พักร้อนฉบับชาววัง
ฤดูร้อนปีนี้เปลี่ยนไปเมื่อได้ไปเยือนพระราชวังฤดูร้อน หนึ่งคือ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ริมชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี
โดย...กาญจน์ อายุ
ฤดูร้อนปีนี้เปลี่ยนไปเมื่อได้ไปเยือนพระราชวังฤดูร้อน หนึ่งคือ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ริมชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี และสอง พระจุฑาธุชราชฐาน บนเกาะสีชัง จ.ชลบุรี สถานที่อันทรงคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปชื่นชม
ความเรียบง่าย : พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
ไปหัวหินไม่รู้กี่ร้อนแต่ไม่เคยไปพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จนกระทั่งร้อนนี้บนเส้นทางหัวหิน-กรุงเทพฯ ป้ายบอกทางเลี้ยวขวาพระราชนิเวศน์มฤคทายวันชัดเจนกว่าทุกที จึงไม่ขัดสัญชาตญาณเลี้ยวเข้าไปในค่ายพระราม 6 แล้วจอดรถหน้าทางเข้าพระราชวัง
เริ่มน่าสนใจตั้งแต่ทางเข้าที่แบ่งเป็น 2 เลน ซ้ายสำหรับจักรยาน ส่วนขวาสำหรับคนเดิน แน่นอนว่าช่องซ้ายน่าสนใจกว่า (ไม่ไกลนักมีร้านจักรยานให้บริการ) แต่อีกใจก็อยากค่อยๆ ก้าวย่างชื่นชมพระราชวังให้สมกับเป็นครั้งแรก จึงได้ชิดขวาต่อแถวกรุ๊ปทัวร์ที่กำลังรอจ่ายค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็กคนละ 15 บาท ในตั๋วเขียนว่าบริจาคให้มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน นั่นจึงไม่ใช่ค่าเข้าชมเสียทีเดียว
จากนั้นจะเจอทางเข้าอีกชั้นเพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยว หญิงนุ่งสั้นต้องไปรับผ้าถุง ถ้าเป็นชายต้องไปรับโจงกระเบน สำหรับคนที่มีกล้องใหญ่ต้องไปเซ็นชื่อยินยอมข้อตกลงเรื่องการถ่ายภาพ และทุกคนต้องเข้าใจกฎระเบียบที่เคร่งครัด 4 ข้อ ห้ามเข้าสนามหญ้า ห้ามลงชายหาด แต่งกายสุภาพ และสำรวมกิริยา (ถ่ายภาพด้วยท่าทีสุภาพ ห้ามกระโดด)
ผู้บรรยายกล่าวว่า พระราชนิเวศน์มฤคทายวันเป็นพระราชวังในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดให้มีลักษณะเรียบง่าย เน้นความโปร่งโล่งให้เข้ากับธรรมชาติและชายทะเล ซึ่งในอดีตป่าใน ต.ห้วยทรายเหนือ มีเนื้อทรายและกวางอาศัยอยู่มาก (คำว่า มฤค เป็นภาษามคธ แปลว่า เนื้อทราย) กล่าวกันว่า พระองค์ทรงร่างแบบพระราชนิเวศน์ด้วยฝีพระหัตถ์ และให้สถาปนิกชาวอิตาเลียนออกแบบ ลักษณะเรือนไทยผสมยุโรป สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง แบ่งเป็นหมู่พระที่นั่ง 3 องค์ มีความยาว 399 เมตร แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ หมู่พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ (ท้องพระโรง) หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน (เขตที่ประทับฝ่ายหน้า) และหมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร (เขตที่ประทับฝ่ายใน) รวมทั้งหมด 16 อาคาร เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดินมุงหลังคาตามแนวทิศเหนือจรดใต้ และมีบันไดรวมกัน 23 แห่ง
อาคารหันหน้าสู่ชายทะเลเป็นแนวขนานเพื่อรับลมทะเลในเวลากลางวันและลมจากภูเขาในเวลากลางคืน ลักษณะเป็นเรือนสองชั้น หลังคาเป็นทรงปั้นหยา มุงด้วยกระเบื้องว่าว เพดานสูง มีเกล็ดระบายความร้อนจากช่องระหว่างฝ้าเพดานกับหลังคา บานกระทุ้งตีเกล็ดให้รับลม และใต้ถุนสูงช่วยให้อากาศถ่ายเท ระบายความชื้นจากทะเล ป้องกันสัตว์ป่า และทำให้เวรยามมองเห็นพระที่นั่งได้ชัดเจน
บทหนึ่งใน “นิราศตามเสด็จ เสด็จพระราชดำเนินประพาสพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระพุทธศักราช 2467” โดยพระยาอนุศาสน์จิตรกร เมื่อครั้งตามเสด็จล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ในการแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชนิเวศน์ระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ค. ประพันธ์ว่า
พระที่นั่งดั่งพิมาน มโหฬารดูสดใส พร้อมพรั่งทั้งน่าใน งามเงื่อนล้ำในอัมพร
นามสมุทพิมาน งามตระการประภัศร อีกพิศาลสาคร ได้ลมดีมิได้ขาด
อีกองค์งามบวร สโมสรเสวกามาตย์ ตั้งอยู่หัวแหลมหาด เฉลียงโปร่งโล่งสบาย
อันเป็นการบรรยายถึงหมู่พระที่นั่งและบรรยากาศริมชายหาดชะอำเมื่อครั้งได้มาถึงพระราชนิเวศน์เป็นครั้งแรก
