posttoday

สมาคมนักข่าวฯตั้งกก.สอบปมผู้บริหารองค์กรสื่อถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศพนักงาน

10 กันยายน 2560

สมาคมนักข่าวฯ เห็นพ้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพาดพิงผู้บริหารองค์กรสื่อ เบื้องต้นพบปัญหาความสับสนในการหยิบยกหลายกรณีมาปะปนกันจนอาจส่งผลรุนแรงกับคู่กรณี

สมาคมนักข่าวฯ เห็นพ้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพาดพิงผู้บริหารองค์กรสื่อ เบื้องต้นพบปัญหาความสับสนในการหยิบยกหลายกรณีมาปะปนกันจนอาจส่งผลรุนแรงกับคู่กรณี

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  นายมงคล บางประภา เลขาธิการสมาคมสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย   เปิดเผยว่า  ตามที่มีกระแสข่าวว่า ผู้บริหารองค์กรสื่อแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศพนักงานในสังกัด จนทำให้ต้องลาออกจากองค์กรและเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง กระทบต่อปัญหาจริยธรรมและคุณธรรมอันเป็นพื้นฐานของวิชาชีพสื่อมวลชนโดยรวม และภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนนั้น

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยมีความห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น  และได้หารือเบื้องต้นให้มีการตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหา  เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเป็นข้อมูลพื้นฐานให้สมาคมนักข่าวพิจารณาดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตามเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  เนื่องการกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามสื่อออนไลน์มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง  โดยเฉพาะที่การอ้างถึงข้อความหรือ “โพสต์” ของนายสุเมธ สมคะเน กรรมการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และประธานสหภาพแรงกลางสื่อมวลชนไทยนั้น   นายสุเมธ ได้ชี้แจงว่า  ข้อเขียนดังกล่าวเป็นข้อเขียนที่เป็นเกิดจากการศึกษารวบรวมข้อมูลปัญหาคุกคามทางเพศเกิดขึ้นในหลายองค์กรสื่อ ของสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ซึ่งมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่เคยเป็นผู้เสียหายหลายกรณี มาตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2560 ไม่ใช่การนำเสนอเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งโดยเฉพาะ

ดังนั้น ก่อนที่ข้อเท็จจริงในกรณีนี้จะปรากฏโดยคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยขอวิงวอนให้เพื่อนสื่อมวลชนทุกแขนงระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย จนกว่าข้อเท็จจริงที่ชัดเจนจะปรากฏออกมา   เนื่องจากข้อมูลที่นำมาพูดต่อ ๆ กันมาเริ่มขยายความจนเกินระดับและขอบเขตของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงไปมาก  และพบว่ามีการนำหลายกรณีมาพูดปะปนกันจนถูกเข้าใจไปว่าเป็นกรณีใดกรณีหนึ่งโดยเฉพาะ

ทั้งนี้สมาคมนักข่าวฯ กำลังทาบทามกรรมการทั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก  กรรมการที่มาจากผู้บริหารองค์กรสื่อ และสื่อมวลชนที่ไม่มีส่วนได้เสียกับคู่กรณีในกรณีที่เกี่ยวพันกับองค์กรที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสมาคมนักข่าวฯ  เพื่อให้เกิดความเป็นจริงและความเป็นธรรม  อันเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ถูกต้องมากที่สุด  เพื่อให้คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าว ฯ พิจารณาดำเนินการในทางที่เหมาะสมต่อไป