posttoday

"รถเมล์..ตามหาเด็กหาย" คันแรกของไทย หวังเบาะแส-ตื่นตัวเรื่องเด็กหาย

22 เมษายน 2559

มูลนิธิกระจกเงา เทใจดอทคอม และแพลนบีมีเดีย ร่วมเปิดตัวรถเมล์ตามหาเด็กหายคันแรกของไทย

มูลนิธิกระจกเงา เทใจดอทคอม และแพลนบีมีเดีย  ร่วมเปิดตัวรถเมล์ตามหาเด็กหายคันแรกของไทย

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน มูลนิธิกระจกเงา ร่วมกับ เทใจดอทคอม และแพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัว รถเมล์...ตามหาเด็กหาย คันแรกของประเทศไทย โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิกระจกเงา เทใจดอทคอม และแพลนบีมีเดีย จำกัด(มหาชน) ในการติดสติ๊กเกอร์ประกาศตามหาเด็กหาย รอบคันของรถเมล์ ซึ่งงบประมาณทั้งหมดได้มาจากการระดุมผ่านเวปไซค์เทใจดอทคอม จำนวน 1 แสนบาท ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทแพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เจ้าของสัมปทานพื้นที่โฆษณารอบรถเมล์ ได้จัดทำให้จำนวน 5 คัน

นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า รถเมล์...ตามหาเด็กหาย ถือเป็นเครื่องมือหนึ่ง ที่จะประชาสัมพันธ์หาเบาะแสของเด็กที่หายไปนานแล้วและยังไม่พบตัว นอกจากนี้ ยังเป็นสื่อรณรงค์ต่อคนในสังคมให้ตระหนักต่อปัญหาเด็กหาย มูลนิธิกระจกเงา ขอยืนยันจะทำทุกวิธีการและทุกช่องทางในการพาเด็กหายที่ยังไม่พบตัว กลับคืนสู่ครอบครัวให้ได้ ซึ่งหากได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันเป็นหูเป็นตา จะยิ่งทำให้มีโอกาสในการพาเด็กหายกลับบ้านได้อย่างแน่นอน

น.ส.สิรินาท ต่อวิริยะเลิศชัย ที่ปรึกษาwww.taejai.com กล่าวว่า เทใจดอทคอมเป็นเว็บไซต์ระดมทุนพร้อมกับช่องทางการสร้างความมีส่วนร่วมของคนในสังคมให้ทำเรื่องดีๆ ได้เกิดขึ้นจริง โดยเทใจเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีโครงการเพื่อสังคมนำเสนอโครงการผ่านหน้าเว็บให้ทุกคนที่สนใจร่วมสนับสนุน และโครงการรถเมล์ตามเด็กหายเป็นตัวอย่างอีกโครงการหนึ่งที่คนไทยในประเทศและต่างประเทศร่วมบริจาคค่าทำสติ๊กเกอร์รูปคนหายเพื่อให้คนบนท้องถนนเป็นหูเป็นตาตามคนหายเหล่านั้นกลับคืนสู่ครอบครัว

น.ส.เรืองสิริ สถิรกุล ผู้จัดการการตลาดและการสื่อสารองค์กร ผู้แทน บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในการได้มีส่วนร่วมเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการสร้างการรับรู้เพื่อช่วยตามหาเด็กหายโดยการใช้สื่อโฆษณาบนรถประจำทางปรับอากาศ ด้วยความมุ่งหวังให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน บริษัทฯได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือโดยมอบรถประจำทางปรับอากาศเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และตามหาเด็กหายจำนวนทั้งสิ้น 5 คัน พร้อมเลือกสายรถที่ครอบคลุมทุกเส้นทางหลักในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล โดยบริษัทฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในครั้งนี้จะส่งผลช่วยให้ประสบความสำเร็จในการตามหาเด็กหาย และช่วยรณรงค์กระตุ้นให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนมากยิ่งขึ้น

ด้านนางโสรยา ด่านเกื้อกูล มารดาของ เด็กชายชัยภาษ ด่านเกื้อกูล หรือน้องเท็น ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2549 ปัจจุบันลูกหายไปนาน 10 ปีเต็ม กล่าวว่า ทุกวันนี้นับวันรอลูกกลับมาบ้าน ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยกันสนับสนุนการจัดทำรถเมล์ ตามหาเด็กหาย หวังว่าจะมีคนทราบเบาะแสและติดต่อกลับมา เชื่อว่าลูกยังมีชีวิตอยู่และมีความหวังในการได้ลูกคืน

นางสุรีรัตน์ บัวนาค มารดาของเด็กชายนฤดล เยื้อนหนูวงศ์ หรือน้องโอ๊ต กล่าวว่า บุตรชายของตนหายออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จากบ้านย่านอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2545 รวมระยะเวลาที่หายไปนานกว่า 14 ปี จนถึงตอนนี้ลูกชายจะมีอายุ 21 ปีเต็มแล้ว ยังไม่เคยมีเบาะแสที่ชัดเจนเกี่ยวกับลูกชายเลยจนถึงทุกวันนี้ หวังว่าหากโชคดีลูกของตนเองได้เห็นประกาศนี้ที่ข้างรถเมล์ ก็ขอให้ลูกติดต่อกลับมาหาแม่

ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ บูรณะ ผู้กำกับการ 2 กองทะเบียนประวัติอาชญากร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการ สเก็ตภาพจำลองเทียบเท่าอายุปัจจุบันของเด็กหาย หรือ AGE PROGRESSION กล่าว่า การสเก็ตภาพจำลองของเด็กหายเป็นกระบวนการที่นำมาช่วยในการทำภาพเปรียบเทียบเด็กที่หายไปนาน ว่าเมื่อโตขึ้นจะมีลักษณะรูปร่างหน้าตาแบบใด เพื่อเป็นแนวทางให้ประชาชนช่วยกันสังเกตุโดยปัจจุบันมีการทำภาพจำลองเด็กหายแล้วจำนวน 5 ราย

ทั้งนี้ จะมีรถเมล์ ตามหาเด็กหายวิ่งในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ จำนวน 5 คันในสาย 76 , 73ก ,27,29และ79 โดยจะวิ่งพร้อมกันในต้นเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้

 

"รถเมล์..ตามหาเด็กหาย" คันแรกของไทย  หวังเบาะแส-ตื่นตัวเรื่องเด็กหาย

 

 

"รถเมล์..ตามหาเด็กหาย" คันแรกของไทย  หวังเบาะแส-ตื่นตัวเรื่องเด็กหาย

 

"รถเมล์..ตามหาเด็กหาย" คันแรกของไทย  หวังเบาะแส-ตื่นตัวเรื่องเด็กหาย