เซี่ยงไฮ แมนชั่น กรุงเทพฯ แลนด์มาร์คแห่งยุคสมัยใหม่ของเยาวราช

โดย....นิทรา ราตรี ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข

อาคารเก่าอายุกว่า 100 ปี ถูกชุบชีวิตให้กลายเป็นสาวจีนพราวเสน่ห์ในชื่อ เซี่ยงไฮ้ แมนชั่น กรุงเทพฯ อดีตโรงงิ้วและอาคารสูงแห่งแรกในเยาวราชที่ถูกปรับโฉมเป็นโรงแรมบูติกสไตล์จีนยุค 2473 ในเซี่ยงไฮ้ ที่ยังคงเสน่ห์ของไชน่าทาวน์ ผสมกับความหรูหราและทันสมัย เสมือนภาพสาวจีนชุดแดงสุดเย้ายวนที่ต้อนรับผู้มาเยือนที่หน้าประตู

เซี่ยงไฮ้ แมนชั่น กรุงเทพฯ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เยาวราชมานาน 8 ปี ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้วได้สร้างความตื่นเต้นอีกครั้งกับการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ทั้งดีไซน์และสิ่งอำนวยความสะดวก

เริ่มตั้งแต่ล็อบบี้ที่นำนาฬิกาคลาสสิกเรือนยักษ์มาเป็นสัญลักษณ์สำคัญ เพราะเข็มนาฬิกาจะเดินจังหวะเดียวกันกับเวลาเซี่ยงไฮ้

นอกจากนี้ ที่ล็อบบี้ยังมีการสาธิตชงชาจีนแบบต้นตำรับ โดยใบชาจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ซึ่งบรรยากาศแบบจีนร่วมสมัยเป็นปฐมบทที่จะเปิดไปสู่ห้องพักทั้ง 76 ห้อง

ในอดีตพื้นที่ของห้องพักมี 2 ชั้น คือ ชั้น 4 และ 5 ที่ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบชาวอังกฤษ ในโทนสีสว่างอย่างแดง เหลือง และส้ม และเลือกใช้เตียงนอน 4 เสา เพื่อสร้างกลิ่นอายแบบจีนดั้งเดิม

ต่อมาโรงแรมได้ขยายห้องพักไปที่ชั้น 2 และ 3 ออกแบบโดยชาวสิงคโปร์ ซึ่งเน้นความโมเดิร์น ใช้เฟอร์นิเจอร์ทันสมัย ทว่าก็ยังมีระแนงไม้ที่ยังคงความเป็นจีน

สำหรับประเภทของห้องพักมี 3 ประเภท ได้แก่ ซูพีเรียร์ (ดอกบ๊วย) ขนาด 27 ตร.ม. ตั้งอยู่บนชั้น 4 และ 5 ห้องดีลักซ์ (ดอกซากุระ) ตั้งอยู่บนชั้น 3 ภายในห้องมีอ่างอาบน้ำ เมื่อเปิดประตูห้องออกมาจะมีระเบียงกว้าง และมองเห็นบ่อปลาอยู่เบื้องล่าง รวมถึงห้องสวีท (ดอกโบตั๋น) บนชั้น 2 ภายในห้องแบ่งเป็นส่วนห้องนั่งเล่น เตียงนอน อ่างอาบน้ำ ห้องแต่งตัว และห้องน้ำ โดยทุกส่วนที่กล่าวมาไม่มีผนังกั้นแต่อย่างใด จึงเหมาะสมกับคู่รักหรือคู่ฮันนีมูน

นอกจากนี้ ทุกห้องยังฟรีมินิบาร์ (ขนมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) และใครที่มาพักคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวเหงา เพราะโรงแรมอนุญาตให้ตักปลาหางนกยูงจากบ่อมาใส่ขวดโหลแล้วไปไว้ในห้องพักได้

การปรับปรุงครั้งล่าสุดยังได้ขยายห้องอาหารเรดโรส จากชั้น 2 ลงมายังชั้น 1 ซึ่งจากเดิมที่มีเพียง 6 โต๊ะ ได้เพิ่มให้รองรับได้ถึง 100 คน รวมถึงการเพิ่ม สปา บุราส่าหรี ที่ไม่ใช่แค่สปานวดไทยธรรมดา แต่ได้รวม 3 ศาสตร์ ไทย สวีดิช และจีนไว้ด้วยกัน

เมื่อได้สัมผัส ยิ่งรู้ว่าสาวจีนคนนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือล้น ที่แม้จะมองจากภายนอกไม่เด่นชัด แต่หากก้าวเข้าไปจะรับรู้ได้ทุกสัมผัสทั้งตาดูสีสันและงานศิลปะ หูฟังความคึกคักของไชน่าทาวน์ ได้กลิ่นความผ่อนคลายจากสปา และได้รับประทานอาหารจีนจากวัตถุดิบต้นตำรับแต่เสิร์ฟแบบสากล สมกับเป็นแลนด์มาร์คแห่งยุคสมัยใหม่ของเยาวราช