ยุติค้นธรรมกาย ดีเอสไอถอย เจอคณะศิษย์ขวาง

ดีเอสไอคว้าน้ำเหลว ต้องยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เจอคณะศิษย์ตั้งกำแพงมนุษย์ขวาง

วันที่ 16 มิ.ย. ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวงประมาณ 20 คน นำหมายศาลเข้าค้นวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา แม้ทางวัดจะให้ความร่วมมือ แต่กลับถูกขัดขวางโดยลูกศิษย์ โดยอ้างว่า พระธัมมชโย อาพาธหนัก พร้อมจะเข้ามอบตัวในช่วงที่ประเทศเป็นประชาธิปไตย จนทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าตรวจค้นภายในวัดต่อไปได้ 

ต่อมาเวลา 13.30 น.พ.ต.ต.สุริยา  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองและสำนักพระพุทธศาสนา โดยมีพระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ร่วมแถลงข่าวบริเวณทางเข้าประตู 7

ด้านพระสนิทวงศ์ กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่เดินทางมาพร้อมหมายค้น ทางวัดก็ให้ความร่วมมือเต็มที่ พาเดินตรวจวัด ตั้งแต่ประตู 7 ประตู 6 และประตู 5 โดยกลุ่มลูกศิษย์ที่เฝ้าประตู 5 ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไป ซึ่งทางพระก็ย้งอ้อนวอนขอให้เปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบให้ได้ สาเหตุที่ต้องขอร้องกลุ่มดังกล่าวเนื่องจาก กลุ่มลูกศิษย์ชุดนั้นรักและเคารพหลวงพ่อมีความกตัญญู ส่วนที่ต้องขอร้องเนื่องจากลูกศิษย์หลวงพ่อบางท่าน อยู่วัดพระธรรมกายมาก่อนอาตมา ตั้งแต่รุ่นก่อตั้งวัดด้วยซ้ำ เท่ากับเป็นผู้ใหญ่ของวัดจึงต้องเคารพในการตัดสินใจของลูกศิษย์ ทั้งนี้หลวงพ่อธัมมชโย พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงขอโอกาสและขอความเห็นใจ ซึ่งทราบว่าขั้นตอนอยู่ในชั้นอัยการ ทางวัดก็จะขอดูท่าทีทางอัยการต่อไป

พ.ต.ต.สุริยา เผยว่า ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และสำนักพระพุทธศาสนา ได้ใช้ความพยายามในการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่มีการพกพาอาวุธ ไม่มีรถหุ้มเกราะแต่อย่างใด และไม่มีความรุนแรง สรุปได้รับความร่วมมือบางส่วน ซึ่งในการเจรจาขณะที่เดินทางไปถึงประตู 5 ได้มีมวลชนต่อต้านไม่ให้เข้าไป ทางดีเอสไอได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินความผิดต่อไป ทั้งนี้มั่นใจว่าพระธัมมชโย ยังคงอยู่ในวัดพระธรรมกาย แม้ทางวัดจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่กลับถูกขัดขวางโดยมีลูกศิษย์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าพระธัมมชโย อาพาธหนัก และยืนยันในความบริสุทธิ์ และพร้อมจะเข้ามอบตัวในช่วงที่ประเทศเป็นประชาธิปไตย จนทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าตรวจค้นภายในวัดต่อไปได้

"โดยในวันนี้ได้ยุติภารกิจลงแล้ว สรุปว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย โดยได้รับความร่วมมือจากพระ แต่มีลูกศิษย์บางกลุ่มได้ทำการขัดขวาง ซึ่งดีเอสได้มีการบันทึกภาพผู้ที่ขัดขวางไว้หมดแล้ว หลังจากนี้จะดำเนินตามกฏหมายต่อไป พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเสไอได้มอบหมายให้ตนมาดูเรื่องนี้ ซึ่งคิดว่าปฏิบัติเต็มที่แล้ว โดยไล่จากเบาไปหาหนัก สำคัญคือต้องไม่มีใครบาดเจ็บ เราก็ทำได้ แต่สื่อมวลชนที่มาวันนี้ก็ได้เห็นภาพได้ทราบข้อเท็จจริงแล้วว่า พระให้ความร่วมมือ แต่ลูกศิษย์บางกลุ่มได้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ แม้ทางพระจะอ้างว่า ได้ให้ความร่วมมือเต็มที่แล้ว แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ดังที่พูด แม้จะพูดอะไรมาก็ตามแต่" พ.ต.ต.สุริยา กล่าว

ต่อมา เวลา 14.10 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พร้อม พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์หลังเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายแต่ไม่สามารถจับกุม พระธัมมชโย ได้เนื่องจากถูกกลุ่มศิษยานุศิษย์ขัดขวาง ไม่ยินยอมให้ดำเนินการค้นบริเวณประตู 5

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวก่อนการประชุม ว่า ปัญหาที่พบระหว่างเข้าตรวจค้นภายในวัดคือพบกลุ่มมวลชนศิษยานุศิษย์มีพฤติการณ์ไม่ให้เข้าไปด้านในบริเวณประตู 5 ซึ่งทางดีเอสไอ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางวัดแต่มวลชนขัดขวางก็เป็นความผิดทางกฎหมายที่ต้องดำเนินการ ทั้งนี้การตรวจค้นในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จตามที่ผู้บังคับบัญชาได้กำชับไว้ไม่ให้เกิดความรุนแรงและได้ยุติการตรวจค้นลงแล้ว หลังจากนี้จะนำข้อเท็จจริงในวันนี้นำไปพิจารณาปรับแผนในการประกอบการเข้าตรวจค้นครั้งต่อไป ยืนยันยังคงมีหมายจับอยู่และได้แจกจ่ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจับกุมด้วย

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ได้รับการรายงานจากทางตำรวจสันติบาลยืนยว่า พระธัมมชโย ยังอยู่ภายในวัดและคดีนี้เป็นของ ดีเอสไอ ไม่สามารถก้าวล่วงได้ ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ตนมาดูแลเป็นพิเศษและการปฏิบัติหน้าที่ในวันนี้นับว่าประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ แม้ว่าตนในฐานะดูแลฝ่ายความมั่นคงการมาตรวจค้นในครั้งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธิ์รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านว่ามีการนำรถมาปิดขวางเส้นทางจราจรบริเวณรอบวัด จากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฏหมายต่อไป