posttoday

ความลับหน้าฝน ภูหลวง

15 สิงหาคม 2558

“ตามขี้ช้างไปจะเจอดอกไม้ป่า” เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง กล่าวไว้

โดย...กาญจน์ อายุ

“ตามขี้ช้างไปจะเจอดอกไม้ป่า” เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง กล่าวไว้

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย มีจุดบริการนักท่องเที่ยวอยู่ที่ที่ทำการหน่วยโคกนกกระบา นักท่องเที่ยวต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเข้า “อยากไปเส้นไหน” เจ้าหน้าที่ถาม ฉันแหงนหน้ามองแผนที่บนกระดานไม้หน้าที่ทำการฯ สายตาพยายามหาคำตอบ แต่ปากกลับถาม “ไปเส้นไหนดี” และการเดินทางก็เริ่มขึ้น

เส้นไหนดี

จากที่ทำการหน่วยโคกนกกระบาเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นหลัก ทั้งแบบระยะสั้น ไกลน้อย และไกลมาก ซึ่งทุกเส้นล้วน “ดี” ไปคนละแบบ

ความลับหน้าฝน ภูหลวง ส้มซ่าของกินเล่นระหว่างทาง

 

เริ่มจากระยะสั้น คือ เส้นทางวงกลมรอบลานสุริยัน ระยะทางประมาณ 1,800 ม. เดิน 1 ชม. ก็ครบรอบ เป็นลานหินเดินง่าย สภาพเป็นป่าดิบแคระมีไม้พุ่มขึ้นชุก เช่น ต้นส้มซ่าที่ผลสามารถรับประทานช่วยลดกระหายระหว่างเดินป่า หรือส้มแปะ ก่อดำ ก่อหนู และที่สำคัญคือ ต้นกุหลาบขาว ที่มีขึ้นหนาแน่นบนลานสุริยัน มันจะออกดอกช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค. ซึ่งภูหลวงจะเปิดเป็นเทศกาลชมดอกกุหลาบขาวอย่างเป็นทางการ

กุหลาบขาวบนภูหลวงเกิดขึ้นตามธรรมชาติจำนวนหลายหมื่นต้น มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กุหลาบพันปีลักษณะไม่เหมือนกุหลาบทั่วไป กลีบจะคล้ายดอกชบาและไม่มีกลิ่นหอม บนภูหลวงจะพบสองสี คือ กุหลาบขาวและแดง ซึ่งสีแดงจะมีขึ้นแซมบ้างและออกดอกในเดือน ก.พ. ก่อนสีขาว 1 เดือน

นอกจากนี้ ในฤดูเดียวกันยังมีกล้วยไม้ให้พบเห็น เช่น เอื้องตาเหินสีขาว เอื้องครั่งแสดสีส้ม เอื้องม่อนไข่พวงย้อย และกล้วยไม้ตระกูลสิงโตที่มีให้เห็นเพ่นพ่านอยู่บ้าง

ความลับหน้าฝน ภูหลวง ป่าสนสองใบ

 

เส้นทางที่สอง ไกลน้อย เป็นทางที่น่าสนใจเพราะมีจุดหมายอยู่ที่ รอยเท้าไดโนเสาร์ ระยะทางประมาณ 14 กม. โดยต้องเดินผ่านลานสุริยัน ผาเสด็จ ผาเตลิ่น และไปสิ้นสุดที่รอยเท้ากระปอมยักษ์ จากผาเสด็จมองออกไปจะเห็นวิวเทือกเขาทอดยาวและดงดอกกุหลาบพันปีสีแดง จากนั้นเดินต่อไปกิโลกว่าจะถึงผาเตลิ่น เป็นจุดชมวิวที่มีเอกลักษณ์ตรงชะง่อนหินให้ถ่ายรูปเช็กอินเหมือนภูชี้ฟ้า และระยะสุดท้ายอีก 700 ม. จากผาเตลิ่นจะพบกับเป้าหมายรอยเท้าไดโนเสาร์ มีทั้งหมด 15รอย อายุประมาณ 100-140 ล้านปี ลักษณะมี 3 นิ้วคล้ายนก ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์กินเนื้อพันธุ์คาร์โนซอร์ เส้นทางนี้ได้รับความนิยม เพราะได้เห็นองค์ประกอบของภูหลวงและเดินไม่ยาก แต่ถ้าใครอยากพิสูจน์กำลังขาต้องไปต่อให้ถึงแปกดำ

