posttoday

ทนายร้องดีเอสไอจี้ดำเนินคดีฟอกเงินกรุงไทยไม่เลือกปฏิบัติ

19 กันยายน 2560

ทนายวันชัย ร้องดีเอสไอ ขอให้ดำเนินคดีฟอกเงินกรุงไทย กับผู้กระทำความผิดทุกราย โดยไม่เลือกปฏิบัติ

ทนายวันชัย  ร้องดีเอสไอ ขอให้ดำเนินคดีฟอกเงินกรุงไทย กับผู้กระทำความผิดทุกราย โดยไม่เลือกปฏิบัติ

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. เวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระเดินทาง เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายฟอกเงินกับผู้กระทำความผิดทุกราย โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ ในคดีความผิดฐานฟอกเงินกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) การทุจริตอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง

นายวันชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ดีเอสไอยังไม่ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานฟอกเงินรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเลือกดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพียงส่วนหนึ่ง ทั้งที่ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน มีผู้บริหารที่ร่วมอนุมัติเงินกู้ 5 ราย แต่กลับถูกดำเนินคดีเพียง 3 รายเท่านั้น ซึ่งอีก 2 รายที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีคือนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์

นายวันชัย กล่าวอีกว่า อยากขอให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย ตั้งแต่ผู้โอนเงิน และผู้รับโอนเงินจากการกระทำความผิดดังกล่าวทั้งบุคคลและนิติบุคคลประมาณ 200 ราย รวมทั้งการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับอนุมัติวงเงินสินเชื่อจำนวน 9,900 ล้านบาทให้กับบริษัทโกลเด้นเทคโนโลยี อินดัลเทรียล พาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกฤษดามหานคร โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าบริษัทโกลเด้นเทคโนโลยีฯ ได้นำเงินสินเชื่อ ซึ่งไม่อยู่ในวัตถุประสงค์ของการอนุมัติสินเชื่อ จำนวนกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงไปใช้เพื่อประโยชน์ของกลุ่มกฤษดามหานครและพวกพ้อง และหากพนักงานสอบสวนดีเอสไอยังไม่เร่งดำเนินการตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า หลังรับเรื่องแล้วจะส่งให้พนักงานสอบสวนสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีดำเนินการ โดยการสอบสวนได้ชี้แจงไปแล้วว่าพนักงานสอบสวนได้พิจารณาเสร็จและส่งให้อัยการไปแล้ว ส่วนคดีฟอกเงินคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพิ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะเรียกนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายอดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการ