ครบทุกรส จบที่เดียว อุทยานหินเขางู

โดย...พาแลง ภาพ : ภูริต นิวาศะบุตร/คลังภาพโพสต์ทูเดย์

มา จ.ราชบุรี แล้วจะรู้ว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่โอ่ง หรือสาวบ้านโป่งที่ร่ำลือความสวย แต่หากว่าด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่นี่มีไม่น้อยหน้าที่ไหน ยิ่งไปมาสะดวกระหว่างกรุงเทพฯ จะโดยสารด้วยรถไฟแสนคลาสิก หรือจะจับรถตู้ รถทัวร์ มีให้เลือกตามวิสัย และอาทิตย์ต้นปีที่ผ่านมา พาแลงมีโอกาสได้ทะยานออกนอกกรุง เพื่อร่วมวิ่งรายการจอมบึงมาราธอน รายการวิ่งที่ใครๆ ก็กล่าวขานถึงความน่ารักของคนจอมบึง แถมยังคุยโวว่า เส้นทางและบรรยากาศดีสุดๆ

แต่ตามธรรมเนียมก่อนวิ่งจะต้องตระเวนกินและเดินเที่ยวดูของดีของเมืองนั้นๆ ก่อน ซึ่งหนนี้พาแลงได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ที่เคารพให้ไปเดินเที่ยวที่ “อุทยานหินเขางู” ซึ่งอยู่ห่างจากตัว จ.ราชบุรี เพียง 8 กม.เท่านั้น เดิมทีที่นี่เป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินแหล่งสำคัญของไทย แต่นานวันเข้ามีความเสื่อมโทรมของภูมิประเทศ และเดิมที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของศาสนสถานเก่าแก่ เมื่อสัมปทานการระเบิดและย่อยหินถูกยกเลิก ที่แห่งนี้ก็เหมือนเป็นสถานที่ร้าง ต่อมา จ.ราชบุรี จึงพัฒนาพื้นที่เขางูให้เป็นสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดี และเพิ่มการท่องเที่ยวแนวผจญภัยเข้าไปเรียกว่า “เขางู แอดเวนเจอร์ ปาร์ค” ซึ่งกลายเป็นสถานที่สร้างสีสันและความเร้าใจนักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทาย

 

เริ่มกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับพละกำลัง และความสูง ปีนผา โรยตัว เดินสะพานแขวนที่เชื่อมต่อระหว่างเขาแต่ละลูก หวาดเสียวที่เราต้องเดินประหนึ่งแหวกอากาศเพื่อพิชิตยอดเขา ส่วนใครที่ชอบการปีนเขาก็ไม่ควรพลาด ที่นี่มีให้ท้าทายตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงมืออาชีพ เพราะมีระดับความยากง่ายให้เลือกเล่นแล้วแต่ความถนัด

อย่างที่บอกไว้ช่วงต้นว่า ที่นี่มีศาสนสถานสำคัญอยู่หลายแห่ง ในอดีตพื้นที่ทุ่งหน้าอุทยานหินเขางูแห่งนี้เคยเป็นสมรภูมิสู้รบกับเมียนมา มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล โดยเฉพาะสงคราม 9 ทัพ เรียกว่า ทุ่งอรัญญิก เนื่องจากก่อนทำเขื่อน พื้นที่นี้เป็นน้ำท่วมขัง พื้นที่บริเวณรอบอุทยานหินเขางูนี้จึงนับได้ว่าเป็นทุ่งประวัติศาสตร์อีกทุ่งของไทย และด้วยความสมบูรณ์และจำนวนพุทธศิลป์ที่มีอยู่มากที่เขางูนี้ จึงแสดงให้เห็นว่าที่บริเวณถ้ำเขางูนี้น่าจะเป็นศาสนสถานที่สำคัญของดินแดนแถบนี้ เหมือนเมืองสำคัญๆ เช่น เมืองนครปฐมโบราณ ดังนั้นที่นี่จึงเหมาะกับคนที่ชอบเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไม่น้อยกว่าสายแอดเวนเจอร์ อุทยานหินเขางูมีถ้ำฤาษี ถ้ำฝาโถ และถ้ำจีน-จาม แต่ละแห่งอยู่ไม่ไกลกันมาก แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไต่เขาขึ้นไปค่อนข้างสูง และรอบๆ เขาจะเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิง

 

ภายในถ้ำต่างๆ นี้ พบว่ามีพระพุทธรูปจำหลัก หรือพระพุทธรูปที่สลักหินที่ฝาผนังถ้ำอยู่หลายองค์ ซึ่งพระพุทธรูปเหล่านี้เป็นพระพุทธรูปในยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-13) ในถ้ำฤาษีเขางู พระพุทธรูปจำหลักติดผนังถ้ำ เป็นพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาท ปางแสดงธรรมเทศนา ตามแบบพุทธศิลป์สมัยทวารวดี นับเป็นร่องรอยศิลปะสมัยทวารวดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปหินทรายศิลปะสมัยอยุธยาอีกหลายองค์ มีสถานที่หลายแห่งที่น่าสนใจแวะเข้าไปชม เช่น รอยพระพุทธบาท ทำด้วยศิลาแลงประดิษฐานอยู่ในวิหาร ตั้งอยู่บนยอดเขางูสูงประมาณ 128 เมตร ลักษณะเป็นซากอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐถือปูน

ส่วนถ้ำฝาโถ ห่างจากถ้ำฤาษีเขางูไปทางตะวันตกราว 250 เมตร มีภาพสลักบนผนังทิศใต้ ได้แก่ ภาพพระพุทธรูปไสยาสน์ขนาดใหญ่ เหนือขึ้นไปเป็นภาพเทพชุมนุมและภาพปูนปั้นรูปต้นไม้ ด้านทิศเหนือเป็นภาพสลักพระสาวก 2 องค์ องค์ประกอบคล้ายที่ถ้ำจาม คือ เป็นภาพพระพุทธประวัติตอนปรินิพพาน มีงานนมัสการเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 นอกจากนี้ ยังมีถ้ำระฆังและเขาพระบาท ซึ่งมีรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาและเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์เทือกเขางู

ฤดูท่องเที่ยวที่แนะนำคือ ฝนและหนาว สำหรับฤดูร้อนตอนกลางวันที่นี่อากาศค่อนข้างร้อนจัดเพราะเป็นภูเขาหินปูน ต้นไม้จะแห้งเปลี่ยนสีไม่ร่มรื่น โดยเฉพาะแคฝรั่ง ที่ออกเป็นช่อตามโคนก้านใบและตาดอกที่ลำต้นเป็นช่อยาว ดอกสีชมพู-ขาว รูปร่างคล้ายผีเสื้อบานเรียกนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูป ซึ่งหากคุณเดินทางช่วงต้นปี หรืออยากไปโรแมนติกให้ได้ครบทุกรสในช่วงวันแห่งความรักที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะต้นแคฝรั่งออกดอกช่วงผลัดใบแล้วราวเดือน ธ.ค.-พ.ค. หรือหากคุณเดินทางในหน้าร้อน ช่วงเย็นของหน้าร้อนที่นี่ลมจะดีมาก เหมาะแก่การออกกำลังกายในตอนเย็น หรือสามารถล่องแพเพื่อนั่งจิบวิว และละเลียดกับบรรยากาศยามเย็นเพื่อมองเห็นแสงดาวในวันเดือนแรม