posttoday

อะเมซิ่งไทยแลนด์ @ วัดพระเชตุพน

03 สิงหาคม 2558

เมื่อพูดถึงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ บอกได้เลยว่าพระอารามหลวงแห่งนี้ไม่ใช่วัดธรรมดาๆ

โดย...แมงโก้หวาน ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

เมื่อพูดถึงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ บอกได้เลยว่าพระอารามหลวงแห่งนี้ไม่ใช่วัดธรรมดาๆ แต่เป็นแหล่งรวมสรรพศาสตร์และสรรพศิลป์ชั้นเยี่ยมที่ควรแก่การทัศนะและศึกษาอย่างยิ่ง

แค่ย่างเข้าประตูวัดถ้าไม่สักแต่เดินๆ แหงนหน้ามองจะเห็นซุ้มประตูทรงมงกุฎประดับกระเบื้องที่ตัดเป็นรูปกลีบดอกไม้เรียงกันลดหลั่นสีสันสดสวย ลอดซุ้มเข้าไปหันกลับมาจะเห็นตุ๊กตาหินจีนในมือถืออาวุธ เรียกว่า “ลั่นถัน” (ทวารบาล) แต่เมื่อเดินทั่ววัดจะเห็นตุ๊กตาศิลปะจีนมากมายทั้งรูปปั้นและแกะสลักศิลา

อะเมซิ่งไทยแลนด์ @ วัดพระเชตุพน

 

เข้าไปในพระอุโบสถ เห็น “พระพุทธเทวปฏิมากร” ใจยิ่งเบิกบานเพราะองค์พระสวยมาก ที่ยิ่งกว่านั้นบนฐานชุกชีชั้นที่ 1 บรรจุพระบรมอัฐิและพระราชสรีรังคาร รัชกาลที่ 1 ด้วย ส่วนผนังพระอุโบสถก็งามงดด้วยภาพจิตรกรรมหลายเรื่อง เช่น เรื่องมโหสถบัณฑิต พระสาวกที่ได้รับเอตทัคคะ 41 องค์ ยิ่งรู้ยิ่งทึ่งในความสามารถของช่างวาด

 

ด้านศาสนสถานอื่นๆ เช่น พระปรางค์ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล พิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป พิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎกใบลานและสมุดไทย รวมถึงพระวิหารพุทธไสยาสน์ ล้วนประณีตงดงามแสดงถึงฝีมือช่างไทยได้อย่างดี เฉพาะองค์พระนอนก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทองงดงามที่สุดในประเทศไทย พระบาทประดับมุกภาพมงคล 108 ตรงกลางเป็นรูปกงจักรตามตำรามหาปุริสลักษณะ ภาพจิตรกรรมภายในก็อะเมซิ่งมาก!

อะเมซิ่งไทยแลนด์ @ วัดพระเชตุพน

 

ขณะที่ศาลารายคู่หน้าพระมหาเจดีย์ซึ่งอยู่ระหว่างมหาเจดีย์และพระอุโบสถ ศาลารายหลังเหนือ (ศาลาหมอนวด) จารึกตำรานวดแผนโบราณ มีจิตรกรรมลายเส้นบอกตำแหน่งนวดจารึกอยู่ที่คอสองเฉลียงลดทั้งหมด 32 แผ่น ด้านหลังจารึกสุภาษิตพระร่วง กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ ได้ความรู้ไปเต็มๆ

สำหรับสถานที่ออกแนวธรรมชาติต้องยกให้ “เขามอ” หรือสวนหย่อม เป็นสวนหินปลูกไม้ประดับ รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้รื้อก้อนศิลาใหญ่เล็กในสวนขวาในพระบรมมหาราชวัง พอครั้งรัชกาลที่ 3 ได้ก่อเป็นภูเขาเป็นสวนประดับรอบวัด ปลูกต้นไม้ต่างๆ มีรูปตุ๊กตาจีน รูปสัตว์สี่เท้า สถูปและเสาโคมแบบจีนเรียงราย

อะเมซิ่งไทยแลนด์ @ วัดพระเชตุพน

 

เขามอมี 24 ลูก เด่นมากคือเขาฤษีดัดตน อยู่ใกล้กับวิหารทิศใต้ สวนนี้รัชกาลที่ 1 โปรดให้มีการรวบรวมการแพทย์แผนโบราณและศิลปวิทยาการสมัยอยุธยาไว้ แล้วทรงเห็นว่าท่าดัดตนเป็นการพักผ่อนอิริยาบถแก้ปวดเมื่อย จึงเอามาประยุกต์กับคติไทยที่ยกย่องฤษี ปั้นเป็นรูปฤษีดัดตนท่าต่างๆ สมัยแรกปั้นดิน ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 หล่อเป็นเนื้อชินอยู่ถึงวันนี้ เดิมมี 80 ท่า เหลือแค่ 24 ท่า 25 ตน จนในปี 2551 ทางวัดได้ดำเนินการปั้นหล่อฤษีดัดตนด้วยสังกะสีดีบุกตามแบบเดิมจนครบ 80 ท่า

รูปปั้นฤษีดัด เป็นการออกกำลังกายที่ใช้ศิลปะเพื่อการมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง ตรงกับท่าหลักโยคะของโยคีอินเดีย ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของวัดก็ว่าได้ เพราะถ้าถามถึงวัดโพธิ์หลายคนจะนึกถึงรูปปั้นฤษีดัดตน ซึ่งไม่ได้มีแค่รูปปั้นแต่ยังมีจารึกเป็นโคลงสี่สุภาพลงในแผ่นศิลาประดับอยู่ตามศาลาราย เช่น ศาลาเปลื้องเครื่อง เป็นต้นอีกด้วย

อะเมซิ่งไทยแลนด์ @ วัดพระเชตุพน

 

อะเมซิ่งครับ ไปแล้วชอบ บอกได้เลยว่าการเข้าไปชมแต่ละครั้ง 2-3 ชั่วโมง เป็นการเที่ยวชมแค่กวาดสายตา แต่หากพินิจพิเคราะห์หยั่งลึกถึงแก่นแท้แห่งภูมิปัญญาช่างศิลป์ไทยกันแล้วนับว่าชั่วชีวิตกันเลย