posttoday

ดีเอสไอเตือนมวลชนอย่ายกระดับชุมนุม

28 กุมภาพันธ์ 2560

รองอธิบดีดีเอสไอเตือนมวลชนอย่ายกระดับชุมนุม ลั่นไม่เชื่อดำเนินการตามกม.ทันที

รองอธิบดีดีเอสไอเตือนมวลชนอย่ายกระดับชุมนุม ลั่นไม่เชื่อดำเนินการตามกม.ทันที

วันที่ 28 กพ. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ทางการข่าวพบว่ามีการจัดตั้งมวลชนที่ตลาดกลางคลองหลวง ประมาณ 700 คน เพื่อเตรียมใช้กลยุทธ์ในการผลักดันเจ้าหน้าที่ และพยายามยกระดับและใช้ลักษณะของมวลชนเข้ามาปฏิบัติการมากขึ้น ทั้งนี้ การข่าวดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แลกเปลี่ยนข้อมูลกันมาโดยตลอด พบว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวสนับสนุนมวลชน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในประเทศ แต่จะมีต่างประเทศด้วยหรือไม่นั้น ต้องขอตรวจสอบก่อน

อย่างไรก็ตาม จากนี้จะใช้มาตรการจริงจังในการที่จะเรียกคนที่เป็นแกนนำหรือบุคคลที่อยู่เบื้อง หลังประมาณ 40 คน เข้ามารายงานตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลมา 3-4 วัน เกี่ยวกับมวลชน โดยมี 2 ลักษณะ คือ 1.คล้ายกับมวลชนจัดตั้งประมาณ 200 คน ซึ่งจะมีตัวเลขคงที่ และ 2.มวลชนที่เดินทางไปกลับ ซึ่งจะมีเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาที่มีสถานการณ์สำคัญ หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมก็จะเหลืออยู่ 200-300 คน นอกจากนี้ ก็จะมีพระสงฆ์หมุนเวียนเข้ามา และยังพบข้อมูลทางการข่าวเพิ่มเติมว่า มีการให้มวลชนเล็ดรอดเข้าตลาดกลางคลองหลวง ตามแนวตะเข็บที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ ช่วงเวลา 03.00-05.00 น. ซึ่งกำลังดำเนินการสกัดอยู่

"ทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีก็มีคำสั่งไปยังพระสงฆ์ในจังหวัดปทุมธานีหมดแล้ว ว่าห้ามเข้ามาร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ ส่วนพระวินยาธิการ และเจ้าคณะอำเภอที่อยู่ที่ประตู 7 วัดพระธรรมกาย ก็ยืนยันแล้วว่าหลังจากที่เข้าไปทำการตรวจคัดกรองพระสงฆ์ ก็ทราบว่าพระสงฆ์เป็นพระที่มาจากสาขาของวัดพระธรรมกาย ตอนนี้มาตรการเชิงรุกทางฝ่ายสงฆ์ โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตรวจสอบใบสุทธิในการเป็นพระ หากไม่มีจะถูกดำเนินคดีข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ส่วนของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มีการขึ้นป้าย "We need food & Drug" จริงๆแล้วเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปได้ ดังนั้น ปัญหาเรื่องนี้ไม่มี แต่เหตุที่เราต้องควบคุมพื้นที่ไว้ เพราะไม่อยากให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเติมเข้าไปในพื้นที่ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องการให้คนอยู่ภายในออกมา" พ.ต.ต.วรณัน กล่าว

ส่วนอีกประเด็น คือ กลยุทธ์ที่พยายามหาจุดผิดพลาดบกพร่องของเจ้าหน้าที่ และพยายามสื่อสารตีข่าวดำเนินคดี เพื่อให้เจ้าหน้าที่เสียขวัญ เช่น เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไปลงลายมือชื่อแทนพระที่จะเข้ามาในตลาดกลางคลองหลวง ซึ่งจริงๆแล้วแบบสอบถามดังกล่าว นั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามและอำนวยความสะดวกโดยการกรอกข้อมูลให้ แต่พระมีการท้วงติง ก็ได้เปลี่ยนข้อความในเอกสารบางข้อให้แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีการปกปิดอะไร

ทั้งนี้ การปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 ในข้อ 10 ได้คุ้มครองเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไว้อยู่แล้ว ที่กำหนดการบริหารงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งถูกฟ้องทางแพ่งและอาญาไม่ได้อยู่แล้ว จึงต้องเรียนให้ทราบ เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้เอกสารแบบฟอร์มที่จุดคัดกรองเข้าวัด และตลาดกลางคลองหลวง ได้เปลี่ยนแปลงข้อความที่อยู่ใต้ข้อ 7.เหตุผลที่เดินทางออกจากวัดพระธรรมกาย โดยตัดคำว่า "หากพระสงฆ์เดินทางออกนอกวัดพระธรรมกายซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม จะไม่เดินทางกลับมาภายในระหว่างที่มีการควบคุมพื้นที่อีก และหากทำผิดข้อตกลงก็สามารถดำเนินคดีกับพระสงฆ์ได้ตามกฎหมายต่อไป"

ขณะที่ บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า บริเวณประตู 7 วัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้นำป้ายไวนิลมาติดตั้งบริเวณทางเข้า โดยมีข้อความทั้งภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษว่า "ประกาศ งดภิกษุ-สามเณร ชุมนุมขัดขวางเจ้าหน้าที่ บริเวณวัดพระธรรมกายเป็นความผิดตามกฏหมาย" รวมทั้งนำไปติดตั้งบริเวณจุดคัดกรองตลาดกลางคลองหลวง