posttoday

สาวเล่าวินาทีถูกโจรใจทรามขับรถปาดหน้า ก่อนปล้นทรัพย์-ทำร้ายร่างกาย

11 กรกฎาคม 2560

เตือนภัยสังคม พยาบาลสาวถูกมิจฉาชีพสร้างสถานการณ์ขับรถปาดหน้า ทำทีเป็นเจ็บให้เหยื่อลงจากรถ ก่อนทำร้ายร่างกายเเละปล้นทรัพย์ เหตุเกิดที่ จ.ตรัง

เตือนภัยสังคม พยาบาลสาวถูกมิจฉาชีพสร้างสถานการณ์ขับรถปาดหน้า ทำทีเป็นเจ็บให้เหยื่อลงจากรถ ก่อนทำร้ายร่างกายเเละปล้นทรัพย์ เหตุเกิดที่ จ.ตรัง

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. สมาชิกเฟซบุ๊ก Kwansiri Jongjraijak อาชีพพยาบาล เผยประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง เจอกลุ่มมิจฉาชีพสร้างสถานการณ์ ขับรถปาดหน้าอย่างกะทันหันให้ตกใจ พอลงจากรถเข้ารุมล็อคตัวเเละปล้นทรัพย์

เธอ เริ่มเล่าว่า ในยามดึก ขณะขับรถยนต์จากที่ทำงานกลับบ้าน ถนนเส้นบายพาส เพื่อเข้าสู่ทางสนามบินตรัง-กันตัง เมื่อผ่านเส้นทางสนามบินเลี้ยวขวาไปทางนาป้อ สู่เส้นบางหมาก อยู่ๆ มีวัยรุ่นชาย 3 คน ขับรถเครื่องสีดำ ปาดหน้ารถยนต์ของตน ด้วยความตกใจ จึงเหยียบเบรคกะทันหัน

"ตอนนั้นคิดด้วยซ้ำว่าเราชน 3 คนนี้เเน่นอน เลยลงจากรถด้วยความตกใจ ไม่คิดอะไรมากด้วยความเป็นพยาบาล เลยถามไปว่า เจ็บตรงไหนไหม เเต่สิ่งที่ไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้น ชาย 3 คนนี้ สร้างสถานการณ์ทั้งๆ ที่่รถไม่ได้ล้มเเต่อย่างใด"

เธอถูกชายหนึ่งในนั้น ล็อคคอ ใช้ปืนจี้เอว บังคับให้ขึ้นรถ ขณะที่ชายอีกคนก็เดินมาทางประตูด้านหน้าข้างคนขับ ส่วนชายคนที่ 3 ยืนดูลาดเลาด้านนอก

หญิงสาวรายนี้ บอกต่อว่า ขณะอยู่ในรถยนต์ ชาย 2 คนใช้อาวุธปืนเเละมีด พยายามข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย เเละรื้อค้นเงินสดในกระเป๋าได้ไปจำนวน 7000 บาท เเละสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง

"มันขู่ในรถ ถ้าไม่อยู่นิ่งๆ จะยิงให้ตาย  เรากลัวมาก พยายามสะบัดมือ เเละเปิดประตู ชาย 2 คนนี้ ดึงผมเรา เเละจับเเขนเรา เเล้วเอามีดคัตเตอร์ กรีดเเขนด้านซ้าย เป็นหลายๆเเผล เเละต่อยเข้าที่หน้าท้อง 2 ครั้ง เราเลยร้องเเบบจุกว่า อย่าทำไรเราเลย ก่อนจะลงจากรถมัน เอาหมวกกันน็อคฟาดที่ท้ายทอย 2ครั้ง เเละตบที่หน้า 1 ครั้ง"

เธอทิ้งท้ายว่า ขอเตือนภัยทุกคน หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอย่าลงจากรถเด็ดขาด นับว่าโชคดีที่ตนยังไม่ถูกข่มขืนหรือฆ่า

ด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า  ตอนนี้กำลังเร่งทำการสเก๊ตช์ภาพของคนร้ายทั้ง 3 คน จากคำบอกเล่าของผู้เสียหาย  พร้อมกับส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแส ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกวดขันป้องกันอาชญากรรมอย่างเต็มที่ ซึ่งในตัวเมืองค่อนข้างจะได้ผล  แต่ยังมีช่องว่างในรอบนอกรอยต่อระหว่างตำบล อำเภอ เนื่องจากบางจุดค่อนข้างเปลี่ยว  ประกอบกับมาเจอกับสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ด้วย จึงขอให้ประชาชนช่วยกันดูแลตัวเองด้วย