ความน่าสนใจทางสถาปัตยกรรมยังอยู่ที่เสาทั้ง 1,080 ต้น ทั้งหมดห่างเท่ากันเรียกว่า ระบบพิกัด (Modular System) โดยเสาชั้นล่างทำจากคอนกรีตส่วนชั้นบนทำจากไม้ ทุกต้นมีการหล่อขอบฐานและยกขอบขึ้นเป็นรางหรือที่เรียกว่าบัวขอบ เพื่อใส่น้ำกันมดและแมลงขึ้นอาคาร นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมหมู่พระที่นั่งตามรอบเวลา รอบละ 20 คน จำกัดไม่เกิน 960 คน/วัน
ปัจจุบันพระราชนิเวศน์ อายุ 93 ปี ทว่ายังคงความสวยงามทางสถาปัตยกรรมไว้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงสวนทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สวนเวนิสวานิช สวนศกุนตลา และสวนมัทนะพาธา ที่ยังคงความชอุ่มเขียวตั้งแต่อดีตถึงวันนี้
พระราชนิเวศน์มฤคทายวันทำให้หัวหินพิเศษขึ้น แต่ครั้งหน้าจะพิเศษกว่าเพราะคิดไว้แล้วว่าจะกลับไปเข้าช่องซ้าย ปั่นจักรยานกินลมชมวังและละเลียดสถาปัตยกรรมในมุมห่างบ้างคงจะดี
ความรัก : พระจุฑาธุชราชฐาน
เกาะสีชังกลายเป็นเกาะแห่งรักตั้งแต่มี “เขาเล่าว่า...” กับตำนาน ที่ใดมีรักของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ที่นั่นย่อมอบอวลไปด้วยพลังแห่งรัก ใครที่อยากเติมพลังต้องไปรับแสงแรก ณ ปลายสะพานอัษฎางค์ และอธิษฐานกับแสงสุดท้าย ณ ช่องอิศริยาภรณ์
นั่งเรือเมล์จากเกาะลอย (ศรีราชา) จ.ชลบุรี ผ่านเรือคอนเทนเนอร์ยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองท่าอุตสาหกรรม นั่งดื่มลมไปราว 45 นาที ก็เทียบท่าที่เกาะสีชัง สีชังเป็นอีกเกาะที่บอกผ่านเสมอด้วยข้ออ้างว่า “มาตอนไหนก็ได้” ทั้งที่อยู่ไกลจากกรุงเทพฯ แค่ 2 ชม. จนกระทั่งวันที่บอกตัวเองให้โยนข้ออ้างทิ้งแล้วหิ้วเสื้อผ้าข้ามทะเล เพื่อรู้ว่า “ทำไมไม่มาเสียตั้งนาน”
พระจุฑาธุชราชฐานเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักฟื้นของพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวี และยังเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ระหว่างที่พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีตั้งครรภ์และใกล้มีพระประสูติกาล ต่อมาพระองค์ทรงสถาปนาพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีให้เป็นสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ถือเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถพระองค์แรกของประเทศ แสดงถึงพระฐานะที่สูงสุดเหนือกว่าตำแหน่งสมเด็จพระอัครมเหสีทั้งปวง และทรงพระราชทานนามพระราชวังตามพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก ผู้เป็นพระราชโอรส พระจุฑาธุชราชฐานจึงเปรียบเป็นตัวแทนความรักยิ่งใหญ่ของชายคนหนึ่งที่มีให้หญิงคนรัก
นอกจากนี้ พระองค์ยังได้สร้างอาไศรยสฐาน 3 หลัง ได้แก่ เรือนผ่องศรี เรือนวัฒนา และเรือนอภิรมย์ รวมถึงตำหนักอื่นๆ อีก 14 ตำหนัก และพระที่นั่ง 4 องค์ที่มีชื่อคล้องจ้องกัน คือ โกสีย์วสุภัณฑ์ มันธาตุรัตนโรจน์ โชติรสประภาต์ และเมขลามณี
เวลานี้ต้นลีลาวดีกำลังชูดอกอยู่เรียงรายตามทางเดิน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมในอาคารที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ เช่น เรือนผ่องศรีใช้จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและบุคคลสำคัญบนเกาะสีชัง เรือนวัฒนา จัดแสดงนิทรรศการเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชังสมัย ร.5 เรือนอภิรมย์ ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงสิ่งปลูกสร้างในสมัย ร.5 นอกจากนี้พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานลงไปในทะเลด้านหน้าวัง พระราชทานนามว่า สะพานอัษฎางค์ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีอยู่แต่ถูกปรับปรุงไปหลายคราตามกาลเวลา ส่วนช่องอิศริยาภรณ์หรือช่องเขาขาด อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ เป็นที่ตั้งของ ที่แลราชโกษา ร. 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับทอดพระเนตรพระอาทิตย์ตก กระทั่งทุกวันนี้ช่องเขาขาดก็ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่โรแมนติกที่สุดบนเกาะสีชัง
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า ฤดูร้อนปีนี้เปลี่ยนไปเมื่อได้ไปเยือนพระราชวังฤดูร้อน นั่นเพราะปลายทางทั้งสองแห่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งทำให้ฤดูร้อนเป็นสีซีเปีย ทำให้เมืองชายทะเลเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ ทำให้สิ่งที่ถูกมองข้ามเป็นสิ่งสำคัญ และที่สำคัญที่สุดคือทำให้วันพักร้อนมีความหมายมากกว่าเดิม


