มาสัมผัสกับรอยยิ้มและของดีมากมายที่นราธิวาส

โดย... กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มีโอกาสเดินทางไป จ.นราธิวาส อดคิดไม่ได้ว่านราธิวาสจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ทั้งผู้คน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจะเป็นอย่างไร หลังจากมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปรากฏว่านราฯ ครานี้แตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง

 

จ.นราธิวาส แปลว่า “ที่อยู่ของคนดี” ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามประมาณ 80% ของพื้นที่ ภาษาที่ใช้สื่อสารเป็นภาษายาวีซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากภาษามลายู แต่ผู้คนก็ยังใช้ภาษากลางในการต้อนรับ
ผู้มาเยือน ซึ่งทำให้คนต่างถิ่นอย่างเราไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างแต่อย่างใด

 

นราธิวาสติดกับปัตตานีและยะลา อีกด้านติดอ่าวไทย ไม่แปลกที่จะเป็นเมืองท่าที่สำคัญในสมัยก่อน ที่นี่อาหารทะเลสด สะอาด และราคาถูก รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลอย่าง ชายหาดนราทัศน์ เป็นชายหาดทรายสีขาวสะอาดตา ความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ยาวไปสิ้นสุดใกล้กับปากแม่น้ำบางนรา ชาวบ้านใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจไม่ต่างจากสวนสาธารณะ ใกล้ๆ กันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง มีเรือกอและจอดเรียงรายอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนราฯที่แค่เห็นเรือก็บ่งบอกสถานที่

เรือกอและ เป็นเรือประมงขนาดเล็ก ลักษณะในการสร้างคือ หัวเรือจะสูงกว่าท้ายเรือ มีการใช้สีวาดลวดลายสัตว์ในท้องทะเลแล้วแต่จินตนาการของผู้สร้าง ลวดลายของเรือกอ และมีการผสมผสาน ระหว่างลายมลายูลายชวา และลายไทย โดยมีลายไทยมากที่สุดทั้งลายกนก ลายสัตว์ในวรรณคดีเช่น บุหรงซีงอ หรือสิงหปักษี ลักษณะมีตัวเป็นสิงห์ แล้วมีหัวเป็นนกคาบปลา วาดไว้ที่หัวเรือตามความเชื่อของชาวประมง ที่เชื่อว่าสิงหปักษีมีอิทธิฤทธิ์มาก นอกจากนี้เรือกอและยังเป็นเครื่องมือในการหาปลาของชาวประมงภาคใต้ ซึ่งมีคำกล่าวที่ว่า “ลูกแม่น้ำบางนราไม่มีเรือกอและหาปลา ก็เหมือนไม่ใส่เสื้อผ้า” ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างคนและเรือกอและอย่างแน่นแฟ้น

ชายทะเลอีกแห่งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจ.ปัตตานี ยาวประมาณ 4 กิโลเมตรมีโค้งอ่าวหลายโค้งเว้าและมีโขดหินสวยงามประดับทราย นอกจากนี้ด้านหนึ่งของชายหาดติดกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ บริเวณริมหาดมีสวนรุกขชาติ และทิวสนร่มรื่น ใกล้กันยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางราว 1 กิโลเมตร สามารถเดินได้แบบไม่เหนื่อยจนเกินไป

หลังจากชุ่มฉ่ำจากท้องทะเล ชายหาด และสายลม เรามาสูดโอโซนให้เต็มปอดด้วยการออกมาท่องเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี เป็นป่าดิบชื้นที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์นานาชนิด ด้วยภูมิอากาศที่มีฝนตกตลอดเกือบทั้งปี ป่าไม้จึงเขียวชอุ่มพุ่มไสว พันธุ์ไม้ที่เด่นๆ คือ ใบไม้สีทอง หรือเรียกกันในภาษาท้องถิ่นว่า ย่านดาโอ๊ะ ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2531 เป็นไม้เลื้อยขนาดใหญ่ ใบใหญ่เท่าฝ่ามือ หรือบางใบอาจจะใหญ่กว่า มีขอบหยักเว้าทั้งที่โคนใบและปลายใบ ลักษณะคล้ายวงรีสองวงซ้อนกัน มีสีทองหรือสีทองแดง ซึ่งหาพบได้ในป่าสมบูรณ์เท่านั้น

อุทยานแห่งชาติบูโดยังมีน้ำตกที่น่าสนใจหลายแห่งอย่าง น้ำตกปาโจ ปาโจ เป็นภาษามลายู แปลว่า น้ำตก นับเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดและสวยงามแห่งหนึ่งทางภาคใต้ มีหน้าผาหินกว้าง ทางขึ้นเป็นชั้นๆ รวม 9 ชั้น และจุดสำคัญคือ มีหินสลักสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ อีกทั้งยังเคยเป็นพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกด้วย

เป็นที่ทราบกันดีว่า ชาวนราธิวาสส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิลลาม แต่ก็ยังมีคนไทยพุทธอาศัยอยู่ร่วมกัน จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเป็นวัดไทยและพุทธอุทยานอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น พุทธอุทยานเขากง วัดเขากง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล องค์สีทองปางปฐมเทศนานั่งขัดสมาธิเพชรศิลปะของช่างสกุลอินเดีย ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และอีกวัดที่สำคัญซึ่งหากไม่ไปก็คงไม่ถึง จ.นราธิวาส คือ วัดพิทักษ์แผ่นดินไทยหรือวัดชลธาราสิงเห ที่ชื่อว่าวัดพิทักษ์แผ่นดินไทยสืบเนื่องมาจากเมื่อครั้งสมัยประเทศอังกฤษล่าอาณานิคมได้เข้ายึดประเทศมลายู ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5  ด้วยทรงพระปรีชาสามารถทรงใช้พระพุทธศาสนา วัด และศิลปะในวัดเป็นเครื่องมือในการต่อรอง เพื่อพิสูจน์ว่า อ.ตากใบ เป็นดินแดนของประเทศไทย อังกฤษจึงยอมจำนนด้วยหลักฐาน สรุปให้ใช้แม่น้ำโกลก บริเวณที่ไหลผ่านตากใบเป็นเส้นแบ่งเขตดินแดนระหว่างไทยและมลายู

นอกจากนี้ ภายในโบสถ์ยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม เป็นเรื่องราวพุทธประวัติที่สอดแทรกวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวปักษ์ใต้ไว้เป็นอย่างดี และยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ที่ได้รับสมญานามว่า พระหนีเที่ยว ตามเรื่องเล่าที่ชาวบ้านพูดต่อกันมาว่า รุ่งเช้าเมื่อชาวประมงกลับจากการหาปลา จะเห็นแสงสีขาวเป็นประกาย ลอยกลับเข้าโบสถ์เป็นประจำ จึงเชื่อว่าเป็นดวงจิตของหลวงพ่อโตนั่นเอง

สถานที่ท่องเที่ยวที่กล่าวมาข้างต้นสามารถเรียกว่าเป็น “ของดีเมืองนราฯ” ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำลังโปรโมทเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งใน จ.นราธิวาส เท่านั้น เพราะที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายรอให้นักเดินทางเข้าไปค้นหา มาสัมผัสกับรอยยิ้ม และเข้าไปรับความสุขจากอัธยาศัยไมตรีบนดินแดนที่เสียงหัวเราะดังกว่าเสียงปืน...เมืองนราฯ