นักเรียนออสซี่เจ๋งพบยารักษาHIV สูตรใหม่ราคาถูกกว่านายทุนสหรัฐ

กลุ่มนักเรียนชายจากโรงเรียนซิดนีย์แกรมมาคิดค้นยารักษาเอชไอวีสูตรใหม่ ที่มีราคาถูกกว่ายาจากบริษัทของสหรัฐ

เมื่อปีที่แล้ว มาร์ติน ชเครลี กลายเป็นบุคคลที่ถูกเกลียดชังมากที่สุดในสหรัฐ หลังจากซื้อลิขสิทธิ์ยา Daraprim ยารักษาอาการติดเชื้อที่ใช้อย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ป่วยมาลาเรียและเอชไอวี เขาประกาศขึ้นราคายาทันที 5,500% จาก 13.50 เป็น 750 เหรียญสหรัฐ แต่ล่าสุดนักเรียนมัธยมปลายออสเตรเลียกลุ่มหนึ่งได้คิดค้นยาสูตรเดียวกันนี้สำเร็จด้วยต้นทุนเพียง 20 เหรียญสหรัฐ หรือราว 173 บาทเท่านั้น

กลุ่มนักเรียนชายจากโรงเรียนซิดนีย์แกรมมา ในเมืองซิดนีย์ของออสเตรเลีย เริ่มทำการทดลองในห้องแล็บของโรงเรียนเมื่อปีที่แล้ว หลังจาก ทัวริง ฟาร์มาซูติคอลส์ บริษัทยาในสหรัฐของชเครลีประกาศขึ้นราคายา ซึ่งพวกเขาเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้ป่วยด้อยโอกาส โดยตั้งต้นจากสารคลอโรฟีนีล อะซีโตไนไตรล์ 17 ก. จากนั้นใช้เวลาทดลองจนกระทั่งสังเคราะห์ได้สารสำคัญในยา Daraprim ที่ชื่อ ไพริเมธามีน จำนวน 3.7 ก. เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งยาจำนวนนี้จะมีมูลค่าถึง 110,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3.92 ล้านบาท ในสหรัฐ

มัลคอล์ม วิลเลียมสัน อาจารย์สอนวิชาเคมีของนักเรียนกลุ่มนี้เผยว่า ที่พวกเขาต้องคิดค้นและสกัดยาใหม่ เนื่องจากสารเคมีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วบางตัวเป็นสารอันตราย

โครงการของเด็กกลุ่มนี้เกิดจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยซิดนีย์และ Open Source Malaria โครงการศึกษาและวิจัยเพื่อคิดค้นยาต้านมาลาเรีย โดย อลิซ วิลเลียมสัน ที่ปรึกษาโครงการจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ เผยว่า หลังจากเธอทราบเรื่องของชเครลี จึงเกิดความคิดจะให้นักเรียนคิดต้นสูตรยา เพราะหากเด็กๆ ทำได้โดยใช้ต้นทุนเพียงไม่กี่บาทก็จะยิ่งแสดงให้เห็นว่าการขึ้นราคายาไม่ใช่เรื่องที่สมเหตุสมผล

อย่างไรก็ดี แม้ยาสูตรใหม่จะมีราคาถูกกว่าที่จำหน่ายอยู่ในสหรัฐ ทว่า กลับไม่สามารถนำไปจำหน่ายให้ชาวอเมริกันได้ เนื่องจากติดขัดเรื่องช่องว่างของกฎหมาย ที่ให้สิทธิ์ บริษัท ทัวริง ฟาร์มาซูติคอลส์ในการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวแม้ว่าสิทธิบัตรของยา Daraprim จะหมดอายุแล้วก็ตาม

ทว่า หากทางโครงการต้องการจำหน่ายยาที่เพิ่งคิดค้นสำเร็จในชื่อสามัญตามท้องตลาด ก็พอจะมีทางอยู่บ้าง แต่จะต้องใช้เงินทุนที่สูงขึ้น เนื่องจากต้องเริ่มกระบวนการทดสอบทางคลินิกใหม่ทั้งหมดเพื่อเปรียบเทียบยาสูตรใหม่กับสูตรของเจ้าพ่อบริษัทยาชาวอเมริกัน และจะต้องได้รับอนุญาตจากบริษัทเพื่อวิจัยเปรียบเทียบด้วยจึงจะจำหน่ายได้อย่างถูกกฎหมาย

ในขณะที่ มาร์ติน ชเครลี เจ้าของสิทธิบัตรยาคนปัจจุบัน ทวีตตอบคำถามของทวิตเตอร์ใน @TwitterMomments ว่า ไม่ถือว่าเด็กๆ กลุ่มนี้เป็นคู่แข่ง