.ถาวร แต่ที่จริงแล้วมีอะไรแฝงอยู่ในเรื่องราวของชีวิตท่านมากกว่านั้นมากนัก ตั้งแต่แนวคิดปรัชญาชีวิตของคนหนึ่งคนที่ทำให้เราเห็นภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย การเติบโตของธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทยในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งการได้ชมรถนิสสันรุ่นแรกๆ ที่นำมาขายในประเทศไทย

เมื่อเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์จุดเด่นที่สุดของโซนนี้ก็คือโถงกลาง มีรถนิสสันสีฟ้าตั้งกลางโดดเด่นท่ามกลางภาพวาดบุคคลต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีเพียงภาพของ ดร.ถาวร และคนอื่นๆ ในครอบครัวเท่านั้น แต่เป็นภาพของบุคคลที่มีพระคุณกับ ดร.ถาวร ที่เคยให้ความช่วยเหลือทำให้ท่านประสบความสำเร็จในชีวิต เพื่อแสดงถึงความกตัญญูต่อบุคคลเหล่านี้ เพราะใจความหนึ่งที่ ดร.ถาวร ยึดมั่น “ความกตัญญูนำมาซึ่ง ความสุข ความเจริญ ความรัก และความสำเร็จ” ดังนั้นท่านจึงสอนลูกหลานให้ความกตัญญูรู้คุณและรู้จักตอบแทนต่อแผ่นดิน

เดินรู้เส้นทางแห่งความสำเร็จ ของ ดร.ถาวร พรประภา

ถัดมาเราจะเห็นร้านค้าอะไหล่รถยนต์สมัยก่อนร้านนี้มีชื่อว่า ตั้งท่งฮวด เป็นร้านแรกของสกุลพรประภา ดำเนินกิจการค้าขายอะไหล่รถยนต์มือสองอยู่แถวโรงภาพยนตร์โอเดียนสมัยก่อน และมีจักรยานคันเก่าซึ่งเป็นจักรยานคันแรก สมบัติชิ้นแรกที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของ ดร.ถาวร

ตามประวัติร้านนี้ถือเป็นร้านที่สร้างความรู้ด้านการค้าขาย การติดต่อเจรจาธุรกิจ หรือจะถือเป็นโรงเรียนสอนธุรกิจของ ดร.ถาวร ก็ว่าได้ ตามประวัติเมื่อสมัยท่านยังเด็กได้มีโอกาสติดต่อคุณพ่อ ไปค้าขายในต่างจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง จนอายุได้ 15 ปี ก็กลายเป็นพ่อค้าเต็มตัว รู้จักไปเจรจาซื้อสินค้า รู้จักเปิดประมูลสินค้าและซื้อรถเก่าเอามาขายจนได้กำไรดี จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

ส่วนจักรยานที่เห็นตามประวัติ เล่าว่า ดร.ถาวร หาเงินได้โดยไปซื้อไดนาโมรถจักรยานจำนวนหนึ่งแถว สี่พระยา แล้วนำมาขายต่อแถวเวิ้งนาครเกษม ได้กำไรมาประมาณ 40 กว่าบาท ก็ขอคุณแม่ซื้อจักรยาน คุณแม่ก็อนุญาต จึงได้ซื้อจักรยานคันนี้มาจากบางลำพู กลายเป็นสมบัติชิ้นแรกที่ใช้ทำมาหากินและเก็บไว้เตือนใจลูกหลานจนถึงทุกวันนี้

เดินรู้เส้นทางแห่งความสำเร็จ ของ ดร.ถาวร พรประภา

ถัดไปทางซ้ายของตัวพิพิธภัณฑ์เราจะเห็นตู้โชว์ชุดซามูไร สินค้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ของชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก และมีก้อนหินแร่ เป็นของเก็บสะสมของ ดร.ถาวร ในโซนจะเล่าถึงความเป็นมาถึงความสำเร็จในการเจรจาค้าขายกับชาวญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความมีระเบียบวินัยและความเคี่ยวในการทำธุรกิจอย่างมาก

