posttoday

บิ๊กป้อมสั่งคุมเข้มคนขับแท็กซี่ เล็งพิจารณาห้ามขับตลอดชีวิตหากผิดซ้ำซาก

27 เมษายน 2560

"บิ๊กป้อม" สั่ง ตำรวจคุยคมนาคมล้อมคอกแท็กซี่ทำเสื่อมเสีย เน้นกลุ่มบริการในสนามบิน แย้มคนผิดซ้ำซากอาจพิจารณาห้ามขับตลอดชีวิต

"บิ๊กป้อม" สั่ง ตำรวจคุยคมนาคมล้อมคอกแท็กซี่ทำเสื่อมเสีย เน้นกลุ่มบริการในสนามบิน แย้มคนผิดซ้ำซากอาจพิจารณาห้ามขับตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีคนขับแท็กซี่ลวงสาวต่างชาติอดีตนางงามไปข่มขืน ที่ทุ่งนาใน ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น ติดตั้งกล้อง ซีซีทีวีและเพิ่มแสงสว่างในเวลากลางคืน 

ในส่วนของพนักงานขับรถโดยสารโดยเฉพาะรถแท็กซี่นั้น ยังไม่สามารถบังคับหรือกวดขันทั้งหมดได้ จึงต้องเพิ่มจิตสำนึกของประชาชนในเรื่องดังกล่าว  การห้ามคนที่จะก่อเหตุนั้น ห้ามไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของบุคคล ที่เห็นผิดเป็นชอบ จึงต้องเริ่มจากการปลูกฝังจริยธรรมให้ประชาชนมีจิตสำนึก ว่าไม่ให้ทำผิดกฎหมาย

ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการไม่เข้มงวดและไม่ตรวจประวัติคนขับรถแท็กซี่ที่เคยก่อเหตุมาก่อนนั้น  ทางรัฐบาลจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาหามาตรการในการดำเนินการป้องกัน ดังเช่นกรณีนี้ที่คนขับมีคดีติดตัวมาแล้วหลายคดี ซึ่งทางผู้ประกอบการจะต้องมีมาตรการในการพิจารณา โดยปกติจะต้องยกเลิกใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ แต่ในบางกรณีเชื่อว่าผู้ประกอบการก็ทราบว่าคนขับพึ่งพ้นโทษมา แต่ก็ต้องการให้โอกาส มีอาชีพได้

กรณีที่มีการเรียกร้องให้เพิ่มความเข้มขวดเกี่ยวกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ให้คัดกรองคนขับรถ หรือเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดซ้ำซาก เหมือนกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดที่ผู้ต้องขังมีประวัติก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า  ทางรัฐบาลจะรับไว้ดำเนินการ และจะเรียกประชุมหารือแนวทางแก้ไข เช่น พิจารณาห้ามขับรถสาธารณะตลอดชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องนำเรื่องไปหารือกับกระทรวงคมนาคมต่อไป รวมถึงจะมีการเรียกประชุมกับผู้ประกอบการทั้งหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถสาธารณะในสนามบินที่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างภาพลักษณ์อันดีในกรท่องเที่ยวในประเทศ ขณะที่กลุ่มผู้พ้นโทษก่อผิดซ้ำนั้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมดอย่าเหมารวม  กระทรวงยุติธรรมมีมาตรการป้องกันแก้ไขเรื่องนี้อยู่  

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า   ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้เร่งดำเนินการสอบสวนสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างจริงจัง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้มากมาย และกำลังรือฟื้นติดตามตัวผู้ที่เคยถูกออกหมายจับมากกว่า 50,000-60,000 หมื่นคดีทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ระยะหลังมีผู้ที่เคยกระทำผิดพ้นโทษออกมาก่อคดีซ้ำที่รุนแรงยิ่งขึ้นบ่อยครั้ง ทางรัฐบาลจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้กรมราชทัณฑ์ดูแลอยู่แล้ว โดยระหว่างอยู่อยู่ในสถานกักกันก็มีมาตรการอบรมต่าง ๆ อยู่แล้ว เรื่องดังกล่าวจึงอยู่ที่บุคคล เพราะผู้ที่พ้นโทษออกมาส่วนใหญ่ที่กลับตัวเป็นคนดีไม่ออกมาก่อคดีซ้ำ ก็ได้รับการยอมรับของสังคม มีเพียงไม่กี่คนที่ก่อเหตุซ้ำอีกหลังพ้นโทษออกมา