posttoday

สาวขี้วีนขับรถชนท้ายพบตร.ปัดอ้างเป็นหลานอัยการ

18 พฤษภาคม 2560

ตำรวจ สน.โชคชัย เรียก สาวขี้วีนขับรถชนท้ายในคลิปฉาว พร้อมคู่กรณี เข้าเจรจา เจ้าตัวยอมรับสารภาพ พร้อมชดใช้ แต่ยืนยันไม่ได้อ้างเป็นหลานอัยการ โดนตร.แจ้งไป 3 ข้อหา

ตำรวจ สน.โชคชัย  เรียก สาวขี้วีนขับรถชนท้ายในคลิปฉาว พร้อมคู่กรณี เข้าเจรจา เจ้าตัวยอมรับสารภาพ พร้อมชดใช้ แต่ยืนยันไม่ได้อ้างเป็นหลานอัยการ โดนตร.แจ้งไป 3 ข้อหา

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. จากกรณีที่มีการแชร์คลิป ในเพจ "แหม่มโพธิ์ดำ" ถึงเหตุการณ์ที่มีหญิงสาวสองรายมีปากเสียง พร้อมระบุข้อความว่าผู้ที่ถ่ายคลิปคือผู้เสียหายที่ ถูกหญิงสาวที่กำลังอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวด่าทอ ขับขี่รถยนต์ชนท้าย ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเลียบทางด่วนรามอินทรา - เอกมัย เหตุเกิดช่วงเวลา 10.00น. วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่หญิงสาวที่ขับรถยนต์ชนท้าย จะขับออกจากจุดเกิดเหตุโดยอ้างว่ามีธุระด่วน จนเกิดมีปากเสียงที่จุดเกิดเหตุครั้งหนึ่ง และผู้เสียหายได้เรียก บริษัทประกันภัยเข้ามาเจรจา ก่อนที่ผู้ที่ขับขี่รถยนต์ชนท้ายจะหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ จนผู้เสียหายและบริษัทประกันได้ติดตามไปยังคอนโดแห่งหนึ่ง จนเกิดมีปากเสียงขึ้นอีกครั้งตามที่ปรากฏในคลิปที่มีการแชร์กันในขณะนี้ โดยสาเหตุที่มีประชาชนให้ความสนใจแชร์คลิปดังกล่าว เนื่องจากหญิงสาวที่ขับรถยนต์ชนท้ายมีการใช้ถ้อยคำหยาบคายในการด่าคู่กรณี และยังมีการอ้างว่า เป็นหลานของอัยการทำให้เป็นที่สนใจของประชาชนในสังคมออนไลน์

ล่าสุด พล.ต.ต. นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ. สุพล ค้ำชู  ผกก.สน.โชคชัย ได้เชิญ น.ส.น้ำทิพย์ หรือก้อย อายุ 33 ปี และน.ส.ธันยกานต์ หรือส้มโอ อายุ 26 ปี สองหญิงสาวคู่กรณีในคลิปดัง มาเจรจาที่สน.โชคชัย เนื่องจาก ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินการเอาผิด คู่กรณีในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ต้องมีการเชิญคู่กรณีทั้งสองมาเจรจาเพื่อทำความเข้าใจและยุติเหตุการณ์นี้

น.ส.น้ำทิพย์ หรือก้อย ผู้เสียหาย ระบุว่าในส่วนของเหตุการณ์รถชนกัน เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ติดใจ แต่ที่เข้าแจ้งความเนื่องจาก คู่กรณีไม่ยอมอยู่เคลียร์ในจุดเกิดเหตุและพยายามจะออกจากจุดเกิดเหตุ โดยให้ตนเองที่เป็นผู้เสียหายตามไปที่คอนโดของน.ส.ธันยกานต์  โดยอ้างว่ามีธุระ แต่เมื่อไปถึงกลับโดนต่อว่าและด่าทอโดยใช้คำพูดหยาบคาย ข่มขู่ และยังมีการอ้างว่าเป็นหลานอัยการ ทำให้ตนเองรู้สึกไม่พอใจ จึงเดินทางเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี

ขณะที่น.ส.ธันยกานต์ หรือส้มโอ รับสารภาพว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตามคลิปขึ้นจริง แต่ไม่ได้มีการอ้างว่าเป็นหลานของอัยการ ตามที่ผู้เสียหายเข้าใจ และเป็นที่วิจารณ์ของสังคมออนไลน์ ซึ่งในส่วนของค่าเสียหายได้ให้ทางบริษัทประกันดำเนินการชดใช้ตามขั้นตอน พร้อมขอให้ประชาชนที่เสพสื่อโซเชียล ให้ใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาอย่างตนด้วยเช่นกัน

พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้ง 3 ข้อหาแก่น.ส.ธันยกานต์ คือ ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย มีโทษปรับ 400-1000 บาท ซึ่งยืนยันว่าได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ เพื่อให้ทางศาลพิจารณา โดยขอฝากให้ประชาชนที่เกิดเหตุลักษณะนี้ ขอให้ใจเย็นและติดต่อประกันของตนเองมาเจรจา หรือหากเจรจาไม่ได้ให้เข้าแจ้งความจ่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปจัดการทางคดีต่อไป