posttoday

พลังการรณรงค์ออนไลน์ช่วย "อุรังอุตัง" พ้นกรงขังที่ภูเก็ต

24 กุมภาพันธ์ 2559

พลังการรณรงค์ผ่านออนไลน์ของผู้คนช่วยให้ "ไมโล" อุรังอุตังพ้นจากการมีชีวิตความเป้นอยู่ที่ไม่เหมาะสมในสวนสัตว์ที่ภูเก็ต

พลังการรณรงค์ผ่านออนไลน์ของผู้คนช่วยให้ "ไมโล" อุรังอุตังพ้นจากการมีชีวิตความเป้นอยู่ที่ไม่เหมาะสมในสวนสัตว์ที่ภูเก็ต

เมื่อเร็วๆ นี้การรณรงค์เพื่อช่วยเหลืออุรังอุตัง ‘ไมโล’ หรือ “Change.org/Save Milo” ซึ่งมีเป้าหมายในการช่วยเหลืออุรังอุตัง เพศเมีย วัย 13 ปี ออกจากสวนสัตว์ภูเก็ต ให้พ้นจากการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่เหมาะสม เป็นอีกหนึ่งการรณรงค์ที่ได้รับความสนใจ ได้รับการตอบรับจากสังคมส่งผลให้ประสบความสำเร็จ

“สภาพความเป็นอยู่ของไมโลย่ำแย่มาก อยู่ในกรงที่เป็นห้องผนังปูนไร้แสงสว่าง มีม่านม้วนปิดประตูกรงจนมืดสนิท เวลาสั้นๆ ที่ไมโลได้ออกมาสู่โลกภายนอกนั้น ก็ถูกบังคับให้แต่งตัวใส่หมวกใส่แว่นตาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ไมโลไม่มีความสุขเลย มักจะนั่งกอดอกหน้าบึ้งแสดงสีหน้าไม่พอใจ ไมโลมีรูปร่างอ้วน และซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ไมโลสมควรได้ใช้ชีวิตที่ดีกว่านี้”

ข้อความส่วนหนึ่งที่แปลมาจากเนื้อความของการรณรงค์ซึ่งเดิมเป็นภาษาอังกฤษ

จุดเริ่มต้นของการรณรงค์นี้เกิดจากคุณ วิคกิ เคียลี ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต เป็นอาสาสมัครด้านการช่วยเหลือสัตว์ เธอเห็นสภาพที่น่าสงสารของไมโล จึงต้องการช่วยเหลือ

เรื่องรณรงค์ของเธอสร้างกระแสสนับสนุนผ่านในโซเชียล และในหมู่ของผู้รักสัตว์ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รายชื่อผู้สนับสนุนการรณรงค์จึงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ คุณ วิคกิ ยังได้รับการช่วยเหลือด้านการประสานงานจากหน่วยงานพิทักษ์สัตว์ในประเทศไทย อย่างมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าด้วย

ผลจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หน่วยงานจากภาครัฐอันได้แก่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าตรวจสอบใบอนุญาตและสภาพความเป็นอยู่ของไมโล ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบที่สวนสัตว์ภูเก็ตกลับไม่พบตัวไมโลแต่อย่างใด จึงสอบถามไปทางสวนสัตว์ภูเก็ตก็ได้รับคำตอบว่าได้นำอุรังอุตังไมโลไป “ปล่อย”ในป่าบริเวณเขาพระแทวแล้ว ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่ทางสวนสัตว์ได้อ้างว่าพบไมโลครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเมื่อทีมงานเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการค้นหา ก็พบกรงเหล็กที่ถูกล็อคและมีไมโลถูกขังอยู่ด้านในวางทิ้งไว้ในป่า

“การที่ทางสวนสัตว์ภูเก็ตครอบครองอุรังอุตังโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน ไม่มีใบอนุญาตถือเป็นความผิดทางกฎหมาย ซึ่งทางเจ้าของสวนสัตว์ก็ออกมายอมรับกับสื่อมวลชนภายหลังว่า ไม่มีเอกสารในการซื้อหรือสิทธิในการครอบครองไมโลที่ถูกต้อง ทางมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าในขณะนี้กำลังดำเนินการให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการเพิกถอนใบอนุญาตการดำเนินงานของสวนสัตว์ภูเก็ตต่อไป”เอดวิน ไวค์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า กล่าว

ในที่สุดการช่วยเหลือก็สำเร็จลุล่วงจากการประสานงานของหลายหน่วยงานที่ทำงานเพื่อสัตว์ อุรังอุตังไมโลถูกย้ายไปพักรักษาตัวที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า จ.พังงา ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและเหมาะสมจากสัตวแพทย์ พร้อมจะได้รับการขยับขยายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีกว่าในจังหวัดราชบุรีต่อไป

พลังการรณรงค์ออนไลน์ช่วย "อุรังอุตัง" พ้นกรงขังที่ภูเก็ต

“ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ดิฉันกังวลใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าไมโลหายตัวไป วันนั้น ดิฉันและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเป็นอยู่ของไมโลที่สวนสัตว์ ซึ่งพบว่าสวนสัตว์ครอบครองไมโลอย่างผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ตัวแทนเจ้าของสวนสัตว์ภูเก็ตยังบอกว่า พวกเขาได้ปล่อยไมโลเข้าป่าไปแล้ว

เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ร่วมกันค้นหาไมโลจนในที่สุดก็เจอไมโลอยู่ในกรงขังในป่า แล้ววันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ดิฉันก็ได้พบไมโล เราปล่อยเธอออกจากกรง ไมโลโผเข้ากอดฉันอย่างนุ่มนวล แม้เธอจะตื่นกลัวจากผู้คนแต่ทุกคนสัมผัสได้ถึงความสุขของไมโล”วิคกิ กล่าว

ความสำเร็จของการรณรงค์ช่วยเหลืออุรังอุตังไมโลได้ภายในเวลาเพียง 3 สัปดาห์เช่นนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพลังประชาชนนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างกระแส ผลักดันให้เกิดการตรวจสอบทั้งการขึ้นทะเบียนสัตว์และสภาพความเป็นอยู่ของไมโล

เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ก็ได้มีกรณีการรณรงค์ให้ช่วยเหลือลิงชิมแปนซีที่ถูกเลี้ยงดูอย่างทรมานในกรงแคบซึ่งมีการรณรงค์มาอย่างต่อเนื่องแต่ยังต้องการเสียงสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รีบดำเนินการช่วยเหลือ เช่นเดียวกับที่ช่วยไมโล