ในยุคสมัยนั้นคนไทยต่างโจษขานถึงธุรกิจญี่ปุ่นที่มักจะให้มีตัวแทนจำหน่ายชาวไทย แต่เมื่อดำเนินธุรกิจไปได้ในระดับหนึ่งก็จะเข้ามายึดทำเป็นของตัวเอง แต่สำหรับนิสสันที่ ดร.ถาวร เจรจาการค้าเอาไว้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

ดร.ถาวรเมื่อครั้งอายุ 20 ปี มีความคิดที่จะไปเจรจาการค้ากับต่างประเทศ ประเทศแรกที่ไปก็คือประเทศญี่ปุ่น ได้มองเห็นว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีระเบียบวินัย แล้วก็มีความคิดสร้างสรรค์ และมองว่าสินค้าของญี่ปุ่นต่อไปในอนาคตจะเป็นที่นิยมในตลาดโลกอย่างแน่นอน จึงเริ่มเปิดการเจรจาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์นิสสัน กับ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น การเจรจาแรกๆ ดูเหมือนจะไม่ได้รับความเชื่อใจจากชาวญี่ปุ่นมากนัก เพราะด้วยอายุและยังไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น แต่ด้วยความฉลาดและความซื่อตรง ดร.ถาวร เขียนอักษรจีนใส่กระดาษ “เส่งซิม เส่งอี่” แปลว่า ความจริงใจต่อกัน หลังจากนั้นไม่นานการเจรจาก็ประสบความสำเร็จ สินค้าล็อตแรกคือรถบรรทุกนิสสัน 60 คัน ส่งมาขายที่เมืองไทยและตามด้วยรถรุ่นอื่นๆ

เดินรู้เส้นทางแห่งความสำเร็จ ของ ดร.ถาวร พรประภา

แต่ช่วง 7 ปีแรกนิสสันไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เพราะคนยังไม่เชื่อถือในแบรนด์มากนัก แต่ ดร.ถาวร ก็พยายามให้นิสสันติดตลาดในเมืองไทย ภายใต้การดูแลของสยามกลการ และดำเนินธุรกิจอื่นๆ ที่เห็นว่าจะเป็นอนาคตของประเทศ มีการตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในเมืองไทยแห่งแรก ซึ่งเราจะได้เห็นความสำเร็จเหล่านี้ในส่วนจัดแสดงห้องทำงานของ ดร.ถาวร

ซึ่งมีรูปภาพและประวัติความเป็นมาในส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนห้องทำงานจำลองที่ดูเรียบง่าย เต็มไปด้วยหนังสือและเอกสารสำคัญ ซึ่งหนังสือก็มีส่วนสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจและแนวคิดสำหรับ ดร.ถาวร เช่นกัน โดยเฉพาะหนังสือที่ท่านเคยซื้อจากฮ่องกงเรื่อง ทางแห่งความสำเร็จของคนหนุ่ม หนังสือเล่มนี้ได้ให้คติและปรัชญาในการดำเนินชีวิตที่ ดร.ถาวร ยึดถือปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “สวรรค์ได้มอบงานอันยิ่งใหญ่ให้แก่มนุษย์เราต้องยิ้มรับ และพยายามฝ่าฟันอุปสรรคไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ”

ดังนั้น คนที่กำลังท้อแท้ หมดหวัง หมดกำลังใจในการทำธุรกิจ เรามองว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ที่มีแค่การโชว์รถคลาสสิกหายากของนิสสัน ไม่ได้เป็นแค่พิพิธภัณฑ์โชว์ของโบราณ ไม่ได้เป็นแค่พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งเพื่อยกย่องบุคคลเพียงหนึ่งคน แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นให้เขาได้รู้ว่าการดำเนินชีวิตด้วยความ “ซื่อสัตย์ สามารถ ขยัน” นั้นดีอย่างไร ความกตัญญูรู้คุณคนนั้นส่งเสริมชีวิตให้เจริญก้าวหน้าอย่างไร เส้นทางชีวิตของ ดร.ถาวร คือคำตอบที่ดีที่สุดที่เราจะได้ศึกษาไว้เป็นแนวทางการใช้ชีวิตของทุกๆ คนที่ได้มาเยี่ยมเยือน

เดินรู้เส้นทางแห่งความสำเร็จ ของ ดร.ถาวร พรประภา

เดินรู้เส้นทางแห่งความสำเร็จ ของ ดร.ถาวร พรประภา