ออกหมายเรียก"หมอเปรม"พบตำรวจ1สค.
ศาลออกหมายเรียก "นพ.เปรมศักดิ์" พบพนักงานสอบสวน 1 ส.ค. กักขังสื่อ ด้าน"เจ๊เบียบ" รับไม่ได้ข่าวฉาว แต่งเด็ก ม.5-ทะเลาะนักข่าว จี้ค้นหาความจริง
ศาลออกหมายเรียก "นพ.เปรมศักดิ์" พบพนักงานสอบสวน 1 ส.ค. กักขังสื่อ ด้าน"เจ๊เบียบ" รับไม่ได้ข่าวฉาว แต่งเด็ก ม.5-ทะเลาะนักข่าว จี้ค้นหาความจริง
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ในฐานะผู้แทนของ พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อม พ.ต.อ.จำรัส จันทร์แดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ และทีมสืบสวนรับผิดชอบคดีแถลงความคืบหน้าในคดีนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวอาวุโส หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ศูนย์ข่าวภาคอีสานตอนบน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น อดีต สส.ขอนแก่น ในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังและข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการใดๆ โดยมีผู้สื่อข่าวอีก 4 คน เป็นพยาน
พ.ต.อ.วิทยากล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ได้มากพอ จึงทำหนังสือขออนุมัติหมายจับ นพ.เปรมศักดิ์ แต่ทางศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า นพ.เปรมศักดิ์มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จึงเห็นควรออกหมายเรียกก่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน ในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค. 2559 เวลา 13.00 น. โดยนำหมายเรียกไปส่งยังที่ทำการเทศบาลเมืองบ้านไผ่ มีเลขาฯของ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นผู้รับแทน หากถึงวันนัดหมาย นพ.เปรมศักดิ์ไม่มาพบ พนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จะขอศาลอนุมัติออกหมายจับทันที
ด้าน นางระเบียบรัตน์ พงษ์พาณิชย์ นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวว่า การกระทำของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุะ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าโดยส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจเพราะทำให้จังหวัดขอนแก่นเสียชื่อและเสียภาพลักษณ์ อีกทั้งคู่กรณีเป็นผู้สื่อข่าวและ นพ.เปรมศักดิ์ ซึ่งต่างก็เป็นบุคคลสาธารณะ จึงไม่อยากให้มีปมประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการผิดศิลธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญถือเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่จะทำให้บุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้บริหารท้องถิ่นมีจิตสำนึกในการวางตัวให้เหมาะสมมากขึ้น
“จากการติดตามข่าวดังกล่าวเชื่อว่าจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่โกหกไม่ยอมรับความจริง ซึ่งต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการค้นหาความจริงออกมาว่าเรื่องจริงมันคืออะไร อีกไม่นานความจริงต้องปรากฏออกมาแน่นอน ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายที่ผิดเขารู้แก่ใจตัวเองอยู่แล้ว” นางระเบียบรัตน์ กล่าว
นางระเบียบรัตน์ กล่าวอีกว่าขณะนี้ทุกฝ่ายได้รับผลกระทบทางสังคมกันหมด ทั้งฝ่ายผู้สื่อข่าว ฝ่าย นพ.เปรมศักดิ์และฝ่ายเด็กนักเรียนผู้หญิง ม.5 ดังนั้นในตอนนี้จึงไม่สามารถบอกได้ว่าฝ่ายใดถูกฝ่ายใดผิดเพราะต้องรอผลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะเรื่องนี้จะปล่อยให้เงียบไม่ได้ ต้องทำความจริงให้ปรากฏเร็วที่สุด แต่หากเรื่องล่าช้าหรือเงียบหายไป ทั้งสื่อมวลชนและสังคมต้องช่วยกันติดตาม
ด้านนายเดชดำรง สิงคลีบุตร ส.อบจ.บ้านไผ่ กล่าวว่า ชาวบ้านไผ่คงจะรวมตัวเพื่อทวงศักดิ์ศรีอย่างแน่นอน เพื่อกดดันหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะชาวบ้านไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางจังหวัดจะมีการดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายด้วยความยุติธรรมหรือไม่