posttoday

กระเตงลูกฉบับ 'เที่ยวแบบกรู'

21 มกราคม 2560

ประวัติโดยสังเขปของเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "เที่ยวแบบกรู" ไข่มุก-ภัทรารวีย์ เกตุธีรโรจน์ ที่เปิดตัวครั้งแรก

โดย...ป้าเมย์ ภาพ : เที่ยวแบบกรู

ประวัติโดยสังเขปของเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "เที่ยวแบบกรู" ไข่มุก-ภัทรารวีย์ เกตุธีรโรจน์ ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 โดยความตั้งใจของแม่มุกที่อยากเก็บเรื่องราวของครอบครัว ไว้เป็นความทรงจำของพ่อแม่และน้องเมลลี่ (ลูกสาว) ซึ่งทริปแรกของลูกสาวเริ่มขึ้นเมื่อลูกอายุ 4 เดือน

 "เราพาน้องไปเที่ยวทะเลปราณบุรีเป็นที่แรก ไปใกล้ๆ ก่อนเพื่อดูว่า ลูกเราจะโอเคไหม จากนั้นพออายุได้ประมาณ 9 เดือน เราก็พาเขาขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไปเชียงใหม่ ซึ่งเขาไม่ร้องไห้เลยสักนิดเดียว บนเครื่องเขาไม่เคยร้องไห้ จากนั้นก็พาขึ้นเครื่องบินทุกปี อย่างน้อยปีละ 2 ครั้งให้เขาชิน แล้วเรามีความรู้สึกว่า ลูกสนุก แม้ว่าตอนนั้นเขายังพูดไม่ได้ แต่เขาดูตื่นตาตื่นใจกับสิ่งแวดล้อมที่เห็น เรารู้ว่าลูกแฮปปี้จริง ๆ"

กระเตงลูกฉบับ 'เที่ยวแบบกรู'

 

 เธอยังเล่าว่า ไลฟ์สไตล์การเที่ยวของเธอและสามีไม่ใช่คนเที่ยวหรู แต่จะเลือกไปที่ที่สวย บรรยากาศดี และปลอดภัย ซึ่งครั้งหนึ่งได้พาลูกไปนอนกระท่อมในรีสอร์ทที่ไม่หรูหราเท่านอนโรงแรม แต่ลูกสาวก็ไม่มีอาการงอแง แต่ยังเลี้ยงง่าย และดูสนุกตื่นเต้นสมกับเป็นลูกแม่มุก เฉลี่ยแต่ละเดือน ครอบครัวของเธอเดินทางประมาณ 3-4 ครั้ง หรือเกือบทุกอาทิตย์ ซึ่งจะพาลูกไปทุกครั้ง สำหรับประเด็นนี้แม่มุกแสดงความเห็นว่า พ่อแม่บางคนไม่พาลูกเที่ยว เพราะคิดว่าพอลูกโตมาจะจำอะไรไม่ได้ เธอไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะประสบการณ์ของเด็กจะบันทึกลงในความทรงจำที่ไม่มีวันลืม

 "หลายคนบอกว่าเราทำงานมา 5 วัน ตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ ไม่อยากพักเหรอ แต่สำหรับครอบครัวเราคิดว่า การท่องเที่ยวนั่นแหละคือ การพักผ่อนที่ดีที่สุด แม้ว่าจะเหนื่อยเรื่องการเดินทางแต่ทั้งหมดมันสนุก เหมือนได้ไปชาร์จแบตให้ชีวิตมีแรงต่อไป"

กระเตงลูกฉบับ 'เที่ยวแบบกรู'

 

 แม่มุกตั้งใจทำเพจเที่ยวแบบกรูอย่างจริงจังเมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้รวบรวมเรื่องราวและรูปภาพฝีมือตัวเองลงเพจกระทั่งวันนี้มีคนติดตามมากกว่า 1.7 แสนคน ซึ่งเป็นการแบ่งปันทริปพาลูกเที่ยวแบบเที่ยวเองก่อนจนเมื่อเพจเป็นที่รู้จัก การออกทริปจึงเป็นงานบ้างโดยยังเน้นการเที่ยวแบบครอบครัวอยู่

 เทคนิคการพาลูกเที่ยวสูตรแม่มุกนั้น เริ่มต้นตั้งแต่การเก็บกระเป๋าเดินทางที่ต้องเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ของลูกแบบ 2 เท่าเสมอ เช่น ไปทริป 3 วัน ต้องเตรียมเสื้อผ้าให้ลูก 6 ชุด เผื่อไว้ รวมถึงการวางแผนเดินทางที่ต้องให้ลูกสาวมีส่วนร่วมเสมอ เช่น ให้ลูกเลือกว่าจะไปทะเลหรือภูเขา และต้องพูดให้เขาฟังเสมอว่า วันหยุดนี้จะไปเที่ยวที่ไหนเพื่อให้เขารับทราบและตั้งตารอที่จะไป

กระเตงลูกฉบับ 'เที่ยวแบบกรู'

 

 “บ้านเราจะขับรถเที่ยวมากกว่า เพราะสัมภาระเยอะทั้งกระเป๋าเสื้อผ้า อุปกรณ์ถ่ายภาพและของลูกที่จะเยอะกว่าพ่อแม่อีก อีกอย่างช่วงระหว่างเดินทางตอนกลางวันลูกจะได้นอนบนรถได้ หรือเราไม่ควรจะมีกิจกรรมตอนเที่ยงถึงบ่าย 3 แล้วเพราะเป็นเวลานอนของลูก ซึ่งโรงแรมที่เราเลือกเป็นโรงแรมที่ไหนก็ได้ที่สะดวกพอสำหรับเด็ก เราเคยพาลูกไปนอนเต็นท์แล้ว ดังนั้นรู้สึกว่าเราพักที่ไหนก็ได้ที่เน้นสะอาดและปลอดภัย ที่สำคัญทุกครั้งที่เดินทางเราจะพกยาสามัญประจำบ้านและยาของเด็กไปด้วย รวมถึงประกันการเดินทางที่ต้องซื้อให้ทั้งพ่อแม่ลูกทุกครั้ง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก”

 พะเนินทุ่ง ม่อนแจ่ม เชียงราย เกาะช้าง ชุมพร โขงเจียม และอีกหลายสถานที่ที่พาลูกไป จนสามารถรวบรวม 100 สถานที่ที่พาลูกเที่ยวในปี 2559 ได้อย่างน่าทึ่ง สมกับที่เธอนิยามการเที่ยวแบบครอบครัวไว้ว่า

กระเตงลูกฉบับ 'เที่ยวแบบกรู'

 

 “อย่าให้การมีลูกเป็นอุปสรรคของการเดินทาง พาลูกไปท่องโลกกว้างกันเถอะ” แล้วอยากจะต่อให้ว่า การใช้เวลาร่วมกับครอบครัวเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

 ติดตามการเดินทางของครอบครัวหัวหยองได้ทางเพจ เที่ยวแบบกรู เว็บไซต์ me-story.com และอินสตาแกรม kaimook_maily