posttoday

ฤดูล่า ทะเลหมอก

17 ธันวาคม 2559

เสมือนเป็นธรรมเนียมของคนไทยไปแล้ว ที่เมื่อเข้าฤดูหนาวเมื่อไร คนจะเดินทางไปแอ่วเหนือเมื่อนั้น

โดย...กาญจน์ อายุ

เสมือนเป็นธรรมเนียมของคนไทยไปแล้ว ที่เมื่อเข้าฤดูหนาวเมื่อไร คนจะเดินทางไปแอ่วเหนือเมื่อนั้น โดยเฉพาะแถวๆ ยอดดอยที่กำลังแผ่ไอหมอก กระจายสายลมหนาว และมีอุณหภูมิลดฮวบฮาบสวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นทุกที

ภาคเหนือน่ารัก คนก็คึกคักไปด้วย

1 ใน 9 จังหวัดทางภาคเหนือที่ไม่ค่อยมีใครคิดถึงนักอย่าง “แม่ฮ่องสอน” กลับเป็นไฮไลต์หนึ่งของฤดูกาลนี้ ด้วยความที่เป็นเมืองสามหมอก (ถูกปกคลุมด้วยหมอกทั้งสามฤดู) ขนาดเมืองเล็ก และอยู่ท่ามกลางป่าเขา ทำให้แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองนอกสายตาแต่จะหลงรักโดยไม่รู้ตัว

ฤดูล่า ทะเลหมอก ดอกบัวตองบานรับแดดแรกของวันใหม่

 

ล่าทะเลหมอกหยุนไหล

เมื่อพูดถึงปายจะนึกถึงอะไร แบ็กแพ็กเกอร์ ฝรั่ง ความหนาว ตัวเลข 1,864 โค้ง หรือวลีนิยามที่ว่า ปายช้ำแล้ว แต่ถ้ามองให้ดี มองให้ลึก ปายยังมีอีกมุมที่คนไม่ใคร่สังเกต นั่นคือ ธรรมชาติ อันเป็นตัวตนของเมืองปายที่กำลังจะหายลับไปกับนักท่องเที่ยว อย่างทะเลหมอกหยุนไหล ในชุมชนชาวจีนยูนนาน บ้านสันติชล

หยุนไหลคือสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่งดงามอลังการ หยุน แปลว่า เมฆ และ ไหล แปลว่า มา รวมกันได้ความหมายตรงตัวว่า เมฆมา ที่อธิบายถึงกลุ่มหมอกขนาดมหึมาที่ลอยสูงคลอยอดเขาที่สร้างเป็นจุดชมวิว ซึ่งในช่วงฤดูหนาวจะมีหมอกมากและหนาเป็นพิเศษ โดยทุกวันการันตีว่าเห็น

การขึ้นไปบนจุดชมวิวที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณกิโลเมตรครึ่งต้องใช้บริการรถกระบะของชาวบ้าน (ยกเว้นผู้ที่ค้างแรมในหมู่บ้านจะสามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไปเองได้) ลักษณะเป็นถนนผ่ากลางชุมชน ลดเลี้ยวไปตลอดจนถึงลาดจอดรถ จากนั้นเดินขึ้นบันไดไปอีกหน่อยจะเจอร้านขายชาแบบจีนและด่านเก็บเงิน นอกจากค่ารถกระบะคนละ 30 บาท ยังมีค่าเข้าชมอีกคนละ 20 บาท เป็นค่าธรรมเนียมก่อนออกล่าทะเลหมอก

ฤดูล่า ทะเลหมอก แสงแรก ณ ปางอุ๋ง

 

จุดชมวิวหยุนไหลเป็นลานกว้าง มองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา ซึ่งแต่ละด้านจะสวยต่างกัน ด้านทิศตะวันออกทิศที่พระอาทิตย์ขึ้นจะงดงามมากที่สุด โดยในช่วงเช้ามืดก่อนมีแสงจากขอบฟ้าจะเห็นดาวบนดินจากบ้านสันติชลส่องแสงระยิบแต่ไม่ระยับ จากนั้นแสงที่เห็นชัดจะเริ่มเบลอด้วยม่านหมอกเบาบางลอยปกคลุม หมอกเหล่านั้นเหมือนเป็นตัวเบิกทางให้กองทัพใหญ่ เพราะไม่นานที่เห็นสายหมอก ทะเลหมอกก็ซัดเข้าโถมพื้นดินจนเกือบมองไม่เห็นสิ่งใด มันเคลื่อนตัวแบบไร้ทิศทางจนไม่สามารถคะเนได้ว่า ตรงไหนจะบางตรงไหนจะบัง ตรงไหนจะต่ำตรงไหนจะสูง บางขณะมันก็ลอยปะทะหน้าเหมือนท้าทายให้ยิงเสียงชัตเตอร์ต่อสู้ แต่บางช่วงมันก็หลบหายแล้วเปลี่ยนไปสนทนากับดอกบัวตองเหมือนเพื่อนสนิทที่ห่างหน้าไปนาน

