เปรี้ยว จี๊ดจ๊าด มะขามเมืองสองแคว
เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองสองแคว จ.พิษณุโลก มีเวลาว่างไปชิมและช็อปมะขามเปรี้ยวจากกลุ่มสตรีบ้านโนน
โดย...ชินวัฒน์ สิงหะ
เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองสองแคว จ.พิษณุโลก มีเวลาว่างไปชิมและช็อปมะขามเปรี้ยวจากกลุ่มสตรีบ้านโนน หมู่ 3 ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ไปเป็นของฝากญาติมิตรถูกใจนักหนา เพราะสารพัดคุณประโยชน์ทั้งเป็นยาสมุนไพรและเครื่องบำรุงผิวพรรณได้อีกด้วย โดยความเปรี้ยวของน้ำมะขามยังสามารถนำไปปรุงอาหารแทนมะนาวได้เพราะรสเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดไม่แพ้กัน
พิชญาภา มาอ่อน ประธานกลุ่มสตรีบ้านโนน หมู่ 3 บอกว่า มะขามเปรี้ยวเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของเกษตรกรไทย เพราะสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืน เนื่องจากปัจจุบันมะขามเปรี้ยวมีราคาสูงกว่ามะขามหวานบางสายพันธุ์เสียอีก ทำให้กลุ่มสตรีบ้านโนนอาศัยช่วงหน้าแล้งหลังว่างเว้นจากการทำนา และเป็นช่วงที่เข้าสู่เวลาที่ต้นมะขามที่มีปลูกอยู่ทั่วไปในหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก กำลังออกฝักเป็นผลแห้งแก่กำลังดี กลุ่มพ่อบ้านพากันออกไปปีนต้นมะขามเพื่อเก็บผลใส่กระสอบ รวบรวมมาให้กับกลุ่มสตรีบ้านโนนแกะมะขามเปรี้ยวขายเป็นอาชีพเสริม
“ในช่วงฤดูแล้งทุกปีจะว่างเว้นจากการทำนา ไม่สามารถทำการเกษตรอื่นๆ ได้เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง ขาดแคลนแหล่งน้ำธรรมชาติ จึงได้รวมกลุ่มแม่บ้านสตรีที่อยู่ในพื้นที่ใช้เวลาว่างร่วมกันแกะมะขามเปรี้ยว
ทำไปคุยกันไป ปีหนึ่งๆ สามารถมีรายได้กันรายละนับหมื่นบาท” พิชญาภา กล่าว
สำหรับมะขามเปรี้ยว หลังจากที่เก็บมาจากต้น ต้องเลือกเป็นฝักที่แก่ผลมะขามข้างในแห้ง จากนั้นนำมาทุบเอาเปลือกนอกออก แล้วนำมาแกะเอาเมล็ดที่อยู่ข้างในออกด้วย โดยจะมีกลุ่มพ่อค้าเดินทางมารับซื้อถึงในพื้นที่ ในราคากิโลกรัมละ 35 บาท ส่วนเมล็ดนั้นก็ไม่ต้องทิ้งก็ยังสามารถขายได้ในราคา 2 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ราคาจำหน่ายในตลาดสดตัวเมืองตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 80-100 บาท
นับว่าเป็นการหาแนวทางในการสร้างรายได้เสริมของกลุ่มชาวบ้านบ้านโนนอ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่ใช้เวลาว่างหาอาชีพเสริมและยังสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมะขามเปรี้ยวเป็นไม้ยืนต้นอายุยืน ไม่มีแมลงศัตรูพืชมารบกวน สามารถขึ้นได้เกือบทุกสภาพดิน แทบทุกภาคของประเทศ มะขามเปรี้ยวเป็นที่ต้องการของตลาด สำหรับใช้ในการทำอาหาร เป็นยาสมุนไพร และเครื่องบำรุงผิวพรรณ


