posttoday

ช้างศึกข่มเบลารุส ลุ้นแชมป์คิงส์คัพ

16 กรกฎาคม 2560

ทีมชาติไทย ฟอร์มการเล่นในเกมแรกดูดีกว่าเบลารุส มีโอกาสที่จะลุ้นแชมป์สมัยที่ 15 ในนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลคิงส์คัพ

โดย...ชมณัฐ

ทีมชาติไทย ฟอร์มการเล่นในเกมแรกดูดีกว่าเบลารุส มีโอกาสที่จะลุ้นแชมป์สมัยที่ 15 ในนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 45 เย็นวันนี้ (16 ก.ค.)

ไทย - เบลารุส

สนามราชมังคลากีฬาสถาน

เวลา 19.30 น.

มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย ปลดล็อกชัยชนะแรกในการคุมทีมอย่างเป็นทางการเกมที่ 3 ของตัวเอง ด้วยการถล่มเกาหลีเหนือ ที่ได้รับการยกย่องว่ามีขุมกำลังที่เพียบพร้อมที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ขาดลอย 3-0 ในนัดเปิดสนามคิงส์คัพ 2017 โดยรูปเกมยังคงสไตล์ตั้งรับเหนียวแน่นแต่เพิ่มเติมด้วยเกมรุกที่เด็ดขาดขึ้น ทำให้ในนัดชิงมีลุ้นที่จะกำชัยเหนือเบลารุส ที่ฟอร์มยังไม่เข้าที่ได้ไม่ยาก

“โจเซ มูรินโญ (ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) เคยกล่าวไว้ว่า ไม่สำคัญว่ารูปเกมจะเป็นอย่างไร แค่ชนะในนัดชิงได้ก็เป็นพอ” ราเยวัช เผย

อย่างไรก็ตาม ทัพ “ช้างศึก” ยังมีปัญหาให้ต้องจัดการโดยเฉพาะเรื่องความฟิตของนักเตะที่ต้องบดขยี้กับผู้เล่น “โสมแดง” ที่รูปร่างใหญ่และแข็งแกร่งตลอดเกมนัดแรก ก่อนจะได้ประตูจาก มงคล ทศไกร (น.41), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (น.78) และ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย (จุดโทษ น.90) รวมถึงสภาพสนามที่ใช้งานติดต่อกัน 3 วัน 4 คู่

“เราเจอบททดสอบที่หนักมากจากเกาหลีเหนือ เพราะนักเตะเขามีสภาพร่างกายที่ฟิตวิ่งได้ตลอดทั้งเกม จากนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ดีที่สุดและพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าหากฟื้นฟูสภาพร่างกายดีพอจะทำให้เกมการแข่งขันสนุกยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราใช้สนามเดียวกันเล่นสองเกมติดต่อกัน สภาพสนามก็อาจจะไม่ได้ดีเท่าในเกมแรก อาจทำให้เล่นยากขึ้นกว่าเดิม” กุนซือวัย 63 ปี ระบุ

กุนซือชาวเซิร์บทิ้งท้ายว่าได้ศึกษาเกมของเบลารุสมาตลอด คู่แข่งมีนักเตะหน้าใหม่เพิ่มเข้ามา ทำให้เป็นทีมที่มีอนาคตสดใสและเล่นแข็งแกร่งสไตล์ยุโรปทำให้เล่นด้วยยาก โดยก่อนหน้านี้ก็เคยชนะบัลแกเรียมาแล้ว ซึ่งหากเกมต้องยืดเยื้อถึงการดวลเป้า ทัพ “ช้างศึก” ก็มีความพร้อมเพราะได้ซ้อมยิงจุดโทษมาตลอดอยู่แล้ว

สำหรับทีมชาติไทย ปัจจุบันรั้งอันดับ 131 ของโลก เป็นแชมป์เก่าและแชมป์รายการนี้มาแล้ว 14 สมัย ซึ่งหากสามารถป้องกันได้สำเร็จจะเป็นการคว้าโทรฟี่ 2 สมัยติดต่อกันในรอบ 10 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่ทำได้คือปี 2006-2007

ขุมกำลังเกมนี้คาดว่า ราเยวัช จะยังยึดผู้เล่นจากนัดที่แล้วในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แผงหลังจากซ้ายไปขวา พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, อดิศร พรหมรักษ์ กองกลางตัวรับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ แนวรุกจากซ้ายไปขวา ธีราทร บุญมาทัน, สรรวัชญ์ เดชมิตร, มงคล ทศไกร และ อดิศักดิ์ ไกรษร ล่าตาข่าย