“หยุนไหลสมชื่อ” ฉันคิด

แต่หมอกไม่มีลักษณะนามจึงกล่าวไม่ได้ว่ามันมากมายขนาดไหน มันมากมายจนกลายเป็นทะเล และอยู่หนาแน่นจนไม่หวั่นพระอาทิตย์ วันนั้นกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไม่ผิดเพี้ยน แสงแรกสาดอาบโลกตามเวลา เปลี่ยนทะเลสีขาวให้กลายเป็นทะเลสีทองตัดกับทิวเขาสีฟ้า เป็นภาพที่วัดไม่ได้ว่างดงามอย่างไรเหมือนกับความรู้สึก อาจจะใช้คำว่า สวย งาม อลังการ มหัศจรรย์ หรือเหนือความคาดหมายก็คงใช้ได้ทั้งนั้น ภาพลักษณ์ของปายในห้วง 5 ปีที่ผ่านมาทำให้หมดความตื่นเต้นแบบไม่เหลือ แต่ทะเลหมอกตรงหน้าทำให้คิดถึงปายที่เป็นปาย จนต้องกลับไปทบทวนใหม่อีกทีว่า ตัวตนของปายคือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าหรือร้านเหล้าที่เปิดอยู่ในเมือง เราเลือกมองและเลือกดื่มด่ำได้โดยไม่คิดถึงข้อครหาในใจ

ฤดูล่า ทะเลหมอก นักท่องเที่ยวแห่นอนเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำปางตอง

 

“ปายก็จะยังคงเป็นปายในความทรงจำ” ฉันรู้สึก

ไอหมอกเหนือปางอุ๋ง

ปางอุ๋งคือชื่อในวงเล็บของโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) เกิดขึ้นจาก ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเห็นว่า บริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองใหม่และฝายปางอุ๋ง เป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นเวลาหลายปีแล้ว สภาพป่าไม้ไม่สามารถที่จะฟื้นตัวขึ้นเองตามธรรมชาติได้ทันกับความต้องการในด้านอุปโภคบริโภค การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และขาดสมดุลทางระบบนิเวศ ถ้าปล่อยให้สภาพการณ์เป็นไปเช่นนี้ก็จะมีผลเสียหาย และกระทบกระเทือนสู่บริเวณลุ่มน้ำแม่สะงา ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และนิเวศวิทยา พระองค์จึงทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับ พล.อ.ปิ่น ธรรมศรี หัวหน้าคณะทำงานส่วนพระองค์ในขณะนั้น เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2527 ว่า

“...ให้มีการปรับปรุงสภาพป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองใหม่และฝายปางอุ๋ง ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม...”

ฤดูล่า ทะเลหมอก ถ่ายภาพแสงสุดท้ายบนยอดภูชี้เพ้อ

 

โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ได้เข้าดำเนินการกิจกรรมเกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพป่าและปรับปรุงระบบนิเวศ มาตั้งแต่ปี 2528 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ การปลูกป่าในรูปแบบต่างๆ ทั้งการปลูกป่าทั่วไป ปลูกไม้ใช้สอย ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ปลูกหวายตามแนวพระราชดำริ ปลูกป่าปรับปรุงระบบนิเวศ การปลูกป่าเปียก รวมเนื้อที่ 20,710 ไร่ การจัดทำแนวกันไฟ การจัดทำฝายต้นน้ำชะลอความชุ่มชื้น รวมถึงการส่งเสริมการจัดทำโครงการธนาคารอาหารชุมชนเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร ซึ่งส่งผลทำให้ป่ามีความสมบูรณ์ ระบบนิเวศกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง นอกจากนี้โครงการยังได้พัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของโครงการอยู่บนพื้นที่สูงมีทัศนียภาพป่าสนสามใบ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

ในช่วงเช้ามืดของฤดูหนาว อ่างเก็บน้ำจะเต็มไปด้วยหมอกลอยต่ำอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งเป็นอีกมุมมองของการชมหมอก ที่โดยทั่วไปตัวคนจะอยู่บนยอดเขาแล้วมองลงมา แต่คราวนี้คนกับหมอกอยู่ในระนาบเดียวกัน หากเช่าเรือไม้ไผ่ที่ไม่มีหลังคาและกราบเรือให้นายท้ายเรือล่องไปกลางอ่างเก็บน้ำ จะเป็นวิธีที่จะได้สัมผัสหมอกแบบนำตัวเข้าไปอยู่ในม่านหมอกได้อย่างน่าทึ่ง

“เหมือนในนิทาน” ฉันจินตนาการ

นอกจากหมอกที่ทำให้ตื่นใจ แนวต้นสนริมอ่างเก็บน้ำยังน่าตื่นตา มันอยู่ฝั่งตรงข้ามของทิศตะวันออกทำให้ลำแสงเล็ดลอดจากต้นและกิ่งใบเปล่งประกายแตกแฉกเหมือนในภาพวาด โดยใต้ป่าสนนั้นเป็นลานกางเต็นท์ที่ยากแก่การจับจอง เพราะในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมากกว่า 1 แสนคน โดยเฉพาะในหน้าหนาว

ฤดูล่า ทะเลหมอก จุดชมวิวทะเลหมอกบนความสูง 1,818 ม.

