Festive Holiday Cranberry Bliss Bar
เมนูขนมประจำเทศกาลในร้านที่ผู้เขียนเเกะสูตรมาให้คุณผู้อ่านได้ทดลองทำในฉบับนี้ ผู้เขียนเคยชิมครั้งเเรก
โดย...สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio
เมนูขนมประจำเทศกาลในร้านที่ผู้เขียนเเกะสูตรมาให้คุณผู้อ่านได้ทดลองทำในฉบับนี้ ผู้เขียนเคยชิมครั้งเเรก นับมาได้ไม่ต่ำกว่า 14 ปี ลองถามน้องชายที่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ได้ความว่า เเม้เวลาผ่านไปก็ยังมีเมนูนี้อยู่ เมนูที่ว่าคือ Cranberry Bliss Bar นั่นเอง
เอกลักษณ์ของขนม Cranberry Bliss Bar คือ เป็นขนมสไตล์ “Bar” จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Sheetpan Cake หรือเค้กที่อบในถาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดสัก 50 เซนติเมตร เเล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงเรียกเป็น Bar หรืออาจจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
เเครนเบอร์รี่บลิสบาร์ มีลักษณะเนื้อเค้กได้หลายรูปเเบบ อย่างในอเมริกาค่อนข้างคล้ายไปทางเเครอตเค้ก คือ เนื้อไม่เเน่นมาก ออกฟูนิดๆ เเต่จะหนึบๆ หน่อย คล้ายกับจะมีไข่ไก่เป็นส่วนผสมหลักสไตล์บราวนี่บางสูตร ที่ญี่ปุ่นจะคล้ายๆ ขนม Blondie มีเนยเป็นส่วนผสมหลัก ส่วนที่ฮ่องกงจะออกไปทางเเห้งๆ สักนิด เพื่อให้รับประทานคู่กับ Frosting ด้านบนที่ทุกที่คล้ายกันหมด คือ เป็น Cream Cheese Frosting เเล้วโรย Cransin หรือ Cranberry แห้งสีเเดงสวยเข้ากับเทศกาลสังสรรค์
ผู้เขียนทดลองทำสูตรขนมที่คล้ายกับต้นตำรับมา 5 สูตร เลือกสูตรที่ง่ายๆ มานำเสนอในฉบับนี้ เนื้อของขนมจะอร่อยเเม้ว่าจะเเช่เย็น หรืออยู่ที่อุณหภูมิห้อง เพราะมีส่วนผสมเนยอยู่ไม่มาก จึงสามารถอร่อยได้ทุกอุณหภูมิ ถ้ามีเนยเป็นส่วนผสมหลัก หากรับประทานทันทีที่ออกจากตู้เย็น เนื้อขนมจะกระด้างกว่าไม่อร่อย
เนื้อของ Cranberry Bliss Bar ในเเบบของ Cookool นั้น จึงนุ่มๆ หนึบๆ มีส่วนผสมของเเครนเบอร์รี่กระจายอยู่ในเนื้อขนม เพิ่มความเข้มข้นด้วย Baking Chocolate ที่เป็น White Chocolate มาเป็นส่วนผสมด้วย กินเเล้วจะหวานๆ ซ้อนเปรี้ยว เข้ากับครีมชีสด้านบนเป็นอย่างดี
ขนมฝรั่งในช่วง Festive ขาดไม่ได้เลยต้องมีกลิ่นหอมๆ ของเครื่องเทศ อย่างอบเชย ลูกจันทน์ป่น กานพลู สำหรับเราคนไทยหากไม่คุ้น อาจเลือกที่จะไม่เติมความหอมด้วยเหล่าเครื่องเทศเเบบนี้ สำหรับผู้เขียนเเนะนำให้ “พบกันครึ่งทาง” คือ เติมเเต่งกลิ่นด้วยเครื่องเทศเเต่พอดี เน้นอบเชยที่กินง่ายหน่อย คู่กับลูกจันทน์ป่นที่เข้ามาช่วยสร้างสมดุลของกลิ่นอบเชยไม่ให้นำโด่งเตะจมูกนัก
เคล็ดลับหนึ่งที่ผู้เขียนคิดว่าทำให้สูตรของ Cookool เลียนเเบบออกมาได้อร่อยกว่า คือ เติมเเยมส้ม Marmalade เเบบน้ำตาลน้อย Low Sugar ลงในส่วนผสม Creamcheese Frosting นอกจากจะได้กลิ่นหอมสดชื่นที่ปลายลิ้นเเล้ว ยังสร้างเสน่ห์ให้กับขนมสูตรนี้ได้เป็นอย่างดี
Cranberry Bliss Bar ตามสไตล์ Cookool
สำหรับขนม
ไข่ไก่ 3 ฟอง
น้ำตาลทรายเเดง 220 กรัม
เนยจืด ละลาย 85 กรัม
เเป้งอเนกประสงค์ 230 กรัม
อบเชยป่น 1/2 ช้อนชา
ลูกจันทน์ป่น 1/4 ช้อนชา
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ช็อกโกเเลตชิปขาว 1/2 ถ้วย
เเครนเบอร์รี่เเห้ง 1/2 ถ้วย
สำหรับหน้าขนม Cream cheese frosting
ครีมชีส 2 ก้อน
น้ำตาลไอซิ่ง 2/3 ถ้วย
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
เเยมผิวส้ม 2 ช้อนโต๊ะพูน
สำหรับตกเเต่ง
เเครนเบอร์รี่เเห้ง 1/2 ถ้วย
สับหยาบๆ
ช็อกโกเเลตขาวละลาย 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
• อุ่นเตาอบที่ 190 เซลเซียส เตรียมถาดอบขนาด 50 ซม. ทาเนยบางๆ ปูกระดาษไขที่ก้นถาด
• ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายเเดงเเละเกลือป่น จนข้นเป็นริ้ว ประมาณ 8 นาที
• เติมเนยจืดละลายที่ไม่ร้อนเเละไม่เย็นจนเกินไป ลงไปเป็นสาย ตีจนเข้ากัน
• เติมเเป้งอเนกประสงค์ที่ร่อนกับลูกจันทน์เเละอบเชย ลงไป
• ใส่วานิลลา ช็อกโกเเลตชิป เเละผลไม้เเห้ง
• เทส่วนผสมลงในถาดอบ นำเข้าเตาอบ อบเป็นเวลา 12-15 นาที นำออกมาพักไว้บนตะเเกรง รอให้เย็นสนิท
• ระหว่างที่รอ ตีครีมชีสให้นุ่ม เติมน้ำตาลไอซิ่ง เเยมส้ม เเละกลิ่นวานิลลาลงไป ตีต่อให้เข้ากันเป็นครีมนุ่มๆ
• เมื่อขนมเย็นสนิทดีเเล้ว ปาดครีมชีสลงให้ทั่วหนาเท่าๆ กัน โรยด้วยเเครนเบอร์รี่เเห้งที่สับไว้หยาบๆ เเล้วบีบช็อกโกเเลตขาวเป็นเส้นๆ ริ้วๆ สำหรับตกเเต่ง
• นำขนมทั้งถาดเข้าตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำมาตัดเป็นขนาดที่ต้องการ
• วิธีเก็บขนมนี้ สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องในภาชนะปิดสนิทได้ 3-4 วัน หรือเก็บไว้ในภาชนะปิดสนิทในตู้เย็นได้ถึง 7-10 วัน


