posttoday

ชง “คสช.” ใช้ ม.44 ฟัน 17 จนท.รัฐ-นักการเมืองเอี่ยวยา

03 มิถุนายน 2559

"รมว.ยุติธรรม" สั่งตั้งทีมเช็คบิลเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง เอี่ยวยาเสพติด ป.ป.ส. เตรียมชงชื่อจัดการ 17 ราย ชงคสช. ใช้ ม.44 ฟัน

"รมว.ยุติธรรม" สั่งตั้งทีมเช็คบิลเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง เอี่ยวยาเสพติด ป.ป.ส. เตรียมชงชื่อจัดการ 17 ราย ชงคสช. ใช้ ม.44 ฟัน

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ. 2559–2560 ว่า สำหรับมาตรการการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งในแผนประชารัฐร่วมใจฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.) ได้ลงนามในคำสั่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ที่ 6/2559 ลงวันที่ 31 พ.ค. 2559 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและปล่อยปละละเลย 3 คณะ

นายณรงค์ กล่าวว่า ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านการข่าว เพื่อดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและปล่อยปละละเลย ซึ่งมีเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานอนุกรรมการ มีรองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นรองประธานฯ พร้อมทั้งผู้แทนจาก 13 หน่วยงาน รวม 18 คน โดยมีอำนาจหน้าที่ในการสืบเสาะ แสวงหา รวบรวมข้อมูลข่าวสาร ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ข้อเสนอเพื่อสนับสนุนข้อมูลข่าวสารให้แก่คณะอนุกรรมการด้านการปราบปรามยาเสพติด ด้านการป้องกันและบำบัดรักษายาเสพติด เพื่อการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว พร้อมแต่งตั้งคณะทำงานหรือชุดปฏิบัติการ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสาร

2.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านการปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและปล่อยปละละเลย ซึ่งมีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานอนุกรรมการ มีเลขาธิการ ป.ป.ส.เป็นรองประธานฯ พร้อมผู้แทนจาก 5 หน่วยงาน รวม 10 คน โดยมีอำนาจหน้าที่รับข้อมูล กลั่นกรอง รวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ข้อเสนอต่อ ผอ.ศอ.ปส. ในการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว พร้อมแจ้งเตือนให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการ ปรับปรุง แก้ไข ภายในเวลาที่กำหนด และ 3.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านการป้องกันและบำบัดรักษายาเสพติด เพื่อดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและปล่อยปละละเลย ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานอนุกรรมการ มีเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นรองประธานฯ พร้อมผู้แทนจาก 10 หน่วยงาน รวม 15 คน

นายณรงค์ กล่าวอีกว่า โดยมีอำนาจหน้าที่รับข้อมูลกลั่นกรอง รวบรวม ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ข้อเสนอต่อ ผอ.ศอ.ปส. ในการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและปล่อยปละละเลยด้านการป้องกันและบำบัดรักษายาเสพติด พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการปรับปรุง แก้ไขภายในเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ เบื้องต้น ป.ป.ส. ได้เตรียมเสนอข้อมูลการพบเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง และข้าราชการที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว 17 ราย และจะดำเนินการส่งให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาและดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ ก่อนส่ง ผอ.ศอ.ปส. เสนอต่อ หัวหน้า คสช. ในการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ดำเนินการ
 
สำหรับเรื่องพฤติการณ์เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และปล่อยปละละเลย คือ 1.กรณีพบพฤติการณ์เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้แก่ มีพฤติการณ์การค้ายาเสพติด คบค้าสมาคมกับผู้ค้า ยักยอกยาเสพติด คุ้มครองเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ค้ายาเสพติด และ 2.กรณีปล่อยปละละเลย แบ่งเป็นด้านการปราบปรามยาเสพติด คือ การปล่อยให้มีการค้ายาเสพติดในพื้นที่ จนหน่วยนอกเข้าไปจับกุม ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดโดยไม่ดำเนินการใดๆ ด้านป้องกันยาเสพติด คือ ปล่อยปละละเลยให้มีการเสพการค้าในสถานศึกษา หรือสถานประกอบการ หรือการปล่อยให้เยาวชนนอกสถานศึกษาเสพยาเสพติด และด้านการบำบัดรักษา คือ การไม่นำผู้เสพเข้าบำบัด ไม่คัดกรองและส่งต่อเข้าบำบัด ไม่ติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัด