posttoday

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

24 พฤษภาคม 2558

เราจะไม่มีวันรู้จักความโหดที่สุด ถ้ายังไม่ได้ขึ้น“โมโกจู” ยอดเขาที่นักเดินป่ายกให้เป็นที่ 1 เรื่องความโหดแสนสาหัส

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ ขวัญชนก พึ่งเพ็ง

เราจะไม่มีวันรู้จักความโหดที่สุด ถ้ายังไม่ได้ขึ้น“โมโกจู” ยอดเขาที่นักเดินป่ายกให้เป็นที่ 1 เรื่องความโหดแสนสาหัส ทั้งระยะทาง ความชัน แมลง แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่เคยพิชิตมาแล้ว หนึ่งในนั้นคือสาวน้อยขาโหด เอนจอย-ขวัญชนก พึ่งเพ็ง นักเขียนเรื่องท่องเที่ยวของเว็บไซต์สะดุดตาดอทคอม (www.sadoota.com)

ผู้คนเหล่านี้ยอมลำบากเพื่อแลกกับความลับของโมโกจูที่บางคนเรียกมันว่า “สวรรค์” เอนจอยก็ได้ไปเห็นมากับตาแล้ว เธอบอกให้ลองคิดภาพตามว่าคุณยืนอยู่บนหน้าผามีทะเลหมอกลอยอยู่ใต้เท้า มันโอบล้อมตัวทั้ง 360 องศา ความหนาวพัดมากับความชุ่มชื้นน้ำค้างป่า และพระอาทิตย์ก็ทอดลำแสงเข้าหมอกกลายเป็นพรมสีทอง นี่แค่ตอนเช้า ส่วนเวลาเย็นถึงค่ำจะเห็นพระอาทิตย์ตกได้จากจุดเดิมและนอนดูทะเลดาวระยิบใกล้เหมือนว่าจะคว้ามา แต่จุดหมายปลายทางไม่ใช่แค่ยอดดอยเท่านั้น เพราะระหว่างทางก็ “สุดยอด” ไม่แพ้กัน

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

 

โมโกจูอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร ตามปกติต้องใช้เวลา 5 วัน 4 คืน แต่สำหรับเส้นทางที่เอนจอยไปเป็นเส้นทางทดลอง โดยลดระยะทางลงครึ่งหนึ่ง จากปกติต้องเดินตั้งแต่ตีนเขาเปลี่ยนเป็นนั่งรถโฟร์วีลขึ้นไปก่อนแล้วค่อยเดินต่อ ย่นระยะเวลาลงเหลือ 3 วัน 2 คืน

“ช่วงที่น่าไปคือปลายฝนต้นหนาวหรือต้นๆ เดือน พ.ย.เพราะช่วงนั้นจะมีทะเลหมอกเยอะ” ส่วนเธอไปปลายเดือน พ.ย.ที่ไม่มีฝนแล้วทำให้เห็นทะเลหมอกไม่สวยที่สุด

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

 

แต่ละปีทางอุทยานจะเปิดให้ขึ้นเพียง 4 เดือนเท่านั้น คือเดือน พ.ย.-ก.พ. นักท่องเที่ยวต้องจับกลุ่มกันมาอย่างน้อย 5 คน ไม่เกิน 15 คน เตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าหน้าที่นำทาง 2 คน ราคา 8,000 บาท ถ้ากลุ่มมีจำนวนมากกว่า 12 คน คิดเพิ่มคนละ 800 บาท ส่วนค่าจ้างลูกหาบราคา 400 บาท/คน/วัน หาบสัมภาระได้ไม่เกิน 20 กก.

นักท่องเที่ยวต้องติดต่อก่อนเปิดฤดูกาลประมาณ 1 เดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่นี้จัดคิววันและให้นักท่องเที่ยวเตรียมตัวก่อนขึ้น โดยแต่ละปีจำกัดคนขึ้นเพียง 600 คน

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

 

เส้นทางโมโกจูเป็นการเดินป่าระยะยาว จำนวน 5 วัน 4 คืน ระยะทางไปกลับ 62 กม. ถามถึงการตัดสินใจว่าคิดอย่างไรถึงเลือกเส้นทางสุดโหดนี้ เธอเล่าว่า ถ้าพูดถึงเขาโหดๆ ในไทยจะคิดถึงสองแห่ง คือ โมโกจูกับเขาหลวงที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่เธอเคยไปที่เขาหลวงแล้วจึงมุ่งมั่นที่จะไปพิชิตโมโกจู

“อยากเห็นว่ามันลำบากจริงไหม เหนื่อยแค่ไหน และมันสวยมากพอที่ต้องลำบากไหม” ดังนั้นแล้วเมื่อสบโอกาสจึงออกเดินทาง ซึ่งทำให้เธอรู้ว่าความโหดที่เขาว่าคืออะไร

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

 

“ความโหดคือมันต้องเดินเยอะมาก เดินอย่างเดียวไม่พอต้องแบกของเองด้วย” แม้ทริปที่เธอไปจะเป็นทริปทดลองของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย ที่ได้จัดเส้นทางใหม่โดยย่นระยะเวลาให้เหลือเพียง 3 วัน 2 คืน

“เราเริ่มนั่งรถจากที่ทำการอุทยานไป 16 กม. เริ่มต้นเดินที่แคมป์แม่กระสาไปแคมป์แม่เรวา แต่เส้นทางปกติจะเดินตั้งแต่ตีนเขาถึงแคมป์แม่กระสาเลย ระยะทางไปแคมป์แม่เรวาประมาณ 4 กม. ทางจะสบายๆ มีเนินนิดหน่อย ส่วนใหญ่เป็นป่าไผ่ เหมือนเป็นเส้นทางวอร์มร่างกายก่อนเจอของจริง” เธอเล่าให้ฟังถึงวันแรก ซึ่งจะไปนอนพักค้างคืนกันที่แคมป์แม่เรวา จากจุดนั้นสามารถเดินต่อไปที่น้ำตกแม่รีวาประมาณ 3 กม. น้ำตกแห่งนี้มีความสวยงามเพราะเป็นหินสีขาว เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังด้วยว่าที่หน้าผาเคยเจอเลียงผา เธอยังได้ดูคลิปที่เจ้าหน้าที่ถ่ายไว้ได้ สรุปวันแรกเดินไป 10 กม.

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

 

วันถัดมา จากแคมป์แม่เรวาเดินไปแคมป์ตีนดอยระยะทาง 8 กม. เส้นทางนี้ความยากจะมากขึ้นเพราะเป็นทางชันขึ้นเขาอย่างเดียว ระหว่างทางก็จะเห็นรอยตีนเสือ รอยหมีข่วนต้นไม้ และต้นไม้หลากหลายพันธุ์ที่เจ้าหน้าที่จะเล่าสรรพคุณให้ฟังตลอดทาง นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีร่องรอยบ้านของคนที่เคยอยู่อาศัยบนนี้มาก่อน ก่อนที่จะกลายเป็นพื้นที่อุทยาน

แคมป์ตีนดอยเป็นแคมป์สุดท้าย แต่จุดไฮไลต์ต้องเดินขึ้นไปอีกที่ หินเรือใบ “เย็นวันนั้นต้องรีบเดินก่อนมืดเพื่อจะได้เก็บภาพพระอาทิตย์ตก” เธอกล่าว “บางคนอยู่รอถ่ายทะเลดาวบนนั้นซึ่งอากาศจะหนาวขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตอนเช้าจะขึ้นไปดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ถ้าคืนนั้นโชคดีมีฝนตกลงมาเสียหน่อย ทะเลหมอกก็จะอลังการ”

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

 

วิวจากบนดอยจะเห็นผืนป่าตะวันตกมันกว้างใหญ่จนไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งอากาศก็เย็นบริสุทธิ์เต็มไปด้วยโอโซนจากป่าไม้ สำหรับขาลงจะเดินทางรวดเดียวจากแคมป์ตีนดอยถึงแคมป์แม่กระสา ระยะทาง 12 กม.

ส่วนเรื่องอาหารการกิน นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมอาหารสดและของแห้งไปเอง การทำอาหารจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่และลูกหาบ ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรเตรียมอาหารไปเผื่อพวกเขาด้วย เรื่องน้ำสะอาดสามารถตักได้จากลำธารเพราะผืนป่าแม่วงก์เป็นแหล่งต้นน้ำอยู่แล้ว การอาบน้ำ เธอไม่ได้อาบเพราะอากาศหนาว การเข้าสุขาที่แคมป์เรวามีห้องน้ำกั้นเป็นห้องๆ ให้ แต่นักท่องเที่ยวต้องไปตักน้ำในลำธารมาราดเอง แต่ที่แคมป์ตีนดอยไม่มีอะไรเลย จึงต้องอาศัยพงหญ้าและดูซ้ายแลขวาทำธุระส่วนตัวให้มิดชิด

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

 

เส้นทางที่โหดที่สุด เธอยกให้ “8 กิโลฯ นรก” จากแคมป์เรวาไปแคมป์ตีนดอย เพราะเป็นทางดินชันและลื่น เธอต้องแบกสัมภาระน้ำหนัก 5 กก. บนหลัง พร้อมกับอาการไข้ที่เล่นงานเธอตั้งแต่วันแรก

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เธอพิชิตยอดโมโกจูได้ไม่ใช่เพียงความอดทนเท่านั้น แต่เธอยังมีกำลังใจจากคนร่วมทริป และความเชื่อว่าสามารถทำได้ ถ้ามีโอกาสอีกเธอจะกลับไปพิชิตอีกแน่นอน

ข้อแนะนำจากสาวที่เคยผ่านมาแล้ว เธอแนะให้ออกกำลังกายให้ฟิต ฝึกเดินระยะไกล ฝึกแบกของเดิน และรักษาร่างกายไม่ให้มีส่วนใดบาดเจ็บ ที่สำคัญต้องรวมกลุ่มเพื่อนและจองให้ได้ เพราะกว่าจะเป็นหนึ่งใน 600 คนของปีไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งปีนี้ยังไม่แน่ว่าทางอุทยานจะเปิดเส้นทาง 5 วัน 4 คืน อีกครั้งหรือไม่ ถ้าเปิดจริงโมโกจูจะกลับมาเป็นเส้นทางเดินป่าระยะยาวและโหดที่สุดของไทยน่าจะสะใจขาโหดที่รักวิถีนี้

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู

 

 

จุดสุดยอด เมืองไทย โมโกจู