“ประตูที่ทำได้ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น ที่ผ่านมาอาจจะมีช่วงเวลายากลำบากแต่ตอนนี้ผมได้เล่นฟุตบอลอย่างมีความสุขและมันส่งผลต่อทีมชาติไทย ตอนนี้ทุกคนได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายกันแล้ว เชื่อว่าวันแข่งจะพร้อมมากขึ้น ซึ่งเบลารุส เป็นทีมจากยุโรปมีสภาพร่างกายและแท็กติกที่ดี ส่วนตัวผมจะทำให้เต็มที่ เพราะความสุขของแฟนบอลชาวไทยคือการได้เห็นทีมคว้าชัยชนะ” จ่าเย็น
ผู้ยิงเบิกร่องให้ไทยในเกมแรก เปิดใจ

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังประกาศอัดฉีดเงินจำนวน 5 ล้านบาท ให้กับทัพ “ช้างศึก” หากคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้สำเร็จ

ช้างศึกข่มเบลารุส ลุ้นแชมป์คิงส์คัพ ทีมชาติเบลารุส

ด้าน เบลารุส ทีมอันดับ 71 ของโลก เข้าร่วมโม่แข้งรายการนี้เป็นครั้งแรก ก่อนดวลจุดโทษชนะบูร์กินาฟาโซ 3-0 หลังใน 90 นาทีกินกันไม่ลงเสมอ 0-0 ซึ่ง อิกอร์ ครูเชนโก เฮดโค้ช มั่นใจว่ารู้ช่องโหว่ในเกมรับของไทยแล้วหลังจากได้ดูฟอร์มแมตช์แรก

“ทีมไทยได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน และมีผู้เล่นที่มีความสามารถเฉพาะตัวดี ซึ่งจากเกมแรกต้องชื่นชมผู้รักษาประตู (กวินทร์) ที่เล่นดีมาก อย่างไรก็ตามแม้ไทยจะไม่เสียประตูให้เกาหลีเหนือ แต่เกมรับไทยยังไม่ถึงขนาดสมบูรณ์แบบ ยังเปิดโอกาสให้คู่แข่งได้ยิงหลายครั้งเพียงแต่ทำไม่ได้เอง เบลารุสจะใช้แท็กติกผสมทั้งเกมรับและรุกตามสถานการณ์เพื่อพยายามเอาชนะให้ได้ ถ้าแนวรับไทยเปิดช่องเมื่อไรจะเป็นโอกาสให้เราพังประตูแน่นอน” ครูเชนโก กล่าว

กุนซือผู้มาเยือนยอมรับว่าไม่การันตีว่าลูกทีมจะสามารถเผด็จศึกไทยใน 90 นาทีได้หรือไม่ และทีมก็ไม่ได้ซ้อมการยิงจุดโทษมา แต่เชื่อใจในตัวผู้เล่นทุกคนหากต้องชี้ชะตากันด้วยการดวลเป้าเหมือนที่แสดงให้เห็นแล้วในเกมที่ผ่านมา

เบลารุสชุดนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่มาจากทีมชุดยู-21 โดยมีเพียง พาเวล ซาวิทสกี เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีมวัย 23 ปีรายเดียวที่เคยติดธงชุดใหญ่(10 นัด 4 ประตู) และยังมีดีกรีทำ 7 ประตู จาก 15 นัด ช่วยต้นสังกัด เนมาน กอรดโน รั้งอันดับ 5 บนตารางคะแนนลีกสูงสุดบ้านเกิด โดยจะประสานงานกับ วลาดิสลาฟ คลิโมวิช กองหน้าเพื่อนร่วมค่ายในเกมนี้

ขณะที่คู่ชิงอันดับ 3 เกาหลีเหนือ แชมป์รายการนี้ 3 สมัย จะพบกับบูร์กินาฟาโซ ในวันเดียวกัน เวลา 16.30 น.

ความน่าจะเป็น : หากทัพ “ช้างศึก” สามารถเล่นได้ตามมาตรฐานในเกมแรกมีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะสูง เพราะเบลารุสดูแล้วสภาพทีมยังไม่ลงตัว