 

ปางอุ๋ง ตั้งอยู่ที่บ้านรวมไทย ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กม. ได้รับสมญานานว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมือนนัก เพราะที่นี่เป็นโครงการพระราชดำริที่ได้เปลี่ยนไร่ฝิ่นให้เป็นสวนดอกไม้ เปลี่ยนจากเขาหัวโล้นให้เป็นป่า และเปลี่ยนความหิวโหยให้ชาวเขามีชีวิตที่ยั่งยืนคู่กับธรรมชาติ ปางอุ๋งจึงไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวป๊อปปูลาร์ แต่ยังเป็นพื้นที่ศึกษาการพัฒนาตามหลักความยั่งยืน

ภูชี้เพ้อ ถึงขั้นเพ้อถึงเธอ

ไม่อาจเรียกว่าแหล่งท่องเที่ยวได้เต็มปาก เพราะเขตของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ใน อ.ขุนยวม ที่ตั้งของภูชี้เพ้อ ไม่สามารถเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้เต็มรูปแบบ แต่สามารถเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ได้แบบไม่ผิดกฎเกณฑ์

ภูชี้เพ้ออยู่บริเวณเดียวกับทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ ซึ่งหมดช่วงเบ่งบานแล้ว เข็มทิศจึงเบนไปที่ภูชี้เพ้อที่อยู่ก่อนถึงทุ่งดอกบัวตอง 5 กม. ข้อมูลระบุว่า ยอดภูมีระดับความสูง 1,818 ม. จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดวิวแห่งใหม่ของขุนยวม ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ในการเดินทางหรือเหมาของคนในพื้นที่ขึ้นไป (โทร. 06-1529-2278) เส้นทางลัดเลาะไปตามไหล่เขาประมาณ 7 กม. และเมื่อไปจนสุดทางแล้วต้องขึ้นบันไดเดินต่อไปอีกจนถึงยอดภู จากนั้นเมื่อก้าวไปถึงจุดที่สูงที่สุด วินาทีนั้นจะเข้าใจความหมายของชื่อภูอย่างลึกซึ้งว่า ภูชี้เพ้อ หมายถึง สวยจนเพ้อ หรือเหนื่อยจนเพ้อ กันแน่

ฤดูล่า ทะเลหมอก นักท่องเที่ยวจำ นวนมากแห่ไปสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอย

 

 

“เหนื่อยนั่นแหละถูกแล้ว” ฉันตอบ

ทิวทัศน์จากด้านบนจะมองเห็นแนวเขาสลับซับซ้อน เช่น ดอยอินทนนท์อยู่ลิบๆ ทางซ้าย และดอยแม่อูคอเหลืองอร่ามอยู่ทางขวา โดยในช่วงเช้ามืดจะมีทะเลหมอกหนาจัดอวดโฉมตระการตา มีพระอาทิตย์กลมโตเป็นไข่แดง และมีลมหนาวปะทะร่างให้สะใจตลอดเวลาที่อยู่บนนั้น

ภูชี้เพ้อจึงเป็นอันซีนเฉพาะผู้ที่ไปไม่ถึงเท่านั้น เพราะตอนนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน กำลังโปรโมทให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างดอยแม่อูคอและจากขุนยวมขึ้นมา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแห่งใหม่ที่ธรรมชาติได้คัดเฉพาะคนรักษ์ธรรมชาติตัวจริงด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว

ทะเลหมอกน่ารัก คนก็คึกคักไปด้วย

กลายเป็นเทรนด์ของวัยรุ่นยุคนี้ที่หันมาเที่ยวธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะสถานที่ที่ถ่ายรูปสวยเหมาะแก่การโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย (ทั้งสามแห่งมีสัญญาณมือถือชัดแจ๋ว) และเป็นสถานที่ใหม่ที่ทำให้เป็นคนแรกที่รีวิว ซึ่งเทรนด์เหล่านี้ดีต่อการท่องเที่ยว และเชื่อว่าวัยรุ่นจะตระหนักรู้พอที่จะไม่ทำลายสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นประเด็นดราม่า ทว่าจะเป็นพลังชักชวนพวกพ้องให้ออกไปสัมผัสธรรมชาติกันมากขึ้น

ฤดูล่า ทะเลหมอก ทะเลหมอกบนภูชี้เพ้อ

 

ฤดูล่า ทะเลหมอก นักท่องเที่ยวต่างเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นบนจุดชมวิวหยุนไหล

 

ฤดูล่า ทะเลหมอก ความสวยงามที่เห็นแล้วต้องเพ้อ

 

ข่าวล่าสุด

กกต.ประกาศ ยอดผู้สมัครสส. 77 จังหวัด วันแรก จำนวน 3,092 คน