posttoday

"ศรีวราห์"ลงใต้ขอศาลออกหมายจับ"ศักรินทร์"3ข้อหาหนัก

23 สิงหาคม 2559

พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมฝ่ายกฎหมาย คสช. ลงพื้นที่ จ. นครศรีธรรมราช ยื่นศาลทหารออกหมายจับ "ศักรินทร์" 3 ข้อหาหนัก พอใจคดีคืบหน้ากว่า 50 %

พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมฝ่ายกฎหมาย คสช. ลงพื้นที่ จ. นครศรีธรรมราช ยื่นศาลทหารออกหมายจับ "ศักรินทร์" 3 ข้อหาหนัก พอใจคดีคืบหน้ากว่า 50 %

วันที่ 23 ส.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.วิจารณ์ จดแตง ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. หน่วยตรวจสอบเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดี กองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสเก็ตซ์ภาพกองทะเบียนประวัติอาชญากร และคณะทำงานลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุระเบิดและวางเพลิงว่ามีความคืบหน้าอย่างไรรวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานว่าดำเนินการถึงขั้นตอนไหน รวมถึงดำเนินการขออำนาจศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 41 ออกหมายจับนายศักรินทร์ คฤหัส ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ใน 3 ข้อหา คือร่วมกันครอบครองวัตถุระเบิด กระทำการให้เกิดเหตุระเบิด และวางเพลิง หลังพบพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีการใช้วัตถุระเบิดแรงดันต่ำในการก่อเหตุเผาห้างฯโลตัส ในจ.นครศรีธรรมราชชัดเจน จึงต้องมีการถอนหมายจับจากศาล จ.นครศรีธรรมราช และขอหมายจับที่ศาลทหารใหม่อีกครั้ง โดยใช้พยานหลักฐานเดิมและรายงานเรื่องการตรวจสอบวัตถุระเบิดจากทางอีโอดีในการขอออกหมายจับ ส่วนการกักตัวนายศักรินทร์และปล่อยตัวนั้นเป็นอำนาจของทางคสช.ที่สามารถกระทำได้กับผู้ต้องสงสัย ซึ่งทางตนและพนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือสอบปากคำกับนายศักรินทร์ ส่วนนายศักรินทร์จะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ กว่า 20 คน ที่พบว่ามีหลักฐานว่าเป็นกลุ่มก่อเหตุหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกัน ซึ่งการออกหมายจับเป็นไปตามพยานหลักฐานที่พบเท่านั้น

นอกจากนี้ ในวันนี้ที่มีหลายฝ่ายลงพื้นที่เพื่อไปชี้แจงต่อศาลทหาร ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อม หากศาลต้องการไต่สวนถึงรายละเอียดคดี ขณะที่หากมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครก็สามารถดำเนินการออกหมายจับได้ทันทีตนมั่นใจว่าพยานหลักฐานในคดีนี้มีความคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 50 และตนพอใจในการทำคดีของพนักงานสอบสวน

ส่วนกรณีการจับกุม กลุ่มแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย หรือ นปป. จำนวน 15 คน นั้น ตนยืนยันว่าไม่มีหลักฐานและความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้ แน่นอน เพราะตนดูแลสำนวนอยู่

สำหรับวัตถุระเบิดที่ผู้ก่อเหตุใช้สร้างสถานการณ์นั้นทางเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ระบุว่า มี 2 ลักษณะคือ ลักษณะแรกเป็นระเบิดเพลิงแสวงเครื่อง แฝงอยู่ในพาวเวอร์แบงก์ขนาดใกล้เคียงฝ่ามือ (10x20 เซนติเมตร) ภายในมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงเป็นตัวจุดฉนวน พ่วงกับถุงบรรจุดินประสิวและส่วนผสมอื่นๆ โดยพบว่าระเบิดเพลิงดังกล่าวถูกนำไปใช้ในเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าโลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนำไปวางไว้บนชั้นวางสินค้าประเภทผ้าอนามัย
อีกลักษณะเป็นระเบิดแสวงเครื่องใส่ในกล่องมันฝรั่งยี่ห้อปริงเคิล ภายในมีกระบอกเหล็กบรรจุโทรศัพท์มือถือตัวจุดฉนวน พ่วงกับส่วนผสมระเบิดบริเวณท้ายกระบอก ถูกนำไปวางตามจุดท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ เพื่อความสถานการณ์ความวุ่นวาย สำหรับระเบิดลักษณะที่ 2 มีรายงานข่าวถึงการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดป่วนเมืองช่วงปลายปี 2549 ต่อเนื่อง 2550 บริเวณห้างซีคอนสแควร์ โดยผู้ผลิตระเบิดอาจเป็นคนเดียวกัน มีวัตถุประสงค์คือการสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนวุ่นวาย แต่เนื่องจากจุดที่เกิดระเบิดมีประชาชนอยู่ใกล้เคียง จึงทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต