"เราผิดหรอ-คนอื่นทำกัน" คำต่อคำ ป้า "From Thailand"
แอนนา อรวรรณ หญิงที่อยู่ในคลิปฝ่าฝืนป้ายห้ามเข้าพื้นที่บางจุดในอุทยานเยลโลว์สโตน เปิดใจต่อกรณีดังกล่าวครั้งแรก
แอนนา อรวรรณ หญิงที่อยู่ในคลิปฝ่าฝืนป้ายห้ามเข้าพื้นที่ในอุทยานเยลโลว์สโตน เปิดใจต่อกรณีดังกล่าวครั้งแรก
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. จากกรณีที่มีสมาชิกยูทูปชื่อ Jeffh34 ได้เผยแพร่ภาพกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ฝ่าฝืนป้ายห้ามเข้าภายในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ประเทศสหรัฐอเมริกา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมนั้น
ล่าสุด สถานีวิทยุโทรทัศน์ทางช่อง 3 ได้สัมภาษณ์ แอนนา อรวรรณ หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ปรากฏในคลิปซึ่งได้เอ่ยคำว่า "From Thailand" ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แอนนา ยืนยันว่า เป็นคนที่พูดว่า From Thailand จริง แต่วันเกิดเหตุบริเวณนั้น ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มตนเองเท่านั้น แต่ยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ที่เดินเข้าไปในจุดดังกล่าวด้วย แต่ในคลิปกลับเห็นว่า มีเพียงพวกเธอเพียงกลุ่มเดียว
"คนที่ถ่ายคลิป ก็เดินมาจากคนข้างหลัง กลุ่มที่พึ่งเข้ามา 4 คน (หญิง 2 ชาย 2) แต่ไม่ทราบว่าเป็นชาติอะไร เค้าก็เข้ามาถ่ายรูป เราก็ไม่ได้อะไร ก็แค่โบกมือบ๊ายบาย ทักทายเค้า และก็พูดว่า ok From Thailand โดยไม่รู้ว่า เค้ามีเจตนาอะไร แต่เค้าก็ว่า มีเด็กเอานิ้วไปจิ้มน้ำ ซึ่งมันก็ไม่ได้ร้อน"
“ถ้าร้อน พวกคุณดูเฟซ ในคลิปได้เลยว่า มีต้นไม้เขียวและมีหญ้าขึ้นรอบๆ ใช่ไหม เพราะน้ำตรงนี้ วอร์ม (อุ่น) คะ คือ อุ่นไม่ถึงกับร้อนหรือเดือด ลวกไข่ก็ไม่สุก เหมือนกับเราอาบน้ำอุ่นหน้าหนาว”
ยืนยันว่าตรงนั้น ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มคนไทยของเรา แต่มีฝรั่ง 2 คน ยืนอยู่ก่อน แต่กลุ่มของเรามันมีเยอะเป็น 10 คน
พิธีกร : พอคลิปออกมาก็ถูกตำหนิ เพราะเค้ามีป้ายเตือนว่าอันตราย
แอนนา : แต่ป้ายนี้ มีทุกระยะทางนะ ไม่ใช่มีแค่จุดนี้ ถ้าเค้ามีคลิปให้เค้าย้อนดูตั้งแต่เราเดินเข้ามาในอุทยานเยลโลว์สโตน มีป้ายตลอด ถ้าหากตรงไหนอันตราย จะมีการกั้นรั้ว ไม่ให้เดินลงจากถนน แต่ถนนกับบ่อมันอยู่ใกล้ๆ กัน
พิธีกร : ช่วงท้ายคลิปมีเสียงเจ้าหน้าที่บอกห้ามเดินเข้าไป
แอนนา : ไม่มีเจ้าหน้าที่ ไม่มี ตรงนั้นมีแต่นักท่องเที่ยว ซึ่งเค้าเห็นป้าย ก็บอกว่าห้ามเดินเข้าไป “มันคือทุกคนเค้าเดิน ใครจะเดินเข้าไปดูบ่อใหญ่ๆ คนทุกคนเค้าก็แวะกัน ทีนี้กลุ่มเรามันกลุ่มใหญ่ ของเค้ามันมี 1-2 คน มีฝรั่ง คนแก่ สามี-ภรรยา ไปนั่งเอานิ้วไปจุ่มเลย แต่ตรงนี้เค้าไม่ได้ถ่าย คือ ตรงนี้เค้าไม่สนใจ และผู้หญิงฝรั่งก็พูดเลยวอร์ม (อุ่น)”
พิธีกร : อย่างนี้แสดงว่าเราไม่ได้ทำผิดกฎอะไรของอุทยาน
แอนนา : ไม่มี เพราะเจ้าหน้าที่ในอุทยานเค้าจะพกโทรโข่ง เค้าจะพูดออกมา แต่นี่ไม่มี ไม่มี ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้หญิง-ผู้ชายเค้าก็เดินตรวจดูตลอดทุกเส้นทาง เพราะเส้นทางนี้มันเป็นทางตรง แต่มีทางชันนิดนึง ป้าก็พบว่า เค้าอยู่ในเหตุการณ์ แต่เค้าบอกว่าตรงนี้เข้าไปไม่ได้ คือ เหมือนมันมีเด็กด้วย เค้าคงคิดกลัวว่า เด็กจะเป็นอันตราย ซึ่งนั่นเป็นความคิดของพี่นะ ว่าเค้าเห็นเด็กนั่งเอามือจิ้ม ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ก็คงเห็นเด็ก
