posttoday

อาเซียนจะไม่เป็นซีเรีย 2

29 กันยายน 2559

ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ

โดย...ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ

“อเมริกาไม่ได้อยู่ภายใต้การคุกคามของประเทศใด แต่อเมริกาต่างหากที่เป็นภัยคุกคามของชาวโลก” เป็นคำกล่าวของโอลิเวอร์ สโตน ผู้กำกับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดชาวอเมริกัน ที่เวลานี้ทำภาพยนตร์สารคดีทางโทรทัศน์ชุดใหม่ ชื่อ “ประวัติศาสตร์ของสหรัฐที่ไม่เคยมีเขาเปิดเผยมาก่อน” รวม 10 ตอน นอกจากทำภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์แล้ว เขายังร่วมกับปีเตอร์ คุซนิก นักวิชาการของมหาวิทยาลัยอเมริกาเขียนหนังสืออีกเล่มหนา 750 หน้าเปิดโปงเบื้องหลังต่างๆ ที่สหรัฐไปป่วนโลกให้คนอเมริกันได้รับรู้   

แม้เขาเป็นคนอเมริกันแต่ก็ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมอันอัปยศของรัฐบาลวอชิงตันที่เที่ยวกล่าวหาประเทศโน้นประเทศนี้ว่าจะเป็นภัยคุกคามอเมริกา สร้างความหวาดกลัวแต่คนอเมริกันเพื่อให้เห็นคล้อยตาม สนับสนุนนโยบายของวอชิงตันที่ไปวุ่นวายกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โอลิเวอร์ สโตน เคยเป็นทหารผ่านศึกมารบที่สงครามเวียดนามและได้รับเหรียญกล้าหาญด้วย เพราะฉะนั้นคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา

ในภาพยนตร์โทรทัศน์ชุดนี้ เขาได้ศึกษาตั้งแต่คดีฆาตกรรมอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ สงครามเวียดนาม จนถึงเหตุการณ์วันที่ 11 ก.ย. 2544 ที่อัลกออิดะห์ โจมตีตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ กลุ่มอัลกออิดะห์เป็นฝีมือของสหรัฐที่สร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้านกองทัพสหภาพโซเวียตที่ยึดครองอัฟกานิสถาน แต่กลับขยายตัวจนคุมไม่ได้และมาโจมตีตัวเอง ล่าสุดการที่สหรัฐเข้าไปแสวงประโยชน์ครอบครองบ่อน้ำมันในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะสถานการณ์ร้อนระอุในซีเรียขณะนี้วัตถุประสงค์สำคัญของการทำภาพยนตร์ชุดนี้ก็เพื่อต้องการให้เยาวชนอเมริกันได้รู้อีกมุมมองหนึ่งของประวัติศาสตร์อเมริกัน โดยเขาเห็นว่าเด็กอเมริกันถูกทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของตัวเอง ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น “อาชญากรรมทางการศึกษา”

หลังจากสงครามเย็นเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย ทำให้สหรัฐกลายเป็น “อภิมหาอำนาจโลกแต่ผู้เดียว” ที่ไม่มีใครเทียมได้ สหรัฐยิ่งได้ใจ นึกอยากจะทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ตะวันออกกลาง ซึ่งเป็น “แหล่งน้ำมันโลก” ที่สหรัฐต้องครอบครองให้ได้ เพราะเป็น “ผลประโยชน์สำคัญยิ่ง” ด้านเศรษฐกิจและการทหารของสหรัฐ สหรัฐจะไม่ยอมปล่อยตะวันออกกลางให้หลุดจากมือตัวเองเป็นอันขาด และพร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่อรักษาผลประโยชน์ตรงนี้ไว้

สหรัฐใช้การถูกอัลกออิดะห์โจมตีตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ โกหกคนทั่วโลกและคนอเมริกัน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการยึดครองอิรัก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบสำคัญอันดับต้นๆ ของโลก โดยอ้างว่าอิรักสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพโลก รวมทั้งโค่นล้มรัฐบาลลิเบียและสังหาร ประธานาธิบดี กัดดาฟี เพื่อคุมแหล่งน้ำมันสำคัญในแอฟริกาเหนือ

ยุทธวิธีที่สหรัฐนิยมใช้คือ ก่อให้เกิดความไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลางทั้งภูมิภาค  สร้างความวุ่นวาย ยุ่งเหยิง แล้ววางแผนยุทธศาสตร์ทางทหารส่งกำลังเข้าไปแก้ไขปัญหา ระยะหลังคนอเมริกันชักไม่ยอมให้ลูกหลานของเขาไปตาย บาดเจ็บในดินแดนประเทศอื่น เลยต้องสร้าง “หุ่นเชิด” ขึ้นมาแทน ล่าสุดคือ การสร้างกลุ่ม “ไอซิส” ซึ่งเวลานี้มีอิทธิพลอยู่ในอิรักและซีเรีย เพื่อโค่นล้มรัฐบาลอัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ที่มีรัสเซียหนุนหลัง

คนที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือจัดส่งอาวุธประเภทต่างๆ ให้กับกลุ่มไอซิสไม่ใช่ใครอื่นไกล  ก็คือ ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาล บารัก โอบามา และเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจนจากการเปิดเผยของจอมแฮ็กเกอร์ชื่อดังที่สามารถดักกับและถอดรหัสการติดต่อระหว่างนางกับกลุ่มไอซิสได้ 

นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่อดีตผู้นำไอซิสแปรพักตร์นำมาเปิดเผยอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยทั้งหนักและเบาที่สหรัฐส่งให้ตลอด แกนนำคนหนึ่งของกลุ่มติดอาวุธอัลกออิดะห์ที่เรียกว่า “แนวร่วมนุสรา” ซึ่งมารับจ้างทำงานในซีเรีย เปิดเผยว่า ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากสหรัฐผ่านประเทศที่เป็นพวกตัวเองในตะวันออกกลาง วันเวลาผ่านไป ข่าวคราวที่สหรัฐอยู่เบื้องหลังกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ในตะวันออกกลางก็ถูกเปิดโปงมากขึ้น

สงครามในซีเรียที่ถูกมองกันว่าเป็น “สงครามตัวแทน” หรือ “พร็อกซีย์ วอร์” ระหว่างสหรัฐที่หนุนหลังกลุ่มกบฎไอซิสกับรัสเซียที่หนุนหลังรัฐบาลซีเรียเวลานี้ หลายคนเกรงว่าจะไม่ใช่สงครามตัวแทนแล้ว เพราะสหรัฐและรัสเซียเปิดหน้าแย็ปกันแล้ว เร็วๆ นี้ อเมริกาส่งเครื่องบินรบไปถล่มทหารรัฐบาลซีเรียตายและบาดเจ็บไปหลายสิบคน โดยอ้างว่าเป็นการทิ้งระเบิดพลาดเป้าทั้งที่เป้าหมายห่างกันเป็นหลายสิบกิโลเมตร แบบนี้เท่ากับเป็นการช่วยกลุ่มไอซิสกันตรงๆ ไม่กี่วันต่อมา  เรือรบรัสเซียที่อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในเขตน่านน้ำซีเรียได้ยิงจรวดถล่มกองบัญชาการของกลุ่มกบฎที่เมืองอเลปโป ทำให้ทหารกบฎตายไปหลายสิบคน 

มีรายงานว่าในจำนวนนั้นมีนายทหารพันธมิตรอเมริกันที่มาช่วยวางแผนให้กลุ่มไอซิสปฏิบัติการโจมตีเมืองอเลปโปเสียชีวิตไปด้วย ต่อมาขบวนรถสหประชาชาติติดตรายูเอ็นขนาดใหญ่ที่ไปช่วยบรรเทาทุกข์ประชาชนที่อดยากถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าใส่ อเมริกากล่าวหาว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย รัสเซียตอบโต้โดยเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมว่าเป็นฝีมือของกลุ่มกบฎที่อเมริกาสนับสนุนนั่นแหละสร้างเหตุการณ์ขึ้นมา

ประธานาธิบดี ปูติน แห่งรัสเซีย เคยเตือนชาวโลกว่า สหรัฐกำลังจะจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ซีเรีย สหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่บี 52 รวม 6 ลำ ไปประจำที่กาตาร์ ส่วน พล.อ.ฉางว่านฉวน เสนาธิการทหารของจีน เตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือสงครามโลกครั้งที่ 3 จริงอยู่เรื่องนี้คงไม่เกิดเพราะทุกฝ่ายคงไม่ยอมกระโดดลงเหว

ส่วนพวกเราชาวอาเซียนก็เตรียมตัวรับมือกับอเมริกันที่ประกาศนโยบายปักธงในเอเชีย  เวลานี้สหรัฐเสนอตัวจะมาช่วยรัฐบาลอินโดนีเซียและมาเลเซียปราบปรามไอซิส หลังจากยุอาเซียนให้ทะเลาะกับจีนไม่สำเร็จ สองรัฐบาลรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน เพราะไม่อยากเป็นซีเรีย 2

ภาพ...เอเอฟพี

ข่าวล่าสุด

โดนไม่หยุด! Perplexity ถูกสำนักข่าวชื่อดังหลายแห่งฟ้องร้อง