posttoday

แฉกลลวงมิจฉาชีพต่างชาติ หวังต้มคนไทย แค่เซ็นรับก็เสียเงินแล้ว

28 กันยายน 2560

หนุ่มโพสต์เปิดโปงขบวนการมิจฉาชีพต่างชาติ หลอกส่งพัสดุให้คนไทย หลังเซน-จ่ายเงินจะพบว่าเป็นขยะ

หนุ่มโพสต์เปิดโปงขบวนการมิจฉาชีพต่างชาติ หลอกส่งพัสดุให้คนไทย หลังเซน-จ่ายเงินจะพบว่าเป็นขยะ

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. สังคมออนไลน์เผยแพร่โพสต์ข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Yutha Krainarong” ของคุณยุทธา ไกรณรงค์ ที่ออกมาบอกเล่าเรื่องราวเตือนภัยคนไทย ถึงกลโกงมิจฉาชีพ (ที่คาดว่าเป็นชาวต่างชาติ) ซึ่งมาในรูปแบบหลอกให้เหยื่อเซนรับพัสดุ ที่จะมีการเรียกเก็บเงินปลายทาง แต่พอเปิดพัสดุออกมา กลับเป็นของไม่มีมูลค่า

“ระวัง !! โดนกับตัว มีของมาส่งจาก...ผ่านทาง (บริษัทจัดส่งพัสดุชั้นชื่อดัง) และจะมีการเก็บเงินปลายทาง 1,680 บาท โดยเหยื่อ คือ ผู้รับ (เรา) และคนเลวคือ คนส่งสินค้าจากต่างประเทศ วิธีการคือ คนเลวพวกนี้ไปเอาฐานข้อมูลมาจากไหนไม่รู้ สุ่มส่งมั่วไปยังที่ต่างๆ ในไทย ใครไม่ทันคิด เซ็นรับต้องจ่ายเงิน เปิดออกมา เป็นอะไรไม่รู้ มูลค่าไม่เกินร้อยบาท (บริษัทส่งของ) ก็รับเรื่องร้องเรียนจนแน่น

วิธีการของพวกนี้คือ ซื้อโอกาสลักไก่ ส่งของมั่วๆ ไปยังผู้รับ โดยมีคำสั่งฝากส่งให้ (บริษัทส่งของ) เรียกเก็บเงินปลายทางในอัตราตั้งแต่ 900 ถึง สองพันบาทต่อชิ้น ซึ่งมีการระบุ (รายชื่อและเบอร์โทรผู้รับ เอามาจากไหน คงต้องสืบกันต่อไป บางคนงง เห็นว่าชื่อตรงเบอร์โทร และยอดเงินไม่มาก ก็ยอมจ่ายให้พนักงาน ที่มีหน้าที่เก็บเงิน และนำส่งเข้าระบบ ทั้งนี้กฏหมายและสัญญาการฝากส่งของ (บริษัทส่งของ) ผู้รับไม่สามารถแกะหีบห่อออกดูก่อน จ่ายเงินได้

ฉะนั้นพอจ่ายเงิน บางคนแกะดู บางคนเก็บไว้แกะทีหลัง บางคนก็รับแทนญาติหรือคนในครอบครัวที่มีชื่อตามจ่าหน้า ที่แกะดูเลย จะเห็นว่าของนี่มันขยะมูลค่าไม่เกินร้อย ที่รับไว้แทนหรือที่ยังไม่แกะดูกว่าจะรู้ อาจเลยกำหนดที่แจ้งไปยัง (บริษัทส่งของ) ว่าส่งมาผิดไปจากที่สั่ง หรือจริงๆ แล้วไม่ได้สั่ง เงินก็ถูกโอนไปยังไอ้ขี้โกงในประเทศ..เรียบร้อยแล้ว พวกนี้หวังผลเพียงหากครึ่งหนึ่งของของที่ส่งมั่วไป มีคนรับหรือรับแทน ก็คุ้มค่าการลงทุนในกลโกงแล้ว ทั้งนี้หากไม่แน่ใจว่ามีสั่งของแบบเก็บเงินปลายทาง ให้แจ้งปฏิเสธกับพนักงานผู้นำส่งได้เลย โดยบริษัทรับส่งของดังกล่าว กำลังหามาตรการวิธีจัดการกับพวก 18 มงกุฎอยู่” ผู้โพสต์ ระบุ

อย่างไรก็ตามภายหลังเรื่อวราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็มีผู้เข้าไปกดแชร์เรื่องเตือนภัยนี้เกือบ 1.4 หมื่นครั้ง พร้อมกับแสดงความคิดเห็นให้คนในสังคมระมัดระวัง

ที่มา https://www.facebook.com/yuthak/posts/10210133739606436