สั่งย้าย 4 ตร.ล็อกคอชายถ่ายรูป-เหยื่อเเจงถูกใส่ร้ายว่าเป็นต่างด้าวเมาสุรา

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. ออกคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นายตามที่ปรากฏในคลิปดัง ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.จร. เพื่อไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดประชาชน

จากกรณีที่โลกออนไลน์เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์เจ้าที่ตำรวจ 4 นาย พยายามควบคุมเเละล็อกตัวชายรายหนึ่งริมถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ย่านคลองเตย พร้อมระบุข้อความประกอบว่า

"จับประชาชนเยี่ยงอาชญากร เพราะถ่ายรูปการทำหน้าที่" โดยภายหลัง ผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้ง 4 นาย ออกมาชี้เเจงว่า การกระทำดังกล่าวเกิดจากความเข้าใจผิด ตำรวจคิดว่าชายคนนี้เป็นต่างด้าวเเละมีอาการมึนเมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เม.ษ. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) นายปาโมกข์ รอดเที่ยง บุคคลที่ปรากฏในคลิป และนางสาวธัญญพัทธ์ เลิศเสรีกุล ภรรยา พร้อมด้วยทนายความเดินทางมาที่ บก.จร.

นายปาโมกข์ กล่าวว่า ไม่พอใจที่ตำรวจออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยถ้อยคำดังกล่าว พร้อมเปิดร่องรอยบาดแผลจากการถูกจับกุมตามร่างกาย โดยยืนยันว่าเป็นคนไทยมีบัตรประชาชน เเละไม่ได้เมาสุราตามที่ถูกกล่าวหา รวมถึงยังถูกตำรวจชุดจับกุมผลักไปชนกระจกรถทำให้เสียหาย แต่กลับเป็นฝ่ายถูกดำเนินคดีและใส่กุญแจมือ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ

นายปาโมกข์ บอกว่า หลังเกิดเหตุไม่สามารถนอนหลับสนิทได้ และกลัวการเข้าพบกับตำรวจ เนื่องจากความหวาดระแวง จึงอยากให้มีการลงโทษและเยียวยาผู้เสียหายจากสิ่งที่เกิดขึ้น

ต่อมา พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. เชิญผู้เสียหายเข้าไปหารือโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไป ใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง จึงออกมาแถลงข่าวร่วมกัน

พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า ได้ออกคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นายตามที่ปรากฏในคลิป ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจจราจร (ศปก.บก.จร.) เพื่อไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดประชาชน และให้ ผกก.1 บก.จร.ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยและทางอาญา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม พร้อมชี้แจงว่าการปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว เป็นการกวดขันวินัยการจราจรผู้ที่จอดรถในที่ห้ามจอด และขับรถย้อนศร เพื่อความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นการตั้งด่าน

เรื่องผู้เสียหายเมาสุราเป็นเพียงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ส่วนการใช้คำพูด การกระทำที่ไม่เหมาะสมของตำรวจ ได้กำชับให้ระมัดระวังการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่แต่ละคนมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ ผบก.จร. ยืนยันว่าประชาชนสามารถถ่ายภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ได้และไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย