posttoday

สรส. น้อยใจ "ศิริชัย"เมินเสียงขอขึ้นเงินเดือน

19 สิงหาคม 2559

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ บุกพบ รมว.แรงงาน ขอให้พิจารณาขึ้นเงินเดือน - แต่ไร้ผล ก่อนกลับบ่นน้อยใจ เตรียมกลับไปประชุมหาทางเคลื่อนไหวต่อ

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ บุกพบ รมว.แรงงาน ขอให้พิจารณาขึ้นเงินเดือน - แต่ไร้ผล ก่อนกลับบ่นน้อยใจ เตรียมกลับไปประชุมหาทางเคลื่อนไหวต่อ

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เวลา 10.00 น.  ที่กระทรวงแรงงาน   นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) พร้อมด้วยผู้แทนองค์กรแรงงานรัฐวิสาหกิจหลากหลายองค์กร อาทิ การยางแห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด กว่า 50 คน เดินทางมาเพื่อทวงถามและให้กำลังใจ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ที่จะมีการประชุมกันวันนี้ เพื่อขอให้ติดตามพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนแก่พนักงานรัฐวิสาหกิจ

นายสาวิทย์ กล่าวว่า การที่ สรส. เดินทางมาวันนี้เพื่อต้องการมาให้กำลังใจ รมว.แรงงาน เพื่อขอให้ติดตามความคืบหน้าการพิจารณาการปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี ส่งเรื่องกลับมาให้ทางกระทรวงฯ.พิจารณาอีกครั้ง แต่ด้วยเวลาที่เนินนานแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าจึงขอให้ทางกระทรวงเร่งรัดในการดำเนินการติดตามให้มีความก้าวหน้าโดยเร็ว

เลขาธิการ สรส. เปิดเผยอีกว่า ตามมติที่ทาง สรส. ได้ยื่นรายละเอียดการเสนอปรับขึ้นเงินเดือน ระบุว่า พนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีเงินเดือนอยู่ที่ระดับ 43,890 บาท ถ้าต่ำกว่าจำนวนนี้ขอให้มีการพิจารณาปรับขึ้นอีก 4% หรือ เพิ่ม 1 ขั้น  หรือถ้ายอดเงินเดือนมากกว่า 43,890 บาทขอให้มีการปรับขึ้นเงินเดือน 2% หรือ เพิ่ม ครึ่งขั้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานของพนักงานรัฐวิสาหกิจให้มีกำลังใจในการทำงาน และทำให้อยู่ในสภาวะสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันได้

อย่างไรก็ตามเมื่อทางกลุ่ม สรส. ได้รอพบและมอบช่อดอกไม้แก่ทาง พล.อ.ศิริชัย จนถึงเมื่อเวลา 11.00 น.แต่ทางรัฐมนตรีฯไม่ได้เดินทางลงมาพบด้วยตนเอง เนื่องจากติดภารกิจ แต่จะมอบหมายให้นายสุวิทย์ สุมาลา รองปลัดกระทรวงแรงงานลงมาพบแทน ดังนั้นทางกลุ่ม สรส.จึงเดินทางกลับอย่างสงบ พร้อมประกาศว่ารู้สึกน้อยใจที่ทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไม่ลงมาติดตามรับฟังปัญหา ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการนำกลับไปหารือว่าจะดำเนินการในทิศทางอย่างไรต่อไป