แต่จริงๆ ป้ายตรงนี้เค้าจะเตือนผู้ปกครองที่มีเด็กประมาณ 6-7 ขวบที่ซน คือจะให้ดูแลลูกหลานท่าน อย่าให้เด็กวิ่งซนเข้าไปถึงปากบ่อ ซึ่งเราคิดแบบนั้น
พิธีกร : ก่อนที่เราจะลงไปเที่ยว เค้ามีคำแนะนำ คำเตือน หรือมีคนมาอธิบายวิธีการเข้าไปเที่ยวหรือไม่
แอนนา : ไม่มี หากตรงไหนมีเค้าจะมีรั้วล้อมตีไว้เป็นคอก และเขียนป้ายว่าอันตราย เราก็แค่ชะเง้อดู แต่ไอตรงเราไปเดินดู คุณเห็นไหมมันโล่งๆ ทุกคนเดินไป เดินไป อยากรู้ว่าน้ำร้อนแค่ไหน อะไรอย่างี้ ทุกคนจะเดิน แต่พอดีกลุ่มของพี่มันเป็นกลุ่มใหญ่หลายคน
พิธีกร : เมื่อเดินลงไปตรงนั้นลื่นหรือไม่
แอนนา : ไม่ลื่นเลย ไม่ลื่น ไม่ลื่น เป็นดินแข็งๆ ไม่ลื่น ไม่ยุบ ไม่อะไร แต่ที่เค้าติดไว้เห็นไหม ป้ายเล็กๆ ที่ติดไว้กับเสา ไม่ติดติดป้ายใหญ่ๆ
พิธีกร : หากพิจารณาดูจากป้ายเค้าบอกว่าห้ามเค้าไป
แอนนา : ค่ะ ใช่
พิธีกร : เมื่อเค้าบอกห้ามเข้าไปและเมื่อเข้าไปถูกต้องหรือ
แอนนา : ค่ะ แต่พี่ดูแล้วนะ ถ้าหากพี่ย้อนที่ถ่ายรูปไว้ ตลอดเส้นทาง ป้ายนี้จะเขียนไว้ตลอดช่วงที่มีบ่อน้ำร้อน ถ้าเป็นหญ้าจะไม่ได้เขียน
พิธีกร : ในโลกออนไลน์ตีความจากป้ายว่าห้ามเข้าไป
แอนนา : แต่เค้ามีคนลงไปก่อน มีอยู่แล้ว และตรงนั้นมันร่มและหญ้ามันก็เขียว มันไม่ร้อน เพียงแต่ความคิดพี่ว่าเค้า เตือนเด็กๆ และผู้ปกครองที่มีเด็กไป
พิธีกร : หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ออกไปหลายคนมองว่า อาจทำให้คนไทยถูกมองว่าไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ
แอนนา : คุณเห็นฝรั่ง 2 คนยืนไหมในคลิป แต่ไม่รู้ตอนไหน ซึ่งเค้าก็มี แต่ถ้ามีคลิปและกล้องนั้นลงเร็วหน่อย จะเห็นสามี-ภรรยาฝรั่งเอานิ้วจุ่มอยู่ ก่อนที่กลุ่มพวกพี่จะเดินเข้าไปถึง แต่พอเค้าเห็นกลุ่มพวกพี่เดินเข้าไป เขาก็ลุกเดินออกและก็พูดว่าวอร์ม
พิธีกร : หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้คุยกับคนที่อยู่ในคลิปหรือไม่ ว่าจะตอบเรื่องราวเหตุการณ์นี้อย่างไม่
แอนนา : ก็ไม่ได้คุยนะ แต่บางทีก็มีคนบอกว่า พี่ มันไม่ใช่เรื่องอะไร แต่เราก็บอกไปเพียงว่าตอนนี้มีคนถามมาเยอะ แต่จริงๆ แล้วคนที่สำคัญที่จะตักเตือนเรา จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่เค้าก็เฉยๆ เพราะว่ามันไม่อันตราย แต่ส่วนที่อันตรายคือที่เค้ากั้นรั้ว ที่ไม่ควรเข้าไปเด็ดขาด ถ้าอันตรายจริง เค้าต้องกั้นรั้วเป็นแนวแล้ว แต่ตรงนี้เค้าไม่ได้กั้น เพราะเค้ากั้นเป็นช่วง เพราะที่อเมริกา ถ้าตรงไหนอันตรายเค้าจะมีป้ายใหญ่ๆ เขียนว่าอันตรายไว้
พิธีกร : ถ้าไปเที่ยวครั้งต่อไปในสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ พี่แอนนา จะปฏิบัติตามป้ายที่เค้าแนะนำหรือไม่
แอนนา : ก็...อันนี้เราผิดหรอ บางทีเราขับรถในอเมริกา ป้ายที่เค้าให้คนพิการจอด ที่เราจอดแปปเดี๋ยว หากมีคนรออยู่ในรถ ก็ทำได้แปปนึง คือ เรารู้ เรารู้อยู่ แต่บางทีมันฉุกเฉิน บางทีเดี๋ยว ฉันอาจจะลงไปหยิบของหน่อยนะ บางคนเค้าทำกัน ก็มีนะคะ
พิธีกร : คุณแอนนาจะบอกว่าถ้าเค้ามีป้ายห้าม แต่ทำได้แบบหรือ
แอนนา : แต่ไม่ใช่ตัวพี่นะ คือ เห็นคนอื่น เค้าเป็นคนอเมริกัน เค้าก็ทำ มันไม่ใช่เฉพาะกลุ่มคนไทยนะ แต่บางทีเค้ารีบร้อนก็สตาร์เครื่องรถทิ้งไว้ ซึ่งก็มี
พิธีกร : ทุกคนอยูในอเมริกาแล้วใช่ไหม
แอนนา : ใช่คะ พี่ก็ทำธุรกิจอยู่ แต่ก็ไปเมืองไทยบ้าง