เส้นทางที่สาม แปกดำ อยู่ห่างจากที่ทำการ 6.5 กม. บริเวณนั้นเป็นป่าสน ซึ่งช่วงหน้าฝนจะเป็นเวลาของดอกเปราะภู กลีบดอกสีชมพูที่พบได้เฉพาะถิ่นภูหลวงเท่านั้น ปกติเปราะภูจะออกดอกเดือน ก.ค. แต่ในเวลาที่ฝนทิ้งฟ้าแบบนี้ทำให้มันมาช้ากว่ากำหนด จึงพบล่วงเลยถึง ส.ค. เส้นทางแปกดำน่าตั้งแคมป์ค้างแรม 1 คืน เพื่อตื่นเช้ามาดูหมอกเรี่ยดินที่หลายคนเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่าราวกับป่ากำลังร่ายมนต์ และสำหรับขาลุยที่มีแรงเหลือให้หอบสัมภาระเดินต่อไปให้ถึงโหล่นแต้ ที่นั่นมีความลับจากป่าเป็นทุ่งหญ้าข้าวก่ำผลิดอกสีม่วงกลางไอหมอกหยอกลม บรรยากาศน่านอนตากลมค้างคืนรอนับดาว

ความลับหน้าฝน ภูหลวง กล้วยไม้ป่าพบที่ภูหลวง

 

ฤดูไหนดี

เมื่อเจ้าหน้าที่อธิบายเส้นทางจบ สมองก็ขบคิดอย่างหนักตระหนักถึงสภาพร่างกายและสอบถามใจว่า อยากไปเส้นไหนดี ทว่าก็เกิดอีกคำถาม “ฤดูฝนทางไหนสวย”

หลายคนอาจหาว่าบ้า “ทำไมเดินป่าหน้าฝน” แต่ช่วงนี้แหละนาทีทองที่จะเห็นจิตวิญญาณแห่งผืนป่าอย่างแท้จริง แม้จะมีอุปสรรคทางธรรมชาติ เช่น ทาก สัตว์ดูดเลือดที่ทำให้แขยงจนทำให้ป่าสยอง ฝน บ้างบอกไม่กลัวฝนแต่เบื่อหน่ายความเฉอะแฉะ และน้ำป่า อุปสรรคใหญ่ที่ไม่มีใครอยากเจอ

ความลับหน้าฝน ภูหลวง กล้วยไม้ป่าพบที่ภูหลวง

 

สำหรับบางคนเลือกเดินป่าหน้าฝน เพราะป่าเขียวอุดมและดอกไม้สวยงาม ภูหลวงมีฝนยาวนานถึง 6 เดือน ทำให้ผืนดินชุ่มน้ำชุบชีวิตพืชคลุมดินให้ฟื้นคืน เช่น ข้าวตอกฤๅษีที่เป็นตัวชี้วัดความบริสุทธิ์ของพื้นที่ มอส เฟิร์น ฟองหิน และกล้วยไม้ป่าประจำฤดูอย่างเอื้องแซะภูและสิงโตปากนกแก้ว นอกจากนี้ไอหมอกก็เป็นอีกเรื่องราวที่ทำให้คนกล่าวขาน เพราะทิวสนกับสายหมอกเป็นคู่พระนางแสดงร่วมกันเป็นมหรสพหน้าฝน

เปรียบเทียบระหว่างอุปสรรคกับแรงจูงใจอาจทำให้ตัดสินใจยาก แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าแต่ละฤดูกาลมีมนต์ของมัน ดังนั้นไม่ใช่แค่ฤดูฝนที่ห้ามพลาด แต่ฤดูหนาวและร้อนก็เช่นกัน ซึ่งเขาเองก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าฤดูกาลใดสวยงามที่สุด แม้ว่าจะอยู่ภูหลวงมาหลายปีแต่ก็ไม่มีสักปีที่เหมือนเดิม

ความลับหน้าฝน ภูหลวง กล้วยไม้ป่าพบที่ภูหลวง

 

อย่างไรดี

ตัดสินใจบอกเจ้าหน้าที่ว่าจะไปแปกดำภายใต้เงื่อนไขแบบไปเช้าเย็นกลับ เจ้าหน้าที่ตกลงนำทางอย่างช่ำชอง แบกปืนคนละกระบอก และห่อข้าวเหนียวหมูไว้กินกลางทาง เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางราบ ลานหิน และกล้วยไม้ดินอย่างที่เจ้าหน้าที่เกริ่นไว้

วันนั้นแมลงบินว่อนเป็นลางบอกว่าฝนจะมา ปัดซ้ายปัดขวาน่ารำคาญ แต่ไฉนพวกมันไม่ตอมเจ้าหน้าที่ หรือว่ามันไม่คุ้นกลิ่นคนเมือง จึงหันไปถามเคล็ดลับการเดินป่าว่าทำอย่างไรให้เนียนธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ไม่เอ่ยตอบแต่ หยิบของขลังขึ้นมา ปัดโธ่ สเปรย์กันยุงธรรมดาๆ นี่เอง เขาบอกฉีดมาเกือบหมดขวด เพราะรู้ว่าช่วงนี้แมลงชุม คงมีแต่คนต่างถิ่นเท่านั้นที่เข้าป่าพร้อมกลิ่นโคโลญ

ความลับหน้าฝน ภูหลวง กุหลาบพันปีสีขาวพบเห็นบ้างในฤดูฝน

 

ทางที่เดินเป็นดินผสมขี้ช้าง เพราะตลอดทางเห็นกองเล็กกองใหญ่ไม่เว้นก้าว เจ้าหน้าที่บอก “ทางเดินนี้คือทางช้าง” หลักฐานเห็นอยู่ตำตา เขากระชับปืนในมือก่อนเล่าต่อ “ผมลาดตระเวนมาไม่รู้กี่ครั้ง เห็นช้างจนผวา” คนฟังพลันตื่นเต้นอยากเห็นช้างกับตา ผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ภาวนาว่าอย่าเจอ จึงถามเขาต่อ “เจอช้างต้องทำอย่างไร” เขาตอบอย่างไม่ต้องคิด “วิ่งอย่างเดียว!” ฉันมองปืนแล้วอดยิ้มไม่ได้ ดีแล้วที่เขาไม่ตอบว่า ยิงอย่างเดียว

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงมีสัตว์ป่าอาศัยชุกชุมสมกับเป็นเขตอนุรักษ์ อย่างช้างป่ามีอาศัยอยู่ 80-100 ตัวในพื้นที่ป่าสมบูรณ์กว่า 5.6 แสนไร่ หากใครประสงค์ดูช้างสามารถสร้างซุ้มบังไพรแล้วอาศัยซุ่มดู

ความลับหน้าฝน ภูหลวง สีสันในลานสุริยัน

 

เจ้าหน้าที่พักกินกลางวันริมธารน้ำ เราเดินทางมาได้ครึ่งทาง น้ำที่พกมาเหลือแค่ก้นขวด แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีน้ำกิน เพราะเหล่ามวลเมฆทมิฬกำลังคล้อยต่ำลง ดังนั้นก่อนออกเดินทางอีกครึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงหันมาถาม “จะเดินหรือกลับ”

ไม่มีคำตอบใดๆ แต่เท้ากำลังหันหลังให้แปกดำ คราวนี้สายฝนชนะ เพราะข้ออ้าง “ไม่ได้เตรียมตัว” ทั้งเสื้อกันฝน รองเท้ากันทาก ถุงกันน้ำใส่อุปกรณ์ราคาแพง หากดั้นด้นเดินต่ออาจได้ไม่คุ้มเสีย ทำให้ขากลับหนทางดูใกล้กว่าขามา เพราะจิตใจกำลังจดจ่อกับการตอบคำถามตัวเอง

ความลับหน้าฝน ภูหลวง เจ้าหน้าที่นำทางสู่แปกดำ

 

หากกลับมาครั้งหน้าฉันจะทำสำเร็จโดยปราศจากข้ออ้าง กลับมาตักตวงความงามของหน้าฝนที่มีเพียงครั้งเดียว และกลับมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากคนภูหลวง ภูที่จะไม่หยุดเพียงครั้งเดียว

การขอใช้สถานที่และบ้านพักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วันทำการ ยื่นได้ที่ฝ่ายบ้านพักสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตู้ ปณ.52 ปทจ.เลย อ.เมือง จ.เลย 42000 หรือ โทร. 042-801-955 ดูรายละเอียดที่ http://phuluang.net

ความลับหน้าฝน ภูหลวง เจ้าหน้าที่พกปืนระหว่างนำทาง

 

 

ความลับหน้าฝน ภูหลวง เห็ดขี